คลังเก็บป้ายกำกับ: Glassware’s Article

pH Meter คืออะไร ดูแลรักษาอย่างไรให้ถูกต้อง


pH Meter  คือ เครื่องมือทางไฟฟ้าที่ใช้วัด ค่าความเป็นกรดด่างของสารละลาย(ค่า pH) ซึ่งมีอยู่หลายประเภทตามการใช้งาน โดยหลักการวัดความต่างศักย์ (Potentiometer) ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนคือ อิเล็กโทรด (Electrode) และเครื่องวัดศักย์ไฟฟ้า การใช้งานเครื่องมือวัดนี้ปกติแล้วไม่ได้ใช้แค่ในเฉพาะห้องทดลอง แต่ยังมีความสำคัญและมีการใช้งานในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (ใช้สำหรับควบคุมความเป็นกรดในนม น้ำผลไม้ เบียร์) อุตสาหกรรมยา (ใช้สำหรับตรวจสอบค่า pH ของสารละลายเพื่อความปลอดภัย) และการบำบัดน้ำเสีย (ใช้เพื่อควบคุมค่าความเป็นกรดด่างในน้ำก่อนปล่อยออกสู่สภาพแวดล้อม) ดังนั้นการเลือกและดูแลรักษาเครื่องมือวัด pH Meter อย่างถูกต้องจึงมีผลต่อคุณภาพสินค้าและการผ่านมาตรฐานการผลิตตามกำหนดของมอก.อีกด้วย

การบำรุงรักษาเครื่อง pH Meter 

ส่วนที่สำคัญและจะต้องบำรุงรักษานั่นก็คือ pH Electrode (หัว Probe วัดค่า) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้การวัดมีความถูกต้องแม่นยำและสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นถ้ามีการบำรุงรักษาที่ถูกวิธี
การบำรุงรักษาควรปฏิบัติดังนี้

  1. ก่อนการใช้งาน ควรทำความสะอาด  pH Electrode ด้วยน้ำกลั่นหรือน้ำที่ปราศจาก Ion  และแช่ pH Electrode ในสารละลาย หรือ Buffer Solution
    สิ่งที่ควรระวัง – ห้ามนำ pH Electrode แช่ในน้ำกลั่นหรือน้ำบริสุทธิ์นานๆเนื่องจากจะทำให้ Glass Membrane เสียหาย
  2. การใช้งาน ล้าง pH Electrode ด้วยน้ำกลั่นก่อนและหลังการวัดตัวอย่าง แล้วซับด้วยกระดาษอ่อนนุ่ม หรือสำลี
    สิ่งที่ควรระวัง – ห้ามถู  Glass Membrane แรงๆเนื่องจากจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตที่จะรบกวนการวัดในครั้งต่อไป
  3. การเก็บรักษา ควรเก็บ pH Electrode แช่ในสารละลาย KCL 3 M (โพแทสเซียมคลอไรด์เข้มข้น 3 โมลาร์) และทำความสะอาดเครื่องหลังใช้งาน
    สิ่งที่ควรระวัง – ห้ามแช่ pH Electrode ในน้ำกลั่น และห้ามปล่อยให้ pH Electrode  แห้ง

(เนื่องจาก Glass Membrane จะสูญเสียความไวต่อการตอบสนอง (Response Time) และอาจเกิดการเสียหายถาวร ที่ถูกคือควรเก็บในสารละลาย KCl ตามความเข้มข้นที่ผู้ผลิตกำหนด ไม่ควรเก็บในน้ำกลั่นหรือน้ำประปา เพราะจะทำให้ ion ภายใน Electrode สูญเสียสมดุลและเกิด Diffusion ออกมาได้)

นอกจากเรื่องทำความสะอาดแล้วอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถทำให้เครื่องมือวัดสามารถใช้งานและให้ค่าได้อย่างถูกต้อง คือ การสอบเทียบเครื่องมือวัด (Calibration) เพื่อยืนยันว่าค่าที่วัดได้ยังตรงกับค่ามาตรฐาน ทั่วไปแล้วการสอบเทียบมักทำโดยครอบคลุมทุกช่วงการวัด หากไม่ได้สอบเทียบบ่อยครั้ง ค่า Slope และ Offset ของ Electrode อาจเพี้ยน ทำให้ผลการวัดคลาดเคลื่อน ซึ่งมีผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและการวิจัยโดยตรง

ห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 จะสอบเทียบโดยมีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นระหว่างการสอบเทียบ รวมถึงบันทึกผลลัพธ์ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงมาตรฐานสากลได้ สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าค่าที่อ่านได้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายอุตสาหกรรม เช่น ยา อาหาร และสิ่งแวดล้อม ต้องใช้ในการผ่านมาตรฐานการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งทาง CLC มีบริการในการสอบเทียบ pH Meter ที่ได้มาตรฐานการรับรอง สมอ.และ ANAB ทำให้มั่นใจได้ถึงมาตรฐานการวัด โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีการสอบเทียบ  pH  (pH Meter Calibration) ได้ที่นี่

ข้อปฏิบัติเมื่อส่งเครื่อง pH Meter มาสอบเทียบกับ Calibration Laboratory

  1. ห่อหุ้ม pH Electrode รวมถึงตัวเครื่อง ด้วยแผ่นกันกระแทกเพื่อป้องกันเครื่องมือกระแทกขณะขนส่ง
  2. แช่หัว pH Electrode ในกระปุกที่มีสารละลาย KCL ห้ามปล่อยให้หัว pH Electrode แห้ง

 

การใช้งาน pH meter

ก่อนใช้งาน

          ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดและความชื้นของหัววัดก่อนเสมอ ล้างหัววัดด้วยน้ำที่ปราศจากไอออน จากนั้นซับน้ำออกอย่างนุ่มนวลพอหมาด เพื่อไม่ให้หยดน้ำไปเจือจางตัวอย่างที่กำลังจะวัด จากนั้นเปิดฝาครอบหัววัดแล้วดูให้แน่ใจว่าสารละลายที่ใช้เก็บรักษายังท่วมปลายหัวแก้วและช่องไหลของสารอ้างอิงอยู่ครบ หากเห็นว่าแห้งหรือระดับลดลงให้เติมสารละลายเก็บรักษาที่ทำจากโพแทสเซียมคลอไรด์ความเข้มข้น 3 โมลาร์จนท่วมปลายหัวทันที

          กรณีที่ถ้าเคยปล่อยหัววัดให้แห้งมาช่วงหนึ่งแล้ว อย่าเพิ่งใช้งานทันที เนื่องจากต้องคืนสภาพหัววัดด้วยการแช่ในน้ำประปาที่สะอาดหรือสารละลายกรดอ่อนอย่างน้อย 1-2 วันเต็ม เพื่อให้ชั้นเจลบนแก้วกลับมาทำงานได้ตามปกติ แล้วค่อยนำไปใช้งาน

การใช้งาน

          การตั้งค่าอุณหภูมิของเครื่องควรตั้งให้ตรงกับอุณหภูมิจริงของตัวอย่างที่กำลังวัด ในระหว่างที่ทำการวัดให้คนตัวอย่างช้าๆและสม่ำเสมอ วางหัววัดนิ่ง รอจนค่าบนหน้าจอคงที่แล้วค่อยอ่านค่า  หากต้องวัดหลายตัวอย่างแบบต่อเนื่อง ห้ามลืมล้างหัววัดระหว่างตัวอย่างเพราะคราบจากตัวอย่างก่อนหน้าจะทำให้ค่าของตัวอย่างถัดไปเกิดการเพี้ยนได้ง่าย กรณีที่เมื่อเห็นตัวเลขไม่นิ่งในตัวอย่างที่นำน้ำไฟฟ้าได้น้อย ให้เพิ่มเวลาในการรอให้เสถียร และชดเชยอุณหภูมิอีกครั้ง

          หลังวัดเสร็จ ไม่ควรปล่อยให้หัววัดแห้ง ควรล้างด้วยน้ำที่ไม่มีไอออนแล้วเก็บแช่ในสารละลายโพแทสเซียมคลอไรด์ความเข้มข้น 3 M ทุกครั้ง ไม่แช่ในน้ำกลั่นและหลีกเลี่ยงการทิ้งหัววัดไว้โดยไม่มีของเหลวคลุมปลาย probe หากต้องการพักการวัดในระยะเวลาช่วงสั้นๆระหว่างตัวอย่าง สามารถแช่หัววัดในสารละลาย Buffer ที่มีค่ากลาง(Neutral) อย่างน้ำบริสุทธิ์ (pH 7) หรือ ค่ากรด(Acidic) เช่น น้ำส้มสายชูเจือจาง (pH 4) เพื่อให้ปลายหัวคงความชื้นได้ แต่วิธีนี้ไม่ควรใช้เป็นการเก็บรักษาในระยะยาว

 

 

Ref.

GWB Tuoteluettelo

Hach Mena

Hamilton Company

Thermo Fisher Scientific

GWB Tuoteluettelo

Hach Mena

 

 

MKS

 

 

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด  ซื้อเครื่องมือวัด

 

Brix Refractometer คืออะไร มีวิธีการทำงานและใช้งานอย่างไร

เครื่อง Brix Refractometer  คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวัดค่าความเข้มข้นของสารละลาย หรือใช้ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลในของเหลว (หรือที่เรียกว่า เครื่องวัดความหวาน) โดยอาศัยหลักการหักเหของแสง มีหน่วยวัดเป็น % Brix

เครื่องวัดความหวานทำงานอย่างไร

เครื่องวัดความหวาน มีหลักการทำงานง่ายๆคือ ใช้การหักเหของแสงจากปริซึมเพื่ออ่านค่าในสเกล ซึ่งค่าการหักเหของแสงจะแปรเปลี่ยนไปตามปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในของเหลวตัวอย่างที่ใช้วัด

วิธีการใช้งาน เครื่องวัดความหวาน เบื้องต้น

ก่อนเริ่มใช้ เครื่องมือวัด วัดค่าตัวอย่าง เราจะต้องทำการปรับตั้งอุปกรณ์ให้ตรงก่อน ซึ่งสิ่งที่ควรนำมาเป็นตัวปรับตั้งค่าคือ น้ำกลั่นบริสุทธิ์  เพื่อให้เครื่องมือมีความเที่ยงตรงและแม่นยำที่สุด

วิธีการปรับตั้งค่า ทำได้ดังนี้

  1. ยกแผ่นเพลทขึ้น และหยดน้ำกลั่นบริสุทธิ์ 2-3 หยด ลงบนกระจกปริซึม จากนั้นยกแผ่นเพลทลงปิด โดยให้น้ำกระจายให้ครอบคลุมทั่วผิวกระจกทั้งหมด และต้องระวังอย่าให้มีฟองอากาศเกิดขึ้น
  2. ปล่อยให้น้ำอยู่บนผิวกระจกประมาณ 15 วินาที เนื่องจากจะเป็นการทำให้อุณหภูมิของน้ำปรับเข้าสมดุลกับอุณหภูมิโดยรอบของ  Refractometer
  3. ส่องดูน้ำตัวอย่างที่เป็นน้ำบริสุทธิ์ ให้สเกลระหว่างสีขาวและสีฟ้าให้อยู่ในระดับ 0 หากสเกลเส้นเชื่อมต่อระหว่างสีฟ้าและสีขาวซึ่งเป็นตัวชี้สเกลไม่อยู่ตรงที่ระดับ 0  ให้ใช้ไขควงที่มีมาในชุดทำการหมุนปรับตั้งค่าให้สเกลสีฟ้าและสีขาวอยู่ในระดับ 0
  4. เมื่อปรับตั้งสเกลเรียบร้อยแล้ว เครื่องมือวัดก็พร้อมใช้งานทันที

วิธีการวัดค่าเครื่อง Brix Refractometer

  1. ทำการหยดสารละลายที่ต้องการทราบค่าบนแผ่นปริซึม ปิดแผ่นเพลท แล้วส่องมองผ่านช่องในที่มีแสง จะมองเห็นเป็นแถบสี อ่านค่าตัวเลขที่ได้ตามสเกล มีหน่วยวัดเป็น %Brix

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด หรือ CLC สามารถ สอบเทียบเครื่องวัด ความหวาน ได้ที่ Range ใดบ้าง

สามารถให้บริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด โดยได้รับการรับรอง Scope ดังนี้

  1.ANSI National Accreditation  Board (ANAB)

Refractometer % Brix

 

 (1 to 60) % Brix

Refractive Index

(1.340 2 to 1.441 9) nD

0.11 % Brix

 

0.000 22 nD

In house method: CLC-CPCH-03 by Direct Measurement with Certified Reference Material

 

2.สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

Refractometer % Brix 5.00

10.00

20.00

30.00

40.00

50.00

60.00

Refractive Index

1.34026

1.34782

1.36384

1.38115

1.39986

1.42009

1.44193

0.07 % Brix

0.07 % Brix

0.07 % Brix

0.07 % Brix

0.07 % Brix

0.07 % Brix

0.07 % Brix

 

0.00010 nD

0.00010 nD

0.00010 nD

0.00010 nD

0.00010 nD

0.00011 nD

0.00010 nD

การดูแล เครื่องมือวัดความหวาน เบื้องต้น ทำอย่างไร

  1. ควรทำความสะอาดปริซึมและฝาปิด ให้สะอาดก่อนและหลังใช้งาน โดยต้องเช็ดให้แห้งสนิท
  2. ควรเก็บเครื่องมือเข้ากล่องเก็บเครื่องมือ
  3. ห้ามทำความสะอาดเครื่องมือโดยการเทน้ำล้างเครื่องมือโดยตรง เพราะจะทำให้น้ำเข้าในเครื่องได้

ผู้เขียน Leader ลูกคิด

 

 

 

เครื่องวัดความหวาน (Refractometer) Atago วิธีใช้งานง่ายกว่าที่คิดจริงมั้ย

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

เครื่องแก้ววัดปริมาตร ทำไมจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด

ความจำเป็นในการสอบเทียบ เครื่องแก้ววัดปริมาตร

เครื่องแก้ววัดปริมาตร ที่นำมาใช้ในงานวิเคราะห์ วิจัย ทดสอบ นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องแก้ววัดปริมาตรใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้งานหรือใช้งานมาแล้ว ในทางมาตรฐานอุตสาหกรรม ควรมีเอกสารยืนยันปริมาตรที่ถูกต้องโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้
เช่น หน่วยงานสอบเทียบของภาครัฐ หน่วยงาน สอบเทียบเครื่องมือวัด ภาคเอกชนที่ได้ใบการรับรองคุณภาพ
ตามมาตรฐานสากล
หรือใบรับรองปริมาตรจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล หากไม่มีเอกสารดังกล่าวก่อนนำไปใช้งาน
ห้องปฏิบัติการที่ใช้เครื่องแก้ววัดปริมาตรต้องทำการสอบเทียบ เพี่อให้รู้ปริมาตรจริง หรือทวนสอบเพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาตรถูกต้องตามที่ระบุในข้อกำหนดคุณลักษณะโดยปกติในการผลิตเครื่องแก้ววัดปริมาตร ผู้ผลิตได้ควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานของประเทศ แต่เนื่องจากในการผลิตเครื่องแก้ววัดปริมาตร ต้องผลิตครั้งละจำนวนมาก

การควบคุมคุณภาพ เครื่องแก้ววัดปริมาตร

การควบคุมคุณภาพเป็นกระบวนการตรวจสอบโดยวิธีสุ่มตัวอย่างจากเครื่องแก้ววัดปริมาตรจำนวนมาก ดังนั้นผู้ใช้ยังจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด เพื่อยืนยันปริมาตรจริงเฉพาะเครื่องแก้ววัดปริมาตรส่วนที่นำมาใช้ในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง นอกจากนี้เครื่องแก้วที่ผ่านการใช้งานระยะหนึ่ง ปริมาตรของเครื่องแก้ว อาจเปลี่ยน เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ การใช้งานที่อุณหภูมิสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การอบเครื่องแก้ววัดปริมาตรเพื่อฆ่าเชื้อ ผิวแก้วถูกทำลายด้วยสารเคมี เช่น กรดกัดแก้ว (HF) กรดฟอสฟอริก (H3PO4) สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซต์ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ และวิธีการล้างที่ไม่เหมาะสม

ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงจำเป็นต้องทำการสอบเทียบหรือทวนสอบ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยที่ห้องปฏิบัติการแต่ละห้องปฏิบัติการ อาจกำหนดวงรอบของการสอบเทียบ หรือทวนสอบเครื่องแก้ววัดปริมาตรในรอบเวลาที่แตกต่างกั

ตัวอย่างรูปเครื่องแก้วต่างๆ

ผู้เขียน สุขเกษม LAB 7

 

 

บริการสอบเทียบเครื่องแก้ว

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ปิเปตต์ (Pipette) คืออะไร? มีกี่ประเภท และเลือกใช้อย่างไรให้แม่นยำ

ปิเปตต์ (Pipette)

ปิเปตต์ คือ อุปกรณ์ทางเคมีที่ใช้ในการตวง-วัดปริมาณสารที่เป็นของเหลว มีสเกล (Scale) การวัดที่มีความละเอียดและความแม่นยำสูง เทคนิคการใช้งานปิเปตต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานควรมี เทคนิคการใช้งานที่ถูกต้อง และมีทักษณะความรู้ความชำนาญเพื่อเป็นการลดข้อผิดพลาดในการใช้งานหรือการทำการ สอบเทียบเครื่องมือวัด วิธีการ ขั้นต้นในการใช้ ปิเปตต์ให้ถูกวิธี คือ เลือกปิเปตต์ที่เหมาะกับงานที่ต้องการ

ทำไมต้องรู้จักปิเปตต์ให้ดี

ในการทดลองหรือทำงานในห้องปฏิบัติการ ความแม่นยำคือหัวใจสำคัญ “ปิเปตต์” คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับตวงหรือถ่ายโอนของเหลวปริมาณน้อยอย่างแม่นยำ หากเลือกผิดประเภท หรือใช้งานไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผลการทดลองคลาดเคลื่อนทันที

ประเภทของปิเปตต์

ที่มีอยู่และใช้งานในห้องปฏิบัติการ ได้แก่

1. ปิเปตต์แบบปริมาตร (Volumetric Pipette หรือ Transfer Pipette)

 

ปิเปตต์ชนิดนี้ใช้วัดปริมาตรที่กำหนดเพียงปริมาตรเดียว ไม่มีขีดหรือสเกลแบ่งย่อย ดังนั้นจึงสามารถวัดปริมาตรได้เพียงค่าเดียว นิยมใช้ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำสูง ปิเปตต์แบบปริมาตรจะมีลักษณะเป็นกระเปาะอยู่ตรงกลางมีขีดบอกปริมาตรอยู่เหนือกระเปาะใกล้ปลายปากดูด การวัดจะถูกต้องเมื่อปล่อยให้สารละลายหรือของเหลวไหลออกช้าๆจนหมดแล้วแตะปิเปตต์กับผิดด้านในของภาชนะที่ใช้ในการรองรับโดยไม่ต้องเป่า

2.ปิเปตแบบใช้ตวง (Graduated Pipette หรือ Measuring Pipette)

ปิเปตต์ชนิดนี้ไม่มีกราะเปาะ มีขีดหรือสเกลแบ่งย่อยปริมาตร แต่ไม่แบ่งลงไปจนถึงปลายสุดของปิเปตต์ ดังนั้นการใช้งานจะต้องระวังไม่ให้สารละลายหรือของเหลวไหลลงไปต่ำกว่าส่วนแบ่งขีดหรือสเกลสุดท้าย หากลงไปต่ำกว่าขีดหรือสเกลสุดท้ายจะทำให้การถ่ายเทปริมาตรได้มากกว่าที่เป็นจริง ปิเปตต์แบบใช้ตวงจึงมีความแม่นยำน้อยกว่าปิเปตต์แบบปริมาตรเมื่อเทียบกับขนาดที่บรรจุเท่ากัน

รายละเอียดที่เขียนอยู่บนปิเปตต์ทั้ง 2 ชนิด

จะมีรายละเอียดบ่งบอกถึง

  • สัญลักษณ์ Blow-out pipette
  • ขีดบอกปริมาตร
  • ความจุของปิเปตต์
  • ปริมาตรแต่ละขีดหรือสเกล
  • ระดับชั้นคุณภาพของปิเปตต์
  • สัญลักษณ์บ่งบอกวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
  • ความคลาดเคลื่อนของปริมาตรของปิเปตต์ชนิดนั้นๆ

สัญลักษณ์ที่บอกระดับชั้นคุณภาพคืออะไร

สัญลักษณ์ที่บ่งบอกระดับชั้นคุณภาพของปิเปตต์วัดปริมาตรจะแบ่งตามชั้นคุณภาพ (CLASS) ได้ 2 ระดับชั้นคุณภาพ คือ

  1. ชั้นคุณภาพเอ (CLASS A) จะใช้สัณลักษณ์ A บ่งบอกถึงเป็นปิเปตต์ที่มีความแม่นยำสูงสุด มีค่าความคลาดเคลื่อนของปริมาตรที่ยอมรับได้ต่ำ มักนิยมใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงมากๆ
  2. ชั้นคุณภาพบี (CLASS B) จะใช้สัญลักษณ์ B บ่งบอกถึงเป็นปิเปตต์ที่มีความคลาดเคลื่อนของปริมาตรที่ยอมรับได้เป็น 2 เท่าของเครื่องแก้วชั้นคุณภาพ A มักนิยมใช้ในงานที่สามารถยอมรับค่าความไม่แน่นอนในระดับที่สูงขึ้น

ส่วนสัญลักษณ์ที่บอกถึงวัตถุประสงค์การใช้งานของปิเปตต์นั้น

ปิเปตต์วัดปริมาตร

จะแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้ 2 ชนิด คือ

  1. ปิเปตต์สำหรับบรรจุ (To contain) ใช้สัญลักษณ์ TC หรือ IN หรือ C เป็นปิเปตต์ที่ใช้สำหรับบรรจุของเหลวและสอบเทียบ
    โดยวิธีบรรจุของเหลว
  2. ปิเปตต์สำหรับถ่ายของเหลว (To deliver) ใช้สัญลักษณ์ TD หรือ EX หรือD เป็นปิเปตต์ที่ใช้สำหรับถ่ายของเหลวจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกภาชนะหนึ่งและสอบเทียบโดยวิธีการถ่ายของเหลวซึ่ง

สัญลักษณ์ที่บอกระดับชั้นคุณภาพ (CLASS A, CLASS B) และสัญลักษณ์ที่บอกถึงวัตุประสงค์ (TC, TD) จะถูกระบุอยู่บนปิเปตต์วัดปริมาตร เป็นต้น

3. ไมโครปิเปตต์ (Micro Pipette or Piston Pipette)

ปิเปตต์ชนิดนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูง ให้การดูดจ่ายสารหรือของเหลวในปริมาตรน้อยๆ โดยทั่วไปไมโครปิเปตต์จะมีส่วนประกอบ เช่น หน้าปัดสำหรับปรับปริมาตร, ปุ่มสำหรับดูดจ่ายสาร, ปุ่มในการปลดทิป (Tip)

การสอบเทียบปิเปตต์จำเป็นแค่ไหน?

การสอบเทียบช่วยให้คุณมั่นใจว่า

    • ปริมาตรที่จ่ายออกมีความแม่นยำตามมาตรฐาน
    • ค่า uncertainty อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
    • ป้องกันความผิดพลาดในงานวิเคราะห์ โดยเฉพาะงานควบคุมคุณภาพ

 

ซึ่งการสอบเทียบนั้นต้องทำการสอบเทียบโดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 จากสถาบันที่เชื่อถือได้เช่น สมอ. หรือ ANAB เท่านั้น

 

วิดีโอ วิธีการใช้งานไมโครปิเปต (Micropipette) | และการสอบเทียบ

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ปิเปตต์ใช้แล้วต้องสอบเทียบบ่อยแค่ไหน?
– แนะนำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากใช้ในงานวิจัย/วิเคราะห์สำคัญ

ทำไมปิเปตต์ถึงวัดปริมาตรผิด?
– สาเหตุอาจมาจากความชื้น ปลายทิปที่รั่ว การใช้งานผิดประเภท หรือไม่เคยสอบเทียบเลย

จะรู้ได้อย่างไรว่าปิเปตต์ยังแม่นยำ?
– ตรวจสอบจากใบสอบเทียบ (Calibration Certificate) และทำการตรวจสอบคร่าว ๆ ด้วยน้ำกลั่นบนเครื่องชั่ง

โดยปิเปตต์ที่กล่าวมาข้างต้นทั้ง 3 ชนิด เป็นปิเปตต์ที่นิยมใช้งาน รวมไปถึงการสอบเทียบเครื่องมือ เพื่อยืนยันว่าเครื่องมือหรือเครื่องแก้วที่ใช้นั้นมีค่าที่ได้จากการสอบเทียบที่มีความถูกต้อง ความแม่นยำ และมีค่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับ (MPE) ได้ตลอดการใช้งาน หากคุณต้องการสอบเทียบปิเปตต์ของคุณให้ได้มาตรฐาน ISO/IEC 17025 อย่างแม่นยำ พร้อมใบรับรองจากห้องปฏิบัติการที่เชื่อถือได้ ติดต่อ CLC Calibration Laboratory

 

 

 

Ref.
สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.)
ANAB
มาตรฐานการรับรองISO/IEC 17025

 

ผู้เขียน LAB7

 

 

มาทำความรู้จักกับ PH Meter และการสอบเทียบกัน

บริการสอบเทียบ Glassware & Chemical

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

มาทำความรู้จักกับ ค่า pH กับ PH Meter และการสอบเทียบกัน

ความสำคัญของ ค่า pH และ การสอบเทียบ pH Meter

pH คือ ค่าความเป็นกรด-ด่างของสารละลายที่ห้องปฏิบัติการจำเป็นต้องทำการวัด เนื่องจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นอยู่กับค่าของความเป็นกรด-ด่าง (pH) คุณภาพของการถูกทำละลายของสารเคมีในตัวทำละลายก็ขึ้นอยู่กับค่าของ pH คุณสมบัติทางกายภาพและชีวภาพของสิ่งมีชีวิต โดยปกติจะต้องอยู่ในสภาวะของ pH ที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตของมนุษย์ หรือกระบวนการในการผลิตทางอุตสาหกรรม เช่น อาหาร ยา เครื่องดื่ม น้ำประปา กระดาษเขียนหนังสือ จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ใช้และบริโภค ล้วนแต่จะต้องได้ผ่านการวัดค่า pH

pH ได้มาจาก power of Hydrogen, H ที่เป็นสัญลักษณ์ของไฮโดรเจนอิออน ดังนั้น pH ก็คือค่า Negative log of activity of hydrogen ions 

pH = – log10aH+

pH คือ ค่าที่แสดงถึงแอกติวิตี้ของอิออนไฮโดรเจนในสารละลายที่อุณหภูมิใดอุณหภูมิหนึ่ง 

pH Meter Calibration (การสอบเทียบ)

การสอบเทียบ pH Meter เป็นกระบวนการปรับค่าเครื่องวัด pH โดยการวัดค่า pH กับสารละลาย pH Standard Solution เนื่องจากลักษณะการวัดค่า pH นั้น หัววัดของ pH (Probe) จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และจำเป็นต้องได้รับการชดเชย และปรับค่าให้แม่นยำอยู่เสมอ และเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำเพื่อให้เครื่องวัดจดจำค่าศักย์ไฟฟ้าใน pH Standard Solution

การสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเนื่องจากการเสื่อมหรือด้วยคุณสมบัติของหัววัด pH เมื่อเวลาผ่านไปจากการใช้งานหรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ประสิทธิภาพของหัววัด pH จะเปลี่ยนไปจากตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ ดังนั้น การสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เป็นประจำเพื่อเป็นการทำให้แน่ใจว่า เครื่องวัดอ่านค่าได้ถูกต้อง แม่นยำ และวัดซ้ำได้ พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ความถี่ในการ Calibration นั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและการปนเปื้อนที่สูงขึ้น จำเป็นต้องปรับเทียบเครื่องวัดค่า pH บ่อยขึ้น และตรวจสอบการสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการวัด

เครื่องวัดค่า pH แต่ละยี่ห้อจะมีวิธีสอบเทียบที่แตกต่างกัน ให้อ่านจากคู่มือเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนพื้นฐานในการสอบเทียบว่าเครื่องมือนั้นๆ จะใช้ชุด pH Standard Solution ค่าไหนในการปรับเทียบ

และในรอบ 1 ปี การใช้เครื่องมือวัด pH จะต้องส่งสอบเทียบในห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ISO/IEC 17025:2017 เพื่อยืนยันการใช้งานของเครื่องมือวัดค่า pH

 

การสอบเทียบ  pH จะแบ่งวิธีทดสอบออกเป็น 2 แบบ ได้แก่

  1. การสอบเทียบ pH Scale คือ การป้อนค่าความต่างศักย์ให้กับ Indicator ของตัวมิเตอร์ เพื่อปรับค่า Slope ของเครื่องอ่านให้ใกล้เคียง หรือเท่ากับ Standard ที่อุณหภูมิ 25.0 oC หรือที่อุณหภูมิที่เครื่องใช้ในการสอบเทียบตามผู้ผลิต โดยทั่วไปการสอบเทียบ pH Scale จะสอบเทียบค่า pH จาก pH 0-14 โดยเริ่มจาก pH 7 โดยจะมีการป้อนค่าความต่างศักย์ดังนี้ 0.00, 59.16, 118.32, 177.48, 236.64, 295.80, 354.95, 414.11, -59.16, -118.32, -177.48, -236.64, -295.80, -354.95 และ -414.11
  2. การสอบเทียบ pH Electrode คือการสอบเทียบโดยใช้สารละลายมาตรฐาน (pH Standard Solution) โดยใช้ pH Electrode ต่อเข้ากับ Indicator เพื่ออ่านผล การสอบเทียบ pH Meter โดยใช้สารละลายมาตรฐาน จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและตามคู่มือผู้ผลิต เช่น pH 1.68, 4.01, 6.86, 7.00, 9.18 และ 10.01

 

          pH Meter คือ เครื่องมือวัดค่า pH ที่มีความสำคัญสำหรับบ่งชี้ค่าความเป็น กรด ด่าง หรือค่ากลาง ที่ถูกต้องของสารละลายหรือสิ่งต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม และสามารถแบ่งได้เป็น pH meter ประเภทต่างๆ ตามลักษณะการใช้งาน การที่จะสามารถใช้เครื่องมือวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน ควรมีการบำรุงรักษาเครื่อง pH Meter อย่างถูกต้องและจำเป็นต้องส่งเครื่องมือวัดมาเพื่อสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการที่ได้ใบรับรองผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมอ.หรือ ANAB อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค่าที่วัดจะยังคงถูกต้องและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

 

ผู้เขียน L7

 

 

 

 

เครื่องวัดความหวาน (Refractometer) Atago วิธีใช้งานง่ายกว่าที่คิดจริงมั้ย

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

 

เครื่องวัดความหวาน (Refractometer) Atago วิธีใช้งานง่ายกว่าที่คิดจริงมั้ย

มาทำความรู้จัก Refractometer (เครื่องวัดความหวาน)  ยี่ห้อ Atago PAL-1 กันเถอะ

วันนี้เราจะมาพูดถึง Refractometer ( เครื่องวัดความหวาน ) หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า เครื่องวัดความหวานผลไม้ ถ้าพูดถึงความหวานโดยทั่วไป เราจะแยกไม่ได้จากลิ้นของคนเราว่าความหวานระดับนี้เท่ากับความหวานกี่เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าความหวานมีระดับเท่าไหร่ ซึ่งเครื่องวัดนั้นอาจมีในรูปแบบปากกา แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ เครื่องมือวัด รุ่นหนึ่งคือ เครื่องวัดความหวาน Atago รุ่น PAL-1 ที่สามารถบอกความหวานออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ซึ่งทำให้เรารู้ความแตกต่างของความหวานได้ ดังนั้นเราไปดูกันเลยค่ะว่ารุ่น PAL-1 ทำอะไรได้บ้าง

ก่อนอื่นขอพูดถึงคุณลักษณะของ เครื่องวัดความหวาน Atago PAL-1 กันก่อน แยกออกเป็นหัวข้อได้ตามนี้ค่ะ

ใช้วัดความหวานของจำพวกผักและผลไม้ เช่น ส้ม, องุ่น, สตรอเบอร์รี่, แตงโม, มะม่วง, มะเขือเทศ, ฟักทอง, พริก ฯลฯ

  • Range (ช่วงการวัด) %Brix : 0.0 ถึง 53.0% , Temperature (อุณหภูมิ) : 9.0 ถึง 99.9  °C
  • Resolution (ความละเอียด) Brix : 0.1%, Temperature (อุณหภูมิ) : 0.1 °C
  • Accuracy (ค่าความถูกต้อง) Brix : ± 0.2%, Temperature (อุณหภูมิ) : ± 1 °C
  • มีฟังก์ชั่นชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ATC (Automatic Temperature Compensation)
  • มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ง่ายต่อการอ่านค่าและมีการแสดงสถานะของแบตเตอรี่
  • ตัว เครื่องวัดความหวาน พกพาง่ายกะทัดรัด แข็งแรงและใช้งานง่าย ด้วยปุ่ม START และ ZERO 
  • Sample Stage ทำมาจากโลหะทำให้ถ่ายเทอุณหภูมิไปยัง Prismได้รวดเร็ว
  • Prism ทำมาจาก Optical glass ป้องกันรอยขีดข่วน
  • มีระบบ ELS (External Light Interference) เพื่อแจ้งเตือนกรณีที่มีแสงรบกวนจากภายนอก
  • มาตรฐานกันน้ำ IP65 สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย

ขั้นตอนและวิธีการใช้งาน เครื่องวัดความหวาน PAL-1 หรือ Refractometer จาก Atago

เครื่องวัดความหวาน Refractometer

นี้ใช้งานง่าย สามารถทำงานได้ด้วยเพียงมือเดียว การใช้งานมีดังนี้

  1. หยดตัวอย่างที่ต้องการวัดลงในส่นหัววัดของตัวเครื่องวัดความหวานประมาณ 2-3 หยด
  2. เริ่มการวัดด้วยการกดปุ่ม Start เพื่อวัดค่า ผลการวัดจะแสดงใน 3วินาที ซึ่งจะเห็นผลของการวัดเร็วมาก
  3. ได้ผลการวัดที่ออกมาสามารถอ่านค่าจากหน้าจอดิจิตอลที่แสดงผลได้เลยตัวเครื่องจะบอกออกมาเป็นหน่วย %Brix
  4. หลังจากใช้งานเสร็จแล้วสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย เครื่องมือกันน้ำด้วยมาตรฐาน IP65

ข้อควรระวังและวิธีการเก็บรักษา 

  1. เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการปิดเครื่องก่อนแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
  2. หลังจากล้างด้วยน้ำเรียบร้อยดีแล้ว เช็ดให้แห้งสนิทก่อนนำไปเก็บ
  3. นำไปเก็บในกล่องที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง เพื่อป้องกันเครื่องมือตกหล่นเสียหาย

เป็นยังไงกันบ้างค่ะเครื่อง Refractometer (วัดความหวาน) รุ่น PAL-1 ที่นำมาแนะนำกัน วันนี้พอจะรู้จักหน้าตากันบ้างแล้วนะคะ หรือหากผู้อ่านท่านไหนสนใจต้องการสั่งซื้อเครื่องวัดความหวานรุ่น PAL-1 นี้ ทางบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ของเรามีจำหน่าย  มาพร้อมกับใบรับรอง Certificate ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 นะคะ พร้อมมีบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด สนใจสามารถติดต่อเข้ามาที่ฝ่ายขายของเรากันได้เลยค่ะ คราวหน้าเราจะเอา เครื่องมือวัดตัว ไหนมาแนะนำกันให้รู้จักอีก อย่าลืมติดตามเรานะคะ ขอบคุณค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

2 ประเภทที่มักพบในการใช้เครื่องมือวัด ไฮดรอมิเตอร์

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

2 ประเภทที่มักพบในการใช้เครื่องมือวัด ไฮดรอมิเตอร์

มาทำความรู้จัก เครื่องมือวัด ประเภท HYDROMETER กันค่ะ           

Hydrometer เป็น เครื่องมือวัด ที่เอาไว้ใช้วัดความถ่วงจำเพาะและความหนาแน่นของของเหลวตามหลักการของการลอยตัว ไฮดรอมิเตอร์ ลักษณะของตัวเครื่องมือนั้นมันจะเป็นหลอดแก้วหลอดทรงผอมยาวและจะมีน้ำหนักด้วยปรอทหรือตะกั่วอยู่ภายใต้หลอดเพื่อให้มันถ่วงสามารถลอยตัวจะมีความถ่วงจำเพาะที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของสารต่างๆที่อยู่ในของเหลวนั้นการถ่วงน้ำหนักและภายในหลอดของไฮโดรมิเตอร์จะมีแถบเส้นสเกลตัวเลขไว้สำหรับใช้ในการอ่านค่าความถ่วงจำเพาะ หรือ ความหนาแน่นของของเหลวที่ใช้ในการวัด การทำงานของ ไฮโดรมิเตอร์ โดยทั่วไปนั้นจะเป็นการทำงานแบบแรงลอยตัวขึ้นที่กระทำต่อวัตถุที่จมอยู่ในของเหลวไม่ว่าวัตถุนั้นจะจมทั้งส่วนหรือบางส่วนก็ตาม จะเท่ากับน้ำหนักของของเหลวที่วัตถุนั้นแทนที่ และ มีทิศทางขึ้นจากจุดศูนย์กลางของมวลของของเหลวที่ถูกแทนที่นั้นความไม่แน่นอนของการสอบเทียบค่าที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับความละเอียดของเครื่องมือ

 

Hydrometer ส่วนมากที่พบเจอจะมีอยู่ 2 ประเภท

  • แบบวัดความหนาแน่นจะเรียกว่า ไฮดรอมิเตอร์ประเภท DENSITY 
  • แบบวัดความถ่วงจำเพาะของเหลวจะเรียกว่าไฮดรอมิเตอร์ประเภท SPECIFIC GRAVITY 

ไฮดรอมิเตอร์แบบ DENSITY และแบบ SPECIFIC GRAVITY จะคล้ายกันมากแต่ความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน คือ ประเภท DENSITY
จะมีหน่วยในการวัดเป็น g/ml(กรัมต่อมิลลิลิตร)แบบ SPECIFIC GRAVITY มันจะไม่มีหน่วยในการวัด

 

วิธีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด Hydrometer ของทาง บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ( CLC )

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด หรือ CLC  สอบเทียบเครื่องมือวัด ไฮโดรมิเตอร์ โดยใช้วิธีการ COMPARE กับ ไฮดรอมิเตอร์ ที่เป็นตัวมาตรฐานของห้องปฎิบัติการ (STD) กับเครื่องมือของทางลูกค้า (DUC) และ ใช้สารละลายที่เป็นตัวกลางในการ COMPARE ทุกครั้งที่ทำการสอบเทียบปัจจัยที่สำคัญในการสอบเทียบซึ่งมีผลต่อค่าที่สอบเทียบได้ คือ อุณหภูมิ ในขณะที่ทำการสอบเทียบทางห้องปฎิบัติการจะต้องควบคุมอุณหภูมิให้ได้อยู่ที่ 20 ºC

 

ขอบข่ายในการออก ACCREDITED ของ บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี ( CLC )

สามารถออก ACCREDITED ได้การรับรองมาตรฐาน ISO/IEC17025:2017 จาก สมอ. (ประเทศไทย)  และ  ANAB (ประเทศสหรัฐอเมริกา)

 

ข้อที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อไฮโดรมิเตอร์มาใช้งาน

  1. ควรคำนึงถึงความต้องการในการใช้งาน
  2. ความสามารถในการวัดของตัวเครื่อง

 

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือไฮโดรมิเตอร์หลังจากใช้งานเสร็จ

ทุกครั้งที่มีการนำ เครื่องมือวัด ตัวไฮโดรมิเตอร์ออกไปใช้งานก่อนเก็บเข้าที่ควรจะเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยซึ่งควรจะมีน้ำยาทำความสะอาดเครื่องแก้วติดเอาไว้เพราะจะเป็นน้ำยาจำเพาะในการทำความสะอาดตัวเครื่องแก้วในตัวน้ำยาอาจจะมีสารในการดูแลตัวเครื่องแก้วอยู่ในนั้นหลังจากนั้นก็เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

 

ทำไมต้องส่ง เครื่องมือวัด มาสอบเทียบ

การส่งสอบเทียบเครื่องมือวัด เพื่อตรวจสอบเช็คค่าเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือที่เราใช้งานอยู่นั้นยังสามารถที่จะใช้งานได้ต่อ สอบเทียบแล้วยังได้ค่าที่มั่นคง แม่นยำ ถูกต้องอยู่ เครื่องมือวัดอุตสหกรรมในโรงงานส่วนมากก็จะมีการส่งตรวจสอบให้มีความถูกต้องตามความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ที่ทางลูกค้าได้กำหนดไว้ (MPE)  เพื่อให้ได้มาตรฐาน

 

ข้อแนะนำจาก บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ( CLC ) เกี่ยวกับ HYDROMETER

บนตัวเครื่องมือวัดไฮโดรมิเตอร์ ไม่ควรติด STICKER หรือ ไม่ควรที่จะสลักอะไรลงไปโดยเด็ดขาด เพราะจะมีผลต่อค่าในการสอบเทียบ และ มีผลต่อการใช้งานด้วยค่ะ

 

รูปแบบของไฮดรอมิเตอร์

ผู้เขียน Kaem Yui

เครื่องวัดความหวาน (Refractometer) Atago วิธีใช้งานง่ายกว่าที่คิดจริงมั้ย

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา