เรามาต่อกันที่ EP.2 ของการสอบเทียบ Bore Gauge ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนการสอบเทียบเครื่องมือนี้ได้อย่างละเอียดและถูกต้อง หากคุณยังไม่ได้ดู EP.1 อย่าลืมย้อนกลับไปดูก่อนนะครับ!

วิธีการสอบเทียบ Bore Gauge ด้วย Comparison with Gauge Block

ใน EP. แรก เราได้พูดถึงการสอบเทียบ Bore Gauge โดยใช้ Standard Dial Gauge Testing Machine แต่ในครั้งนี้ เราจะมาศึกษาอีกหนึ่งวิธีการสอบเทียบที่เรียกว่า Comparison with Gauge Block โดยใช้ Standard ULM (Universal Length Measuring Machine)

วิธีนี้เหมาะสำหรับ Probe ที่มีลักษณะเป็น

• หัวบอลผ่าซีก (Split-Ball)
• Cylinder

ขั้นตอนการสอบเทียบ Bore Gauge

1. เตรียมการสอบเทียบ

• นำ Gauge Block ขนาด 10 mm มาใช้เปรียบเทียบ
• เลื่อน Probe ไปแตะที่ Gauge Block และทำการ Preset ค่า

2. การสอบเทียบ Forward

 โดยแบ่งเป็น 4 Step ดังนี้:

• Step 1: 0.001 mm – 0.005 mm (5 Point)
• Step 2: 0.010 mm – 0.100 mm (10 Point)
• Step 3: 0.150 mm – 0.500 mm (8 Point)
• Step 4: 0.100 mm (5 Point)

3. การสอบเทียบ Backward

หลังจากสอบเทียบ Forward เสร็จแล้ว ให้ทำการสอบเทียบ Backward ที่จุด Point เดียวกัน

ความสามารถของการสอบเทียบที่ CLC

วิธีการสอบเทียบนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB 

• สามารถสอบเทียบได้ถึง 500 mm
• การสอบเทียบแบ่งตาม Resolution ของเครื่องมือเป็น 0.01 mm และ 0.001 mm

สรุป

การสอบเทียบ Bore Gauge ด้วยวิธี Comparison with Gauge Block โดยใช้ Standard ULM เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ได้ค่าที่แม่นยำ เหมาะสำหรับ หัว Probe ประเภท Split-Ball และ Cylinder ซึ่ง CLC สามารถให้บริการสอบเทียบที่มีมาตรฐานระดับสากล  หากคุณต้องการสอบเทียบเครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐาน ติดต่อ CLC ได้เลย!

เครื่องวัดระดับน้ำ อุปกรณ์สำคัญสำหรับงานวัดระดับ

เครื่องวัดระดับน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวัดระดับความเอียงทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะงานก่อสร้างและงานวัดที่ต้องการความละเอียดสูง อุปกรณ์นี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1.Spirit Level: เครื่องวัดระดับน้ำแบบหยาบ

Spirit Level เป็นเครื่องวัดระดับน้ำที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างและงานติดตั้งทั่วไป หลายคนอาจเคยเห็นเครื่องมือนี้มาก่อน โดยอาศัยหลักการเคลื่อนที่ของฟองอากาศภายในหลอดแก้ว ฟองอากาศจะเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งสูงสุดเสมอ หากพื้นผิวที่วัดมีความเอียงมาก ฟองอากาศก็จะเคลื่อนที่ไปยังด้านที่สูงกว่า ทำให้สามารถสังเกตระดับของพื้นผิวได้ง่าย

2.Precision Level: เครื่องวัดระดับน้ำที่มีความละเอียดสูง

Precision Level เป็นเครื่องมือวัดระดับน้ำที่มีความละเอียดสูงกว่า Spirit Level เหมาะสำหรับงานที่ต้องการค่าความแม่นยำสูง เช่น การปรับระดับเครื่องจักร หรือปรับระนาบของโต๊ะหินแกรนิตที่ใช้ในงานวัด เครื่องมือนี้สามารถแบ่งระดับความแม่นยำ (Sensitivity) ตาม Class ได้ดังนี้:

• Class 1: Sensitivity 0.02 mm/m
• Class 2: Sensitivity 0.05 mm/m
• Class 3: Sensitivity 0.1 mm/m

หลักการทำงานของเครื่องวัดระดับน้ำ

เครื่องวัดระดับน้ำทำงานโดยใช้หลักการเคลื่อนที่ของฟองอากาศภายในหลอดแก้ว ฟองอากาศจะเคลื่อนที่ไปยังด้านที่สูงเสมอ หากพื้นเอียงไปทางใดมาก แสดงว่าพื้นที่ฝั่งนั้นต่ำกว่าฝั่งตรงข้าม ทำให้สามารถระบุความเอียงของพื้นผิวได้

การตัดสินเกรดของเครื่องวัดระดับน้ำ

เครื่องวัดระดับน้ำแบ่งออกเป็นเกรด A และ B โดยเกณฑ์การพิจารณาเกรดของเครื่องมือมีดังนี้:

• เกรด A: ผู้ผลิตจะระบุเกรดไว้ที่เครื่องมือโดยตรง
• เกรด B: หากไม่มีการระบุเกรดจากผู้ผลิต จะถูกพิจารณาเป็นเกรด B

เครื่องวัดระดับน้ำถือเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับงานที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

อ่านบทความ : วิธีใช้เครื่องวัดระดับน้ำเลือกใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

[button size=”medium” style=”primary” text=”ขั้นตอนการสอบเทียบเครื่องวัดระดับน้ำ” link=”https://www.cal-laboratory.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%82%e0%b8%ad/9689/”]

การสอบเทียบแรงดึง Force Gauge 

การสอบเทียบ (แรงดึง) Force Gauge เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาความแม่นยำและความถูกต้องของการวัดแรง โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตที่ต้องการความละเอียดสูง ซึ่งวิธีการการสอบเทียบนี้จะอ้างอิงมาตรฐาน ISO 7500-1 และใช้ Standard Weight Class M1 รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จาก 2 สถาบันทั้ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และประเทศสหรัฐอเมริกา ANSI National Accreditation Board (ANAB)
ใบรับรอง Scope การสอบเทียบ

Force Gauge หรือ Push-Pull Gauge คืออะไร?

Force Gauge หรือที่รู้จักกันในชื่อ Push-Pull Gauge เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดแรงที่กระทำต่อวัตถุในสองทิศทางหลัก ได้แก่ ทิศทางการผลัก (Push) และทิศทางการดึง (Pull) เครื่องมือนี้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และการตรวจสอบความแข็งแรงของวัสดุ

การใช้งาน Force Gauge ในอุตสาหกรรม 

Force Gauge ถูกออกแบบมาเพื่อ:

• ตรวจสอบแรงดึงและแรงอัดในชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น สลัก น็อต และส่วนประกอบเครื่องยนต์
• ประเมินความแข็งแรงและความปลอดภัยของวัสดุ เช่น แผ่นโลหะ เส้นเหล็ก หรือโครงสร้างอื่น ๆ

โดยเครื่องมือนี้มีให้เลือกทั้งแบบ Analog และ Digital ซึ่งสามารถติดตั้งกับ Test Stand (แท่นทดสอบ) หรือ Fixture (ฟิกซ์เจอร์) เพื่อความแม่นยำในการใช้งาน

Depth Micrometer คืออะไร?

เรียนรู้การใช้งาน Depth Micrometer หรือ ไมโครมิเตอร์วัดลึก ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวัดความลึกของรูเจาะ รูคว้าน หรือความต่างระดับของชิ้นงาน พร้อมแนะนำการแบ่งประเภทเครื่องมือทั้งแบบ Scale และ Digital

วิธีการใช้งาน Depth Micrometer อย่างถูกต้อง

เพื่อความแม่นยำในการวัด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

1. วางสะพานยัน (Base) อย่างแนบสนิทกับผิวของชิ้นงาน : เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการเอียงของเครื่องมือ
2. เลื่อนแกนวัดลึก อย่างช้าๆ ให้สัมผัสกับก้นรูหรือจุดที่ต้องการวัด
3. ทำการอ่านค่า ควรทำการวัดซ้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความถูกต้อง

ทำไมการสอบเทียบ Depth Micrometer ถึงสำคัญ?

เมื่อใช้งาน Depth Micrometer เป็นเวลานาน อาจเกิดการสึกหรอ ส่งผลให้ค่าที่อ่านได้คลาดเคลื่อน การสอบเทียบเครื่องมือจึงมีความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือยังคงอ่านค่าได้อย่างแม่นยำตามมาตรฐาน

การสอบเทียบ Depth Micrometer ตามมาตรฐาน JIS 7544

การสอบเทียบ Depth Micrometer ตามมาตรฐานจะใช้วิธีการสอบเทียบแบบ Comparison with Gauge Blocks จะใช้ Standard ดังนี้

• Gauge Block Step Micrometer
• Optical Flat : ใช้ตรวจสอบความเรียบ (Flatness) ของ Base

ขั้นตอนการสอบเทียบ 

1. ตรวจสอบความเรียบ (Flatness) ใช้ Optical Flat วางบน Base แล้วนับจำนวน Fringe โดย 1 Fringe เท่ากับ 0.2974 μm (ไมโครเมตร)
2. Set Zero เครื่องมือ 
3. สอบเทียบตามจุดสอบเทียบที่กำหนด VDO การสอบเทียบ Depth Micrometer

CLC สามารถสอบเทียบ เครื่องมือ Depth Micrometer ครอบคลุมช่วงการวัดตั้งแต่ 0 – 300 mm ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI) และจาก ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา Scope การสอบเทียบ Depth Micrometer

สรุป
Depth Micrometer เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับงานวัดความลึกที่ต้องการความแม่นยำสูง การใช้งานที่ถูกต้องและการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน

เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด (Infrared Thermometer) ที่ใช้ในอุตสาหกรรม 

เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด หรือที่เรียกว่า Infrared Thermometer เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการวัดอุณหภูมิโดยไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุหรือพื้นผิวโดยตรง อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัยในการวัดอุณหภูมิ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่อันตรายหรือยากต่อการเข้าถึง เช่น

1. อุตสาหกรรมการผลิต
   ใช้ตรวจสอบอุณหภูมิของชิ้นงานในระหว่างกระบวนการผลิต เช่น การเชื่อม การอบความร้อน หรือการเคลือบผิว
2. อุตสาหกรรมพลังงาน
   ใช้ตรวจสอบอุณหภูมิของเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือส่วนประกอบของระบบพลังงาน เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
3. อุตสาหกรรมอาหารและยา
   ใช้ในกระบวนการควบคุมคุณภาพ เช่น การตรวจสอบอุณหภูมิของวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย
4. อุตสาหกรรมยานยนต์
   ใช้ตรวจสอบอุณหภูมิของชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น เบรก หรือเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันความเสียหาย

ทำไมต้อง สอบเทียบ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด ให้ได้มาตรฐาน?

การสอบเทียบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าเครื่องมือวัดอุณหภูมินั้นมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง เนื่องจากมีผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัย และกระบวนการทำงาน

• ความแม่นยำที่สอดคล้องกับมาตรฐาน
  การสอบเทียบช่วยให้ทราบว่าเครื่องมือยังคงทำงานได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ หากมีค่าคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น สามารถปรับปรุงหรือแก้ไขได้ทันที
• ป้องกันความผิดพลาดในกระบวนการผลิต
  ในอุตสาหกรรมที่ต้องการอุณหภูมิที่แม่นยำ เช่น การผลิตอาหาร ยา การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ หรือวัสดุเฉพาะ การใช้เครื่องมือที่ไม่ได้สอบเทียบอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิต
• สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  การสอบเทียบ เครื่องมือ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ว่าอุณหภูมิที่วัดได้มีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านคุณภาพ
• เพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
  ในงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูง เช่น การตรวจสอบเตาอบหรือเครื่องจักร การใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและเกิดอันตรายได้
• ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานอุตสาหกรรม
  หลายอุตสาหกรรมมีข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสอบเทียบเครื่องมือวัด เช่น ISO 9001 

ขั้นตอนการสอบเทียบ Infrared Thermometer ให้ได้มาตรฐาน

การสอบเทียบ เครื่องมือ สามารถสอบเทียบตามอุณหภูมิที่ลูกค้าใช้งานจริง หรือควบคุมอุณหภูมิที่ลูกค้าใช้งาน เช่น ในกรณีที่ใช้งานที่อุณหภูมิ 200 °C
แนะนำให้สอบเทียบครอบคลุมช่วงการใช้งาน ที่ 100 200 และ 300 °C เป็นต้น

CLC บริการ สอบเทียบ Infrared Thermometer ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC17025:2017 จากทั้งสมอ.และ ANAB เราจะใช้วิธีการสอบเทียบ โดยวิธีการเปรียบเทียบหรือ Comparison with Infrared Blackbody Calibrator
รายละเอียด Scope การสอบเทียบ Infrared Thermometer

วิธีการสอบเทียบ

สรุป

การสอบเทียบเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด (Infrared Thermometer) ให้ได้มาตรฐานไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวัด แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน สร้างความมั่นใจในคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของการใช้งาน

ขอใบเสนอราคา

ติดต่อสอบถาม

Breath Analyzer : เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์

เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์จากลมหายใจ (Breath Analyzer) เป็นอุปกรณ์สำคัญในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่ยานยนต์ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนดว่า ผู้ขับขี่ยานยนต์ทั่วไป  ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่เกิน 50 mg/100 ml ผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่เกิน 20 mg/100 ml

ประโยชน์ของ Breath Analyzer

• ความแม่นยำสูง : เครื่องมีความสามารถในการวัดค่าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• พกพาสะดวก : อุปกรณ์มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่

ข้อควรระวังในการใช้งาน

• เครื่องต้องได้รับการปรับเทียบ (Calibration) อย่างสม่ำเสมอเพื่อความแม่นยำ
• ใช้งานอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด

ทำไมการสอบเทียบถึงสำคัญ?

1. เพื่อให้เครื่องตรวจวัดมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ
2. เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการวัดผล ที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจหรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
3. เพื่อให้ผลการวัดสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนด

การสอบเทียบ Breath Analyzer

ทางบริษัท CLC มีบริการสอบเทียบเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์จากลมหายใจ (Breath Analyzer) รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017
โดย Standard Certified Reference Material ซึ่งเป็นแก๊สอ้างอิงที่ถูกถ่ายค่าความถูกต้องจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ซึ่งได้รับรองระบบคุณภาพตามแนวทางมาตรฐาน ISO 17034

สอบเทียบ เครื่อง Breath Analyzer

ติดต่อสอบถาม

เคยสงสัยไหมว่า Gauss Meter หรือเครื่องวัดสนามแม่เหล็กทำงานอย่างไร? วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ Gauss Meter ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก รวมถึงแนะนำการใช้งานและการสอบเทียบอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณมั่นใจในผลการวัดที่แม่นยำที่สุด

หลักการทำงานของ Gauss Meter

Gauss Meter หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า Tesla Meter ใช้สำหรับการวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก เครื่องมือนี้มีความสำคัญในหลายอุตสาหกรรม

• การตรวจสอบความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน : ใช้ตรวจสอบสนามแม่เหล็กที่อาจมีผลกระทบต่ออุปกรณ์หรือสุขภาพของบุคลากรในโรงงานอุตสาหกรรม
• การผลิตผลิตภัณฑ์แม่เหล็กเฉพาะ : เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า ลำโพง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพตามมาตรฐาน

Gauss Meter ทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1. Gauss Meter with Transverse Probe
2. Gauss Meter with Axial Probe

หน่วยวัดที่ใช้ ได้แก่ Gauss (G) และ Tesla (T) 

ความสำคัญของการสอบเทียบ Gauss Meter

การสอบเทียบ Gauss Meter ช่วยรักษาความแม่นยำของการวัด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ค่าคลาดเคลื่อนได้

การสอบเทียบเครื่องมือวัดต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งบริษัท บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด มีความเชี่ยวชาญและได้รับการรับรองมาตรฐานนี้
โดยใช้ Standard Reference Magnetic Field เป็น Standard ในการสอบเทียบ

ขั้นตอนการสอบเทียบ

1. กำหนดจุดสอบเทียบอย่างน้อย 3 จุด เพื่อครอบคลุมการใช้งาน เช่น 30 G, 3 000 G และ 10 000 G
2. เริ่มการสอบเทียบแต่ละจุดสอบเทียบ
3. เปรียบเทียบผลการวัดกับค่า Standard

บริการสอบเทียบจาก Calibration Laboratory

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ให้บริการสอบเทียบ Gauss Meter หรือ Tesla Meter ด้วยวิธี Direct Measurement และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17025:2017 จาก ANAB
สามารถตรวจสอบ Scope การสอบเทียบเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

สรุป

การใช้งาน Gauss Meter อย่างถูกต้องและการสอบเทียบเป็นประจำช่วยเพิ่มความมั่นใจในผลการวัดและลดความเสี่ยงในกระบวนการผลิต หากคุณมีคำถามหรือสนใจบริการสอบเทียบเพิ่มเติม
ติดต่อเรา เพื่อคำแนะนำและบริการที่ดีที่สุด!

Bore Gauge

หรือ Cylinder Gauge เป็นเครื่องมือวัดที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบ เส้นผ่านศูนย์กลางภายในของรู ในงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานกลึง งานหล่อ และงานประกอบชิ้นส่วน แต่ Bore Gauge มี Range ที่ใหญ่กว่า Holtest ซึ่งจะมีหน่วยวัด เป็น mm (มิลลิเมตร) และ inch (นิ้ว)

ความสำคัญของ Bore Gauge

1. ความแม่นยำสูง : เหมาะสำหรับการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของรู
2. เพิ่มประสิทธิภาพในงานผลิต : ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพของชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ใช้งานง่าย : รองรับการใช้งานทั้งในโรงงาน และงานตรวจสอบคุณภาพ

การสอบเทียบ Bore Gauge 

วิธีการสอบเทียบ Bore Gauge สามารถสอบเทียบได้ 2 วิธีการ อ้างอิงมาตรฐาน JIS B 7515

1. สอบเทียบด้วย Standard Bore Gauge Tester หรือ Dial Gauge Testing Machine โดยใช้วิธีการสอบเทียบแบบ Comparison

2. สอบเทียบ ด้วย Standard ULM (Universal length measuring)

ทั้งสองวิธีจะพิจารณา Probe ของ Bore Gauge เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินวิธีการสอบเทียบ ดูรายละเอียดการสอบเทียบ คลิก 

สรุป

Bore Gauge เป็นเครื่องมือวัดที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานผลิต แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพของชิ้นงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน หากสนใจ สอบเทียบ Bore Gauge  คลิกที่นี่ 

การสอบเทียบเทปวัด PI Tape หรือที่เรียกว่าเทปวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุต่าง ๆ ให้มีความแม่นยำสูงสุด PI Tape มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตท่อ เช่น ท่อส่งน้ำมัน กระบอกสูบ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอากาศยาน

ความสำคัญของการสอบเทียบ เส้นผ่านศูนย์กลาง

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญในการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การวัดที่แม่นยำสามารถนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตได้ ดังนั้นการสอบเทียบเครื่องมือวัดอย่าง PI Tape จึงมีความจำเป็น เพราะช่วยให้มั่นใจได้ว่าค่าที่อ่านจากเทปวัดนั้นมีความแม่นยำและถูกต้องตามมาตรฐาน

ขั้นตอนการสอบเทียบ เส้นผ่านศูนย์กลาง

สำหรับ การสอบเทียบเทปวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง (PI Tape) จะใช้เครื่องมืออ้างอิงที่มีความแม่นยำสูง อย่าง Electronic Scale ที่มีความละเอียดในการวัด 0.01 mm ซึ่งวิธีการสอบเทียบจะใช้แบบ Direct Measurement อ้างอิงตามมาตรฐาน JIS B 7512 ซึ่งสามารถสอบเทียบได้ทุกขนาดของเทป 

การสอบเทียบ Pi Tape จะต้องวัดค่าเส้นรอบวง (Circumference) ที่ได้จาก Electronic Scale จากนั้นนำค่าดังกล่าวมาหารด้วยค่าพาย (Pi = 3.14) เพื่อคำนวณออกมาเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (O.D. หรือ Outside Diameter) ดูวิดิโอ สอบเทียยบเทปวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง (PI Tape)

มาตรฐานการสอบเทียบที่รับรอง

ทางบริษัท บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัดเป็น ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ PI Tape และให้บริการสอบเทียบที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความแม่นยำและคุณภาพสูงสุด

จากทั้งหมดนี้ เราสามารถเห็นได้ว่า PI Tape เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ และการสอบเทียบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การวัดมีความแม่นยำ และสามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างมั่นใจ

ความรู้เกี่ยวกับการสอบเทียบ Gauge Block

หลายคนคงคุ้นเคยกับ Gauge Block ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานสำหรับสอบเทียบเครื่องมือวัดต่าง ๆ อย่างเช่น ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) และ เวอร์เนีย (Vernier) โดยทั่วไป Gauge Block มีการผลิตจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น สแตนเลสสตีล (Stainless Steel), เซรามิก (Ceramic) และ ทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) ทั้งนี้การเลือกใช้วัสดุขึ้นอยู่กับความต้องการของการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

การแบ่งเกรดของ Gauge Block ตามมาตรฐาน ISO 3650

Grade K – เป็นเกรดมาตรฐานที่ใช้สำหรับการอ้างอิงเพื่อสอบเทียบ Gauge Block เกรดอื่น
Grade 0 – เกรดที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ เพื่อสอบเทียบเครื่องมือวัดที่ต้องการความแม่นยำสูง
Grade 1 – ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไปเพื่อตรวจสอบเครื่องมือวัด เช่น ไมโครมิเตอร์ และเวอร์เนีย
Grade 2 – เหมาะสำหรับการวัดค่าในชิ้นงานต่าง ๆ ในกระบวนการผลิต

วิธีการใช้ Gauge Block ที่ถูกต้อง

เพื่อให้ Gauge Block คงสภาพการใช้งานที่แม่นยำ ควรปฏิบัติตามแนวทางการใช้ที่ถูกต้อง เช่น สวมถุงมือ ทุกครั้งที่จับหรือใช้งาน Gauge Block เพื่อป้องกันการเกิดสนิมหรือรอยขีดข่วน
ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังใช้งานเพื่อรักษาผิวหน้าของเครื่องมือ ในกรณีที่ไม่มีขนาดตรงกับ Set Gauge Block ให้ทำการ ประกอบ Gauge Block ด้วยวิธี Wringing โดยการเลื่อน Gauge Block ให้ติดกันจนแนบสนิท

ขั้นตอนการสอบเทียบ Gauge Block

การสอบเทียบ Gauge Block จะใช้วิธี เปรียบเทียบกับ Standard Gauge Block  โดยใช้เครื่อง Gauge Block Comparator ซึ่งกระบวนการนี้อ้างอิงตามมาตรฐาน ISO 3650 การสอบเทียบในห้องปฏิบัติการจะควบคุมอุณหภูมิที่ 20±1 °C อย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มทำการสอบเทียบ เพื่อให้แน่ใจว่า Gauge Block ที่จะสอบเทียบได้สภาพที่เสถียรที่สุด

การสอบเทียบจะทำใน 5 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่ง Center และมุมทั้ง 4 ของ Gauge Block โดยการบันทึกค่าที่ได้จาก Probe ที่ตรวจสอบจากแต่ละจุด เมื่อสอบเทียบครบแล้วจะตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าค่าไม่เบี่ยงเบนจาก Standard ที่ใช้อ้างอิง
ดูวิดิโอคลิกที่นี่

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบได้ใน Grade 0, Grade 1, และ Grade 2 ซึ่งรองรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม

สรุป

การสอบเทียบ Gauge Block เป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาความแม่นยำของเครื่องมือวัด หากต้องการสอบเทียบเครื่องมือวัดตัวอื่น ๆ หรือมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถาม ได้ที่นี่คลิก