คลังเก็บป้ายกำกับ: Mass’s Article

ทำไมต้องใช้ เครื่องชั่ง Vibra SJ-12KCEN

ลือก เครื่องชั่งละเอียด ( Digital Balance )แบบไหนดีนะ? 

คงตอบไม่ถูกเหมือนกันถ้าเราไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่า เครื่องชั่งแบบไหนมีข้อดียังไง ซื้อเครื่องชั่ง แบบไหนดี วันนี้ Calibration Laboratory (CLC) มีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันมีเครื่องชั่งหลากหลายแบรนด์ที่มีการแข่งขันทางด้านการค้าอย่างมากทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ เช่น แบรนด์ SARTORIUS , METTLER TOLEDO, OHAUS , AND, JADEVER, CAS, SHIMADZU และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายหลากหลายให้เลือก นอกจากสินค้าที่ต้องมีคุณภาพจึงจะสามารถอยู่รอดในการแข่งขันธุรกิจ อุตสาหกรรมนั้นๆ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือความซื่อสัตย์ที่ต้องมีต่อลูกค้าทุกระดับในทุกทุกกิจการ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้อุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ สารเคมี อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมรถยนต์ งานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมเครื่องบิน ฯลฯ และเพื่อให้คุณสามารถทำการแข่งขันในตลาดได้อย่างไม่เป็นรองใครนั้น เครื่องชั่งที่ใช้ต้องมีคุณภาพสูง และต้องผ่านการ สอบเทียบเครื่องชั่ง อย่างเป็นประจำ เราจึงอยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับเครื่องชั่งอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพสูงคุณภาพดีอย่างแบรนด์ VIBRA รุ่น  SJ-12KCEN  

เรามาดูข้อมูลรายละเอียดของเครื่องชั่งรุ่น SJ-12KCEN นี้กันเลยว่าเป็นอย่างไร

SJ-12KCEN

เป็นเครื่องชั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของท่านได้ดีที่สุดด้วยหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ พร้อมแสงด้านหลังสีขาวช่วยให้การชั่งน้ำหนักทำได้ง่ายและสะดวกสบายแม้อยู่ในที่มืด สามารถปรับระดับขาของฐานเครื่องชั่ง พร้อมระดับน้ำสำหรับความสมดุลนอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานในรูปแบบการหักค่าภาชนะ (Tare) การอ่านค่าเป็นเปอร์เซนต์ (%) การนับชิ้นงาน (Count) รวมถึงการ Memory จดจำน้ำหนักของวัตถุที่ทำการชั่งได้ด้วย สำหรับ MODEL : SJ-12KCEN

ข้อดีของ SJ-12KCEN  นั้นก็มีด้วยกันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งานซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขนาดกระทัดรัด สามารถติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่ขนาดเล็ก มีความเที่ยงตรงและแม่นยำด้วยระบบ Stabilizationช่วยให้มั่นใจได้ถึงการชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องได้อย่างแม่นยำ มีการตอบสนองนั้นรวดเร็วในส่วนของปุ่มการใช้งานรูปแบบปุ่มเป็นปุ่มที่สามารถใช้งานเรียบง่ายไม่ซับซ้อนและมีหน้าจอเป็นแบบจอ LCD ที่มีขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจนสะดวกในการใช้งาน

พูดถึงข้อดีไปแล้วจะก็มาดูกันว่า SJ-12KCEN มีข้อเสียอะไรบ้างถ้าจะให้แยกข้อเสียจริงๆ ก็แทบจะไม่มีข้อเสียอะไรมากมายเลยจะมีบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราจะมาแยกให้ดูเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  1. หากมีแรงสั่นสะเทือน หรือมีกระแสลมมากจะส่งผลให้ตัวเลขแบบดิจิตอลอ่านค่าไม่นิ่ง
  2. วัสดุงานที่นำมาชั่งมีสิ่งสกปรก, ได้รับแรงกระแทกจากภายนอกหรือ ลูกตุ้มที่นำมาใช้ไม่ได้มาตราฐานพอนั้น จะส่งผลให้การอ่านค่าคำนวณเครื่องชั่งไม่ถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเครื่องมือหรือวัสดุที่เป็นส่วนประกอบที่จะนำมาชั่งไม่ได้มาตรฐานก็ย่อมมีผลต่อการชั่งทุกรูปแบบอยู่แล้ว
  3. วัสดุโครงสร้างนั้นไม่กันน้ำเนื่องจากเป็นรุ่นที่ไม่มี IP67

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเรื่อง เครื่องชั่งละเอียด MODEL : SJ-12KCEN ยี่ห้อ VIBRA แบบดิจิตอล( Digital Balance ) หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยสำหรับท่านที่สนใจเครื่องชั่งดิจิตอล MODEL : SJ-12KCEN ยี่ห้อ VIBRA

หากท่านกำลังมองหาเพื่อ ซื้อเครื่องชั่ง สักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เครื่องชั่ง SJ-12KCEN ตอบโจทย์การใช้งานของท่านแน่นอน

นอกจากนี้ CLC มีสินค้าจำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องชั่ง ตามมาตราฐาน OIML-R76-1 หลากหลายให้ท่านได้เลือกสรร อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมั่นในมาตรฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ  

ผู้เขียน BEW JJ

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

เกร็ดความรู้ (Balance) เครื่องชั่ง

เครื่องชั่ง (Balance) ถือเป็นอีกเครื่องมือวัดหนึ่งที่มีการใช้งานกันอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีการใช้งานอยู่บ่อยครั้งจึงจำเป็นต้องทำการส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด อย่างสม่ำเสมอ
เรามาทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัด ชนิดนี้กันมากขึ้นกันดีกว่าครับ

1. เครื่องชั่ง

เป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้วัดน้ำหนักวัตถุชนิดต่างๆ เพื่อบ่งชี้วัดขนาดของน้ำหนักที่วัดได้ โดยปัจจุบันเครื่องชั่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ผู้ใช้งานนั้นสะดวกสบาย ลดขั้นตอนและระยะเวลาต่างกันกับเครื่องชั่งในอดีตที่ผ่านมา
เครื่องชั่งมีประโยชน์ในการใช้งาน ในหลายๆแวดวงต่างๆ เช่น ในวงการอุตสาหกรรม, ทางการแพทย์, การพาณิชย์, และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมนั้นช่วยให้พัฒนาคุณภาพด้านน้ำหนักสินค้าทำให้แข่งขันและเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศได้

2. หน่วยในการใช้วัดน้ำหนัก

มีอยู่หลายหน่วยด้วยกันตามความเหมาะสมของผู้ใช้งานดังนี้
g = กรัม

kg = กิโลกรัม

oz = ออนซ์

ib = ปอนด์

เครื่องชั่งที่ดีนั้นควรวัดค่าออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถปรับค่าหรือ adjust ค่าได้ ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องชั่งให้เหมาะสมกับงานนั้นมีความสำคัญมาก โดยเครื่องชั่งทั่วไปนั้น มีทั้งแบบไม่ใช้ถ่าน, ใช้ถ่าน 2 A, 3A, เม็ดกระดุม, แบตเตอร์รี่ที่เราสามารถชาร์จไฟได้และใช้แบบ Adaptor

3. เครื่องชั่ง นั้นมีหลายประเภท ขนาดและลักษณะการใช้งานด้วยกัน ดังนี้

3.1 Spring Balance (เครื่องชั่งสปริง) มีหลากหลายขนาดด้วยกัน มีหน้าปัดเป็นวงกลมและมีเข็มวัด ไม่ใช้ถ่านหรือไฟจาก Adaptor สามารถเคลื่อนย้ายได้เครื่องไม่ใหญ่และน้ำหนักไม่มากนัก เมื่อต้องการใช้งานควรตรวจสอบก่อนการใช้ให้เข็มชี้ไปที่เลข 0

3.2 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักตัว) เป็นเครื่องชั่งที่ใช้วัดน้ำหนักตัวของคน เพื่อใช้คำนวณวัดค่าต่างๆของร่างกาย บางประเภทไม่ใช้ถ่านหรือไฟจาก Adaptor อาจมีหน้าปัดเป็นจอดิจิตอลหรือเข็มวัด หรือบางประเภทต้องใช้ไฟจาก Adaptor จึงไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย

3.3 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบตั้งโต๊ะที่มีขนาดเล็ก) ส่วนใหญ่วางบนโต๊ะหรือที่สูง ใช้สำหรับวัดน้ำหนักของวัตถุขนาดเล็ก ที่มีน้ำหนักไม่มากนัก หน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอล บางประเภทสามารถนับจำนวนชิ้นได้ ซึ่งมีความละเอียดและความแม่นยำสูง มีทั้งแบบแบตเตอร์รี่และใช้ไฟจาก Adaptor จึงไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้าย

3.4 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบตั้งพื้นที่มีขนาดกลาง) ส่วนใหญ่ใช้วางบนพื้นราบและมีจอแสดงผลเป็นดิจิตอลตัวเลข ใช้สำหรับทั้งวัดน้ำหนักของวัตถุขนาดกลางถึงวัตถุที่น้ำหนักมาก มีขาที่สามารถปรับระดับทั้งสี่ด้าน การใช้งานจะใช้ไฟจาก Adaptor ทำให้ไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้าย

3.5 Beam Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบคานแขวน) เป็นเครื่องชั่งที่มีตุ้มน้ำหนักติดแขวนไว้บนคาน มีตะขอเกี่ยวตุ้มน้ำหนัก เวลาใช้งานให้แขวนตุ้มน้ำหนักไว้ที่ตะขอเพื่อวัดน้ำหนัก ใช้วัดน้ำหนักของวัตถุที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งเครื่องชั่งน้ำหนักแบบคานแขวนนี้เป็นเครื่องวัดที่มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย

4. ข้อควรระวัง

  • เครื่องมือวัด ประเภทเครื่องชั่งที่มีความละเอียดสูง ไม่แนะนำให้เคลื่อนย้าย เนื่องจาก Sensor ภายในมีความเปราะบางสูง มีโอกาสชำรุดได้ง่าย
  • ในกรณีที่จำเป็นเคลื่อนย้ายเครื่องชั่งให้ถอดจานรองเครื่องออกก่อนในระหว่างเคลื่อนย้าย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจานรองเครื่องชั่งกระแทกเข้ากับ Sensor ของเครื่อง ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
  •  หลีกเลี่ยงการวางเครื่องชั่ง ลงอย่างแรงหรือกระแทกรุนแรง เพื่อป้องกันอุปกรณ์ภายในเสียหาย
  • ตรวจเช็คถ่าน, แบตเตอร์รี่ หรือเข็มวัด ให้อยู่ในสภาพการใช้งานปกติเสมอ เข็มวัดต้องอยู่ที่ตัวเลข 0 และตรวจสอบว่าแบตเตอร์รี่มีไฟเพียงพอหรือไม่ก่อนใช้งานทุกครั้ง
  • ปรับขาทั้งสี่ด้านให้อยู่ระดับเดียวกัน

และสิ่งที่ลืมไม่ได้นั้นคือหมั่นตรวจเช็คเครื่องชั่งให้อยู่ในสภาพใช้งานปกติ และส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด และ เครื่องชั่ง น้ำหนักทุกปีกับ Calibration Laboratory เพื่อวัดค่าความเที่ยงตรงพร้อมใช้งานอยู่เสมอครับ

ผู้เขียน Timnorton

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

Hand Lift คืออะไร ทำไมเราถึงต้องสอบเทียบ

Hand Lift

คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยกสิ่งของที่วางซ้อนกันที่มีปริมาณละน้ำหนักมากบนแผ่นพาเลทซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่า รถลากพาเลท (Hand Lift) – Hand Pallet Truck อุปกรณ์เหล่านี้พบเจอส่วนใหญ่ในห้างสรรพสินค้า โกดังสินค้า สโตร์ โรงงาน และที่อื่นๆ ที่ต้องเคลื่อนย้ายของที่มีน้ำหนักมากโดยทั่วไป รถลากพาเลท สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 2-3 ตันเลยทีเดียว

ที่มา: https://www.google.com/search?q=%E0%B9%89%E0%B9%89hand+lift

 

ทำไมต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด

การใช้งานของ รถลากพาเลท เครื่องมือที่มีการใช้งานอยู่นั้นโดยลักษณะทั่วไปจะส่งผลต่อค่าที่อ่านได้แม่นยำหรือไม่แม่นยำทางผู้ใช้งานจะทราบได้ก็ต่อเมื่ออ่านค่าผิดพลาดไม่ตรง ซึ่งส่งผลโดยตรงเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานและคนรับผิดชอบเกี่ยวกับงานนั้นๆ เพราะอย่างนั้นแล้วการสอบเทียบเครื่องมือวัดกับห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

ที่มา: https://tshandlift.com/article/choosing-right-hand-lift

แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีบริการสอบเทียบนอกสถานที่ (Onsite) ประเภท รถลากพาเลท สามารถสอบเทียบได้ 0-4500 กิโลกรัม หรือ 4.5 ตัน โดยใช้ Standard ในการสอบเทียบเป็น Standard Weight Class M1 ขนาด 20 Kg ในการสอบเทียบเครื่องมือวัด โดยการสอบเทียบนั้นทางลูกค้าจะต้องเตรียมแผ่นพาเลทเพื่อใช้สำกรับวาง Standard Weight ให้ครบตามปริมาณของน้ำหนักที่ลูกค้าต้องการสอบเทียบ ซึ่ง แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) มีทีมงานเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือสอบเทียบ (STD) ที่สามารถสอบย้อนกลับได้ถึง SI Unit

                                                          ที่มา 

 

การใช้งานของ เครื่องมือรถลากพาเลท 

โดยการใช้งานรถลากพาเลทที่เป็นแบบระบบ Manual

  1. ทำการปลดก้านคันโยกขยับคันโยกแม่แรงพาเลทได้คล่องตัว
  2. โยกแม่แรงที่จะใช้ในการบังคับง่าม โดยปกติง่ามจะอยู่ต่ำสุดในระดับห่างจากพื้นเพียง 1-2 นิ้ว
  3. ทำการสอดง่ามเข้าใต้พาเลท และปรับระดับให้พอดีกับช่องด้านล่างพาเลท โดยที่ความยาวของง่ามควรเหมาะกับขนาดของพาเลท
  4. เมื่อต้องการยกขึ้น ให้ดันคันโยกลง แล้วออกแรงปั๊มคันโยก
  5. หากต้องการเคลื่อนที่ ให้ปรับคันโยกมาตำแหน่งตรงกลาง ง่ามจะไม่ยกขึ้นหรือลงและเมื่อจะเอาง่ามลง ให้ดันคันโยกขึ้นง่ามจะลดลง

 

การดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือรถลากพาเลท

ก่อนใช้งานของเครื่องมือควรเช็คขีดความสามารถของ เครื่องมือรถลากพาเลท ได้มากสุดเท่าไหร่ เหมาะสมกับน้ำหนักที่จะนำไปยก และไม่ควรยกขึ้นจนสุด เพื่อป้องกันกระบอกยกรับน้ำหนักมากจนเกินไปจนอาจเสียหายได้ เมื่อใช้งานเสร็จ ไม่ควรยกของค้างไว้ และปรับให้อยู่ในระดับปกติก่อนปิดเครื่อง

ข้อแนะนำในการส่งสอบเทียบ รถลากพาเลท กับทางแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC)

เพื่อความรวดเร็วในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ลูกค้าจะต้องเตรียมพาเลทเพื่อใช้สำกรับวาง Standard Weight ไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มทำการสอบเทียบเครื่องมือ

 

ผู้เขียนSiriporn (Apple)

 

 

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

 

 

.

วิธีการใช้งาน เครื่องทดสอบความแข็ง Hardness Tester

ในภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตเหล็กหรือโลหะที่มีความแข็งแตกต่างกันออกไปนั้น เราจะสามารถแยกเกรดหรือชนิดของโลหะได้อย่างไร การทดสอบความแข็งของเหล็กหรือโลหะนั้นใช้หลักการหรือมีหลักเกณฑ์ใดมาตัดสิน ดังนั้นเครื่องมือที่สามารถช่วยเราในการทดสอบเพื่อควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง จึงจำเป็นต้องทำการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ชนิดนี้กันเป็นประจำ วันนี้ผู้เขียนจะพามาทำความรู้จักกับเครื่องมือทดสอบชนิดนี้กัน นั้นคือ…..!!!

Hardness Tester เครื่องทดสอบความแข็ง

 

เครื่องทดสอบความแข็ง (Hardness Tester) คือเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้วัดและทดสอบหาค่าความต้านทานของโลหะหรือชิ้นงาน มีทั้งแบบพกพาและแบบตั้งโต๊ะ เป็นแบบดิจิตอลและอนาล็อก โดยการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานตามความเหมาะสม ผู้ใช้งานควรศึกษารายละเอียดเครื่องทดสอบความแข็งก่อนซื้อ โดยส่วนใหญ่นำไปใช้งานเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพชิ้นงานโลหะให้ได้ตามสเปคที่กำหนดไว้ หรือใช้ทดสอบแยกชนิดโลหะว่าเป็นเกรดเดียวกันหรือไม่ เป็นต้น

นิยามความแข็ง คือ วัตถุที่สามารถทนต่อแรงกระทำหรือแรงต้านทานที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างถาวรได้ เช่นการกลึง การขัดขูดเสียดสี และแรงกด ความแข็ง (Hardness) ไม่สามารถบ่งบอกด้วยน้ำหนัก เวลา หรือความยาวได้ แต่จะหาค่าได้จาก

วิธีการทดสอบให้เกิดร่องรอยถาวร

โดยมีการทดสอบดังนี้

  1. การขีดข่วน เพื่อทดสอบดูว่ารอยที่ขูดขีดเป็นรอยลึกมากเพียงใด โดยใช้วัตถุที่แข็งกว่าเช่นเพชร, Tungsten carbideหรือเหล็กชุบแข็ง เป็นต้น ขูดให้เกิดรอยบนชิ้นงาน
  2. การขัดเสียดสี เพื่อทดสอบดูว่าเกิดการสึกหรอมากเพียงใด โดยการใช้ตะไบขัดที่ชิ้นงาน
  3. การทดสอบแบบกด เพื่อทดสอบดูว่าขนาดรอยยุบตัวจากการกด โดยใช้แรงที่หัวกดของเครื่องทดสอบความแข็งกระทำลงบนชิ้นงาน

การทดสอบแบบที่ 3 เป็นการทดสอบที่นิยมแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมและมีความแม่นยำเที่ยงตรงที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้ ได้มีเครื่องมือทดสอบความแข็ง (Hardness tester ) ที่มีคุณภาพสูงให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท โดยเครื่องทดสอบความแข็งมีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันรวมถึงลักษณะที่แตกต่างกัน และวิธีการทดสอบ ดังนี้

  1. Brinell Hardness Test
  2. Vickers Hardness Test
  3. Rockwell Hardness Test

1. Brinell hardness Test 

เป็นวิธีการทดสอบความแข็งโดยอาศัยแรงกดคงที่กระทำกับลูกบอลเหล็กกล้าชุบแข็ง (Harness Steel Ball) หรือลูกบอลคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide Ball) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง D กดลงบนผิวชิ้นงานทดสอบด้วยแรง F ค้างหัวกดไว้ชั่วครู่แล้วยกออก จะทำให้เกิดรอยกดที่มีความลึก t และมีเส้นผ่านศูนย์กลางรอยกดเฉลี่ย d ดังรูป ซึ่งได้ค่าจากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางรอยกดในแนวตั้งฉากกันสองค่าแล้วหาค่าเฉลี่ย ลูกบอลเหล็กชุบแข็งสามารถสร้างรอยกดที่ลึกและกว้างได้ ค่าความแข็งจะคำนวณจากแรงกดที่กระทำต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ผิว ใช้หน่วยการวัดเป็น HB วิธีการทดสอบนี้เหมาะกับโลหะผสมอลูมิเนียม โลหะผสมทองแดง

รูปที่ 1 ลักษณะการทดสอบแบบ Brinell

2. Vickers Hardness Test

เป็นการทดสอบความแข็งโดยใช้หัวกดเพชร ฐานเป็นพีระมิดสี่เหลี่ยม ปลายหัวกดทำมุม 136 องศา กดค้างลงไปเป็นเวลา 10-15 วินาที รอยกดเส้นทแยงที่ยุบตัวลงบนชิ้นงาน จะถูกวัดโดยกล้องจุลทรรศน์ ค่าความแข็งจะคำนวณจากแรงกดของค่าเฉลี่ยของเส้นทแยงที่กระทำต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ของผิวเช่นเดียวกับการทดสอบแบบ Brinell โดยการทดสอบวิธีนี้หัวกดที่ทำมาจากเพชรจะมีความแข็งสูงมาก ดังนั้นในการใช้งานจึงสามารถวัดค่าความแข็งได้ตั้งแต่โลหะที่นิ่มมาก จนถึงโลหะที่แข็งมากๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวกด โดยใช้หน่วยในการวัดเป็น HV ข้อดีของการทดสอบความแข็งแบบ Vickers คือการอ่านค่าที่แม่นยําสูง และหัวกดแบบเดียวสามารถใช้ได้กับทุกประเภทของวัสดุรวมถึงวัตถุที่ชุบแข็งด้วย ส่วนข้อเสียคือ มีราคาแพงกว่าเครื่องทดสอบความแข็งแบบ Brinell และ Rockwell

 

รูปที่ 2 ลักษณะการทดสอบแบบ Vickers

 

  1. Rockwell Hardness Tester

เป็นวิธีทดสอบความแข็งของโลหะด้วยหัวกดเพชรรูปทรงกรวยหรือหัวกดลูกบอลเหล็กชุบแข็ง โดยจะวัดหาค่าความแข็งจากความลึกของรอยยุบตัวด้วยแรงกระทำที่คงที่จากหัวกดโดยตรงเป็นหลัก ไม่ได้อ้างอิงจากสมการวัดแรงกดต่อพื้นที่เหมือนแบบ Brinell หรือ Vickers โดยใช้หน่วยการวัดเป็น HRA, HRB และ HRC วิธีการทดสอบนี้ให้ผลการวัดที่ค่อนข้างแม่นยำสูง แลใช้อุปกรณ์น้อยชิ้นเมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น ซึ่งการทดสอบประเภทนี้เป็นที่นิยมใช้มากที่ จากการทดสอบดังกล่าว จะเห็นได้ว่าวิธีการทดสอบความแข็งแบบ Rockwell เป็นวิธีการทดสอบที่ง่ายต่อการใช้งาน เมื่อเทียบกับ Vickers และ Brinell แต่ก็มีข้อเสียบ้างอยู่เช่นเดียวกันคือ มีพิสัยในการวัดที่แคบและไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร

รูปที่ 3 ลักษณะการทดสอบแบบ Rockwell

ส่วนประกอบของเครื่องทดสอบความแข็ง

รูปที่ 4 ตัวอย่างส่วนประกอบของเครื่องทดสอบความแข็ง

 

วิธีการใช้งานเครื่องทดสอบความแข็ง

  • เปิดสวิตซ์เครื่องที่ปุ่ม On/Off
  • ประกอบหัวกดใส่เข้าไปกับตัวเครื่องและเลือกชนิดหัวกดให้ตรงกันกับเครื่องทดสอบ
  • กดปุ่มเพื่อตั้งค่าความแข็งให้เป็นศูนย์ก่อนการทดสอบชิ้นงาน
  • ตั้งค่าเครื่องมือทดสอบ เช่นแรงกด เวลาในการกด เป็นต้น
  • นำชิ้นงานทดสอบวางบนแท่นรอง Stage X-Y
  • จากนั้นเลื่อน Stage ขึ้นโดยใช้มือหมุนปรับ โฟกัสจนเห็นภาพพื้นผิวของชิ้นงาน โดยใช้เลนซ์กำลังขยายในการตรวจวัดค่า
  • วัดขนาดของรอยยุบที่ปรากฏบนจอภาพ ซึ่งรับภาพผ่านเลนซ์ขยาย และบันทึกค่า

ข้อควรระวังในการใช้เครื่องมือวัดความแข็ง

  • ชิ้นงานควรมีความหนาเท่ากันทั้งชิ้นและผ่านการขัดพื้นผิวเพื่อให้เห็นรอยทดสอบที่ชัดเจน ไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมใดเข้ามาบนพื้นผิวระหว่างทดสอบ
  • ควรล็อกตัวอย่างให้นิ่งโดยใช้ตัวหนีบที่ติดมากกับฐานเครื่อง เพื่อช่วยในการจับยึดชิ้นงาน ไม่ให้ชิ้นงานเกิดการเคลื่อนที่ในระหว่างการกดทดสอบ
  • ควรวางให้พื้นผิวของชิ้นงานตัวอย่าง ให้อยู่ในแนวตั้งฉากกับหัวกด
  • ไม่ควรกดเร็วจนเกินไป อาจส่งผลทำให้การวัดค่านั้นขาดความคงที่ ดังนั้นผู้ใช้งานควรศึกษาความเร็วในการกดที่เหมาะสม เพื่อให้การวัดนั้นตรงหรือใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
  • ไม่ควรใช้เวลาในการกดนานมากจนเกินไป อาจส่งผลทำให้ค่าความแข็งน้อยกว่าความเป็นจริงได้ หรือใช้เวลาน้อยเกินไปก็อาจทำให้ได้รอยที่ไม่ชัดเจน เพราะพื้นผิวชิ้นงานเกิดการคืนตัว ควรใช้ค่าประมาณ 10-15 วินาทีในชิ้นงานนั้นๆ
  • ขณะเลื่อนตัวอย่างชิ้นงานขึ้นควรระมัดระวัง อย่าให้ชิ้นงานชนกับเลนส์วัตถุ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ได้
  • อุณหภูมิที่สูงเกินไป ต่ำเกินไป ความชื้นภายในอากาศ ไปจนถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กๆ ล้วนมีโอกาสส่งผลกระทบทำให้การวัดค่าที่ละเอียดอ่อนคลาดเคลื่อน ทางผู้ใช้งานเองควรใส่ใจในเรื่องดังกล่าวเป็นสำคัญด้วย เพื่อความแม่นยำในการทดสอบที่มากที่สุด
  • ส่งสอบเทียบประจำปี เพื่อวัดค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือทดสอบความแข็ง โดยบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบได้

CLC Scope lab (Accredited 17025:2017)

ทางแล็บแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี สามารถสอบเทียบและได้รับการรับรอง Accredited 17025:2017 วิธีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด Hardness Tester ของต่างประเทศ (ANAB จากประเทศสหรัฐอเมริกา)

Scope ที่ได้รับการรับรองมีดังนี้

Function HRA 35, 60, 85

Function HRBS 40, 70, 90

Function HRBW 40, 70, 90

Function HRC 20, 30, 40, 50, 60, 65

สอบเทียบโดยวิธีการ Comparison with Reference Hardness Block

Credited by Timnorton

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

เครื่องวิเคราะห์ความชื้น Moisture Balance คืออะไร ทำงานอย่างไร

Moisture Balance

 

MOISTURE BALANCE หรือ เครื่องวัดความชื้น  เป็นเครื่องมือวัดค่าแบบหนึ่งที่บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีให้บริการแคลิเบรท (Calibrate) หรือ สอบเทียบเครื่องมือวัด  โดยเครื่อง MOISTURE BALANCE หรือ เครื่องวัดความชื้น นี้ เป็นเครื่องหาความชื้นของสารที่สามารถหาได้ทั้งในของแข็งและของเหลว ด้วยหลักการการให้ความร้อนด้วยแสงจากหลอดฮาโลเจน (Halogenmoisture analyzer)  เครื่องวัดความชื้นจึงเป็นเครื่องมือวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักของตัวอย่างก่อนและหลังจากได้รับความร้อนจนความชื้นหมดไป ตัวอย่างจะถูกชั่งก่อนและหลังการอบเพื่อหาค่าความแตกต่างความชื้นของตัวอย่างจะรวมอยู่ในส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์  ซึ่งความชื้นจะระเหยเมื่อได้รับความร้อน ค่าความชื้นของวัสดุจะแตกต่างจากการปนของน้ำในวัสดุ ดังนั้นหากเราต้องการหาค่าความชื้นของวัสดุ เราจึงต้องให้วัสดุคายน้ำออกมา กระบวนการคายน้ำนั้นคือกระบวนการที่จะไล่น้ำออกจากตัวอย่างออกมา ซึ่งวัสดุจะคายน้ำที่อุณหภูมิหน่วยองศาเซลเซียส (อุณหภูมิการคายน้ำขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ)

ทำไมต้องมีการวิเคราะห์ปริมาณความชื้น

วัสดุธรรมชาติทุกชนิดจะมีความชื้นเป็นส่วนประกอบ ปริมาณน้ำหรือความชื้นในตัวอย่างไม่ค่อยเป็นที่สนใจมากนัก แต่ในการค้าจะต้องแสดงคุณสมบัติหรือใช้ค้นหาคุณสมบัติอื่นๆ ตามมาตรฐาน การวิเคราะห์หาความชื้นด้วยเครื่องวัดความชื้น จึงเป็นการตรวจสอบอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะปริมาณความชื้นจะบอกให้ทราบว่าวัสดุนั้นมีคุณภาพดีหรือไม่

โดยค่าความชื้นสามารถบ่งชี้คุณสมบัติของวัสดุได้ ดังนี้

  •  ระยะเวลาการเก็บรักษา สามารถเก็บรักษาได้นานแค่ไหน
  • การจับตัวของผงแป้ง
  • การควบคุมปริมาณของจุลินทรีย์
  •  คุณสมบัติการไหล, ความหนืด
  • ปริมาณส่วนประกอบที่ไม่รวมความชื้น
  • ความเข้มข้นหรือความบริสุทธิ์
  • ค่าอื่นๆ ตามข้อกำหนดของกฎหมาย

เครื่องวัดความชื้นทำงานอย่างไร?

MOISTURE BALANCE (เครื่องวัดความชื้น) ทำงานตามหลัก “การสูญเสียน้ำหนักจากการทำให้แห้ง เครื่องวัดความชื้นจะมีส่วนประกอบสองส่วน นั่นคือ ชุดชั่งน้ำหนักและชุดทำความร้อน ในการวัดปริมาณความชื้น น้ำหนักเริ่มต้นของตัวอย่างจะถูกบันทึกไว้ก่อน จากนั้นหลอดไฟฮาโลเจน (Halogen moisture analyzer) หรือ เครื่องกระจายความร้อนแบบอินฟราเรดอื่นๆ จะให้ความร้อนและทำให้ตัวอย่างแห้ง พร้อมกันนั้นเครื่องชั่งในตัวเครื่องวัดความชื้น จะทำการบันทึกน้ำหนักของตัวอย่างอย่างต่อเนื่อง เมื่อตัวอย่างไม่สูญเสียน้ำหนักอีกต่อไป เครื่องมือจะปิดการทำงานและคำนวณค่าปริมาณความชื้น โดยจะใช้น้ำหนักรวมที่สูญเสียไปในการคำนวณปริมาณความชื้น

 

 

 

วิธีเลือกเครื่องวัดความชื้นหลักเกณฑ์และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการเลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นที่เหมาะสม

การเลือกเครื่องเครื่องวัดความชื้นคุณอาจไม่แน่ใจว่าเครื่องใดที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เพราะว่ามีเครื่องวัดความชื้นอยู่มากมายหลากหลายรุ่นในท้องตลาด การเปรียบเทียบข้อมูลจำเพาะในเอกสารข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเลือกเครื่องวัดความชื้น ที่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าข้อมูลจำเพาะเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้แสดงให้เห็นถึงภาพทั้งหมดเลย ประสิทธิภาพในการวัดผลสำหรับตัวอย่างเฉพาะของคุณ หรือความสะดวกต่อการใช้งานในสภาพที่มีการทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างหลักเกณฑ์ที่เราไม่สามารถดูได้จากเอกสารข้อมูล ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงฟังก์ชันการทำงานและประสิทธิภาพของเครื่องมือจากมุมมองในภาพรวมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งศึกษาคำแนะนำ “วิธีเลือกเครื่องวัดความชื้น” และหาคำตอบว่าองค์ประกอบที่สำคัญต่อไปนี้ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของคุณอย่างไร

คุณลักษณะและประเภทของตัวอย่าง

  • เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและความง่ายในการใช้งาน
  • การบริหารจัดการข้อมูล
  • การทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์
  • การสนับสนุนและบริการ
  •  อุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมทางเลือก
  • คำอธิบายข้อมูลจำเพาะด้านเทคนิค

ระบบทำความร้อนของเครื่องวัดความชื้นคืออะไร?

  1. ขดลวดความร้อนเป็นแหล่งให้ความร้อนที่นิยมใช้งานในช่วงแรก ข้อดีคือ ราคาไม่สูง ทนทาน แต่ใช้ระยะเวลานาน ช่วงรอความเย็นลดลง
  2. Halogen lamps เป็นแหล่งให้ความร้อนที่นิยมกันมากในปัจจุบันของ moisture analyzer  ข้อดีคือ ร้อนเร็ว เย็นเร็ว ดูแลรักษาง่าย ตัวอย่างทดสอบจะเริ่มได้รับความร้อนจากการสัมผัสกับอากาศ นั่นคือจะมีการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกสู่ภายใน
  3. IR sensors การแผ่รังสีจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนเมื่อกระทบกับวัสดุทดสอบ ในกรณีนี้ตัวอย่างทดสอบจะร้อนจากข้างในและส่งผ่านความร้อนออกด้านนอก

โดยในการทดสอบนั้นต้องเกลี่ยชิ้นงานให้กระจายทั่วภาชนะตัวอย่างทดสอบต้องไม่หนาเกินไป เพราะความชื้นจะระเหยจากผิว ถ้าเป็นไปได้ตัดชิ้นงานให้มีขนาดเล็กลงหากต้องการหาค่าความชื้นของ ของเหลวจะต้องใช้อุปกรณ์ประกอบในการทดสอบ เช่น ทรายซิลิกา

เครื่องวัดความชื้นสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการผลิตหรือในห้องปฏิบัติการในอุตสาหกรรมใด?

  • อุตสาหกรรมประเภทอาหาร
  • อุตสาหกรรมประเภทยา
  • อุตสาหกรรมประเภทก่อสร้าง
  • อุตสาหกรรมการเกษตร

Moisture Balance กับการ Calibrate

เนื่องจาก เครื่องวัดความชื้น เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ความชื้นของวัสดุ ส่งผลไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งในด้านการซื้อขายและด้านคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ การดูแลรักษาเครื่องวัดความชื้นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ควรทำควบคู่ไปกับการแคลิเบรท (Calibrate) หรือสอบเทียบเครื่องมือวัดด้วย เพื่อยืนยันตามมาตรฐานได้ว่าเครื่องวัดความชื้นยังรายงานค่าได้ตรงตามความความจริง

โดยสามารถตรวจสอบ สอบเทียบเครื่องมือวัด ความแม่นยำได้ทั้ง 2 ฟังก์ชั่นด้วยกัน

  1. อุณหภูมิที่ตัวเครื่องทำความร้อน (Temperature) หากไม่สอบเทียบเครื่องมือวัด อาจทำให้ผลค่าความชื้นในตัววัสดุที่ทำการทดสอบไม่ตรงตามความจริง ในกรณีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าแสดง วัสดุอาจยังมีความชื้นหลงเหลืออยู่ หรือหากความร้อนสูงกว่าค่าแสดงอาจทำให้วัสดุที่ใช้เกิดไหม้ได้
  2. น้ำหนักที่ตัวเครื่องวัดความชื้นแสดง (Balance) หากไม่สอบเทียบเครื่องมือวัด ผลของน้ำหนักวัสดุทั้งก่อนและหลังทดสอบอาจไม่ตรงกับความจริงและส่งผลต่อผลิตภัณฑ์

SCOPE การ CALIBRATE  เครื่อง Moisture Balance CALIBRATE อุณหภูมิความร้อน(Temperature)

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) สามารถให้บริการในการสอบเทียบเครื่องมือวัดทั้งภายในและนอกสถานที่ โดย Range ในช่วงอุณหภูมิที่เครื่องวัดความชื้นสามารถทำอุณหภูมิได้ ควรสอบเทียบอุณหภูมิตามการใช้งานจริง 1หรือ 2 point อาทิเช่น 80 องศาเซลเซียส , 105 องศาเซลเซียส , 120 องศาเซลเซียส

CALIBRATE น้ำหนักที่ตัวเครื่องอ่านค่า (Balance)

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) สามารถให้บริการในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ทั้งภายในและนอกสถานที่ โดย Range ในช่วงน้ำหนักตั้งแต่หน่วย มิลลิกรัม, กรัม ไปจนถึง หน่วยกิโลกรัม ตาม SCOPE ของเครื่องชั่งที่ทางห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC)ได้การรับรองมาตรฐาน ทั้ง ISO/IEC 17025:2017 SCOPE สมอ. และ ANAB

ISO/IEC 17025:2017 SCOPE สมอ.Range ตั้งแต่ 1mg to 2500 kg

 

รูป 1.1 รายละเอียดแนบท้ายใบรับรองห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (สถานภาพห้องปฏิบัติการถาวร)

 

รูป 1.2 รายละเอียดแนบท้ายใบรับรองห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (สถานภาพห้องปฏิบัติการถาวร)

รูป 2.1 รายละเอียดแนบท้ายใบรับรองห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (สถานภาพห้องปฏิบัติการนอกสถานที่)

รูป 2.2 รายละเอียดแนบท้ายใบรับรองห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (สถานภาพห้องปฏิบัติการนอกสถานที่)

ISO/IEC 17025 SCOPE ANABRange ตั้งแต่ 1 mg to 4500 kg

 

ผู้เขียน Paemy Little

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

การใช้งานเครื่องชั่งรถ HANDY SCALE

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) กลับมาพบกันอีกเช่นเคยคะในบทความที่จะนำเสนอนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงประโยชน์ในการใช้งานเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) ของเรามีให้บริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ชนิดนี้อยู่ ซึ่งเครื่องมือวัดชนิดนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ง่าย เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสายการผลิตรถยนต์ และการบรรทุกสินค้าเพื่อขนส่งรวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ในรถพยาบาล ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักไม่มากและใช้งานกันอย่างแพร่หลายค่ะเรามาทำความรู้จักเครื่องมือที่พูดถึงนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

รูปที่  1 Handy Scale

Handy Scale

Handy Scale หรือ เครื่องชั่งน้ำหนักรถแบบพกพา เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตรวจสอบน้ำหนักของรถยนต์ รถบรรทุกขนาดเล็กต่างๆโดยส่วนใหญ่มักใช้ในสายการผลิตรถยนต์เป็นหลัก โดยมีหลักการทำงานคือเครื่องมือนี้จะทำงานเป็นระบบซึ่งระบบนี้จะช่วยให้เราสามารถวัดโหลดของล้อแต่ละล้อได้ง่ายและมีเสถียรภาพมาก สามารถวัดโหลดของแต่ละเพลา ผลรวมของโหลดล้อหน้าหรือหลัง และล้อซ้ายหรือล้อขวา และจำนวนรวมซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการชั่งน้ำหนักรถ

คุณสมบัติของเครื่องมือ

Handy Scale หรือ เครื่องชั่งน้ำหนักรถ แต่ละรุ่นจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีจอเเสดงผลเป็นแบบ LED แสดงตัวเลขเป็นดิจิตอล และมี DETECTOR ที่ใช้รับน้ำหนักมีทั้งแบบ 2 CHANNEL, 4 CHANNEL, 6 CHANNEL ดังรูปที่ 1โครงสร้างของ DETECTOR ของ Handy Scale  โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นอลูมิเนียม และเป็นแพลตฟอร์มที่มีขนาดกว้างเพื่อการวัดที่ง่าย มีโครงยางเพื่อความสะดวกในการจอด และกันกระแทกเวลานำรถขึ้นจอด ทำให้มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาหรือเคลื่อนย้ายได้สะดวก น้ำหนักในการใช้งานของเครื่องก็จะมีให้เลือกใช้ตั้งแต่ไม่เกิน 1,000 กิโลกรัมไปจนถึง 20,000 กิโลกรัม หรือ 20 ตัน แล้วแต่ว่าธุรกิจนั้นๆ ต้องการใช้น้ำหนักสูงสุดที่เท่าไร หากพิกัดน้ำหนักเกินช่วง15- 20 ตันขึ้นไป จะจัดเป็น Truck Scale ซึ่งเป็นเครื่องชั่งสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า

การใช้งานเครื่อง Handy Scale

ในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันมักมีการใช้ เครื่องชั่งน้ำหนักรถ ในการตรวจสอบน้ำหนักของรถยนต์ที่ทำการผลิตออกมาว่าแต่ละคันมีน้ำหนักได้มาตรฐานหรือไม่ อีกทั้งในธุรกิจที่มีการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ในรถปฐมพยาบาลก็ต้องมีการใช้เครื่อง Handy Scale นี้เพื่อตรวจสอบน้ำหนักของตัวรถที่รวมอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปด้วย ว่ามีน้ำหนักเกินที่มาตรฐานกำหนดหรือไม่ ก่อนจะนำออกมาใช้งานอย่างที่เราเห็นกัน และนอกจากนี้ในธุรกิจขนส่งที่ต้องมีการใช้รถบรรทุกขนาดต่างๆในการขนส่งสินค้าก็จำเป็นอีกเช่นกันที่จะต้องชั่งน้ำหนักของรถขนส่งของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักรถเกินที่กฎหมายกำหนด จะได้ไม่ต้องถูกปรับหรือถูกยึดรถ ซึ่งทำให้เสียเวลาและเสียเงิน เห็นไหมคะว่าเครื่องมือตัวนี้ก็มีความสำคัญมากชนิดหนึ่ง ซึ่งเราไม่ควรมองข้ามที่จะทำการสอบเทียบเครื่องมือวัดกับห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC)  เพื่อให้เครื่องมือแสดงผลได้อย่างเที่ยงตรงตามมาตรฐานนะคะ

รูปที่ 2 แสดงรูปแบบการใช้งาน

การบำรุงรักษาเครื่อง Handy Scale

  1. ก่อนเริ่มการใช้งานควรตรวจสอบเครื่อง Handy Scale ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
  2. เช็คหน้าจอ Indicator ว่าเปิดติดหรือไม่ ตัวเลข Digital อ่านได้ครบทุกหลักหรือเปล่า
  3. ตรวจเช็คสาย Connector และขั้วต่างๆ ว่าเกิดการชำรุดเสียหายหรือไม่
  4. ก่อนจัดเก็บเครื่อง Handy Scale ควรทำความสะอาด ให้เรียบร้อย เพราะขณะที่ใช้งานอาจมีน้ำหรือน้ำมันหยดใส่ที่ Detector หรือตัวอ่านหรือมีความชื้นที่ตัวเครื่องมือดังนั้นควรเช็ดให้สะอาด แล้วจึงค่อยทำการเก็บเครื่องมือ Handy Scale
  5. เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจทุกครั้งที่นำเครื่อง Handy Scale ออกมาใช้งาน ควรนำเครื่อง Handy Scale เข้ารับการสอบเทียบเครื่องมือวัด กับห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ

การสอบเทียบเครื่องมือวัด Handy Scale

  1. การ สอบเทียบเครื่องมือ วัด Handy Scale โดยใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน (Standard weight) ในการสอบเทียบเครื่องมือวัด จะนำตุ้มน้ำหนักวางลงบน Detector แต่ละแผ่นแล้วทำการบันทึกผลการวัดจนครบจำนวนแผ่นที่ต้องทำการสอบเทียบเครื่องมือวัด โดยการรายงานผลจะรายงานเป็นหน่วย กิโลกรัม (kg)
  2. การสอบเทียบเครื่องมือวัด Handy Scale โดยใช้ Load Cell ในการสอบเทียบเครื่องมือวัด จะใช้ Load Cell กดลงบน Detector แต่ละแผ่น แล้วทำการบันทึกผลจนครบจำนวนแผ่นที่ต้องการสอบเทียบเครื่องมือวัด โดยการรายงานผลจะรายงานเป็นหน่วย แรงกิโลกรัม (Kilogram Force หรือตัวย่อ kgf)

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีบริการสอบเทียบ

เครื่องมือวัด Handy Scale ได้โดยใช้ตุ้มน้ำหนักในการสอบเทียบซึ่งได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB ประเทศสหรัฐอเมริกา สอบเทียบเครื่องมือ วัด Handy Scale ได้สูงสุดถึง 1,000 กิโลกรัม (kg)

หากท่านสนใจบริการสอบเทียบเครื่องมือวัด Handy Scale สามารถติดต่อสอบถาม บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) ได้ทุกช่องทางการติดต่อ

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

Class ของตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน และการดูแลรักษา

เครื่องมือวัดอุตสาหกรรมที่ใช้สำหรับการวัดน้ำหนักในโรงงานอุตสาหกรรมมีใช้งานกันอย่างแพร่หลาย หากเครื่องวัดน้ำหนักเกิดความคลาดเคลื่อนนอกจากทำให้ระบบการผลิตไม่ได้คุณภาพแล้ว อาจทำให้น้ำหนักชิ้นงานผิดพลาดก่อให้เกิดความเสียหายได้ การตรวจสอบเครื่องชั่งเพื่อคำนวณค่าความถูกต้องและความคลาดเคลื่อนของชิ้นงานจึงมีความจำเป็นต้องตรวจเช็คเครื่องชั่งให้เป็นมาตรฐาน โดยใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน (Standard Weight) เสมอ

 

Class ของตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน (Standard Weight หรือ Mass) จะถูกแบ่งออกเป็นได้เป็นหลายคลาส ซึ่งตุ้มน้ำหนักอาจใช้เพื่อเป็นเกณฑ์การวัดให้เครื่องชั่งยังคงความมาตรฐานอยู่ซึ่งเราควรมีการดูแลรักษาตุ้มน้ำหนักมาตรฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วยการจัดเก็บและทำความสะอาดอย่างถูกต้อง

Standard Weight , Mass (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน)

Standard Weight , Mass (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน) คือ มวลที่ใช้ในการอ้างอิงน้ำหนัก โดย Standard Weight จะถูกแบ่งเป็น Class ตามความคลาดเคลื่อนของตุ้มน้ำหนักแต่ละขนาด (Maximum Permissible Error : MPE)ตามข้อกำหนดของ International Organization of Legal Metrology (OIML) ที่ระบุในเอกสาร R111-1 ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานสากลด้านมวลและเครื่องชั่ง ( Mass and Balance)

ที่มา: https://www.indiamart.com/proddetail/mass-calibration-9865365548.html

 

มาตรฐานของ Standard Weight (ตุ้มน้ำหนัก) ที่ใช้อยู่ทั่วไป

  • OIML International Organization of Legal Metrology ระดับชั้น E1…M3 พิกัดน้ำหนัก 1 mg ถึง 50 Kg
  • ASTM American Society For Testing and Materials ระดับชั้น 1…6 พิกัดน้ำหนัก 1 mg ถึง 5,000 Kg
  • NBS National Bureau of Standards ระดับชั้น J.. . T พิกัดน้ำหนัก 50 มิลลิกรัม ถึง 1,000 กิโลกรัม

 

Class ของตุ้มน้ำหนัก
Class ของ Standard Weight ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป และขนาดที่ทางบริษัท Calibration Laboratory สอบเทียบได้

  1. Class F1 1 mg – 20 Kg.
  2. Class F2 1 mg – 500 g.
  3. Class M1, M2, M3 1 Kg. – 20 Kg.

วิธีการสังเกตเบื้องต้นว่า Standard Weight เราอยู่ Class ใด สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก คือ

1. Standard Weight (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน) Class F1

ไม่สามารถปรับค่าได้เนื่องจากรูปทรงไม่สามารถหมุนปรับได้ และไม่มีรูสำหรับใส่ตะกั่วเพื่อทำการปรับค่า โดยรูปร่างของ Standard Weight (ตุ้มน้ำหนัก)เป็นไปตามมาตรฐานของ OIML ตัวเลขที่บ่งบอกขนาด Standard Weight ต้องเป็นตัวสกรีนไม่สลักหรือตอก

2. Standard Weight (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน) Class F2

สามารถปรับค่าได้โดยวิธีการหมุนปรับค่าที่หัวหรือตูด(จะมีน็อตที่เป็นตัวหมุนปรับ)ของตุ้มน้ำหนักโดยการใส่ตะกั่วเข้าเพื่อทำการปรับค่าในกรณีที่น้ำหนักน้อยกว่าค่าที่ต้องการ

3. Standard Weight (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน) Class M

สามารถปรับค่าได้ โดยตัวตุ้มน้ำหนัก Class นี้จะมีช่องสำหรับใส่ตะกั่วเข้าไปในตัวตุ้มน้ำหนัก เพื่อปรับแก้น้ำหนักกรณีน้ำหนักขาดหรือเกิน บริษัท Calibration Laboratory สามารถทำสีใหม่ให้ได้ด้วย

โดยบริษัท Calibration Laboratory สามารถให้บริการสอบเทียบตุ้มน้ำหนักได้ทั้ง 3 Class

รูปแบบของ Standard Weight (ตุ้มน้ำหนัก) ตามมาตรฐาน

1. แบบตามมาตรฐาน OIML ไม่สามารถปรับค่าได้

ที่มา: http://psecal.com/2019/04/19/

 

2. แบบมีช่องปรับน้ำหนักได้


               

3. แบบแผ่นโลหะ


              
 

วิธีการดูแลรักษาตุ้มน้ำหนัก Standard Weight 

  1. เก็บตุ้มน้ำหนัก Standard Weight ไว้ในอุณหภูมิตามความเหมาะสมของตุ้มน้ำหนักแต่ละ Class
  2. ไม่สัมผัส Standard Weight โดยตรง สวมถุงมือหรือใช้คีม ในการสัมผัสหรือหยิบตุ้มน้ำหนัก
  3. ระมัดระวังการใช้งานของ Standard Weight ไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน
  4. ทำความสะอาดก่อนและหลังใช้งานทุกครั้งด้วยแอลกอฮอล์

ยกตัวอย่างเช่น

ที่มา: http://www.labcert.it/taratura-masse-e-pesi
  • Standard Weight ขนาด 20 kg ของ Class F1 จะมี MPE (ค่าความคาดเคลื่อนที่ยอมรับได้) ไม่เกิน 100 mg
  • Standard Weight ขนาด 20 kg ของ Class F2 จะมี MPE (ค่าความคาดเคลื่อนที่ยอมรับได้) ไม่เกิน 300 mg

โดยการเลือกใช้ Standard Weight (ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน) แต่ละขนาดและแต่ละ Class ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม, ความละเอียดของงาน รวมถึงค่าความคลาดเคลื่อนของ Standard Weight แต่ Class ด้วย

ในสายงานผลิตต่างๆนั้นจำเป็นที่เราต้องใช้ตุ้มน้ำหนักที่มีค่ามาตรฐาน เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นการสอบเทียบเครื่องมือวัดจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

 

 

           ผู้เขียน Ple

 

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

ข้อควรระวังในการใช้งาน Crane Scale (เครื่องชั่งแขวน)

Crane Scale (เครื่องชั่งแบบแขวน) อีกหนึ่งเครื่องมือวัดที่ลูกค้านิยมนำมา สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) ก็คือ Crane Scale หรือ  เครื่องชั่งแบบแขวน ซึ่งเป็นเครื่องชั่งอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากมายในบ้านเรา เนื่องจากใช้งานง่าย เหมาะสมกับหน้างานที่ต้องการ และไม่มี Function ซับซ้อนเท่าไหร่

Crane Scale (เครื่องชั่งแบบแขวน) เป็นอีกหนึ่ง เครื่องมือวัด ที่พบเจอบ่อยๆตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รูปร่างหน้าตาก็จะคล้ายๆ กัน แตกต่างกันแค่รายละเอียดนิดหน่อย ตามแต่การออกแบบของผู้ผลิต (ตัวอย่างรูปที่ 1)

รูปที่ 1ทีนี้จะขอกล่าวถึงเรื่องของการแบ่งประเภทของการติดตั้งเครื่องชั่งแขวนที่พบเห็นกันตามโรงงานอุตสาหกรรม หรือ หน้างานต่างๆ

ประเภทที่ 1 ติดตั้งร่วมกับเครนภายในอาคารโรงงานอุตสาหกรรม

 

รูปที่ 2

ข้อดี

        1.Crane Scale สามารถเคลื่อนที่ไปตามคานของเครนที่ถูกออกแบบไว้อย่างมั่นคง 

        2.มีความเสถียรในการวัดค่าน้ำหนักได้ดี (มีการแกว่งน้อย) เพราะจับยึดอยู่กับคานของเครน

        3.ดูแลรักษาง่าย  สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องชั่งแบบแขวน ได้ เพราะติดตั้งและใช้งานภายในอาคาร ไม่โดนแดด หรือ ฝน

ข้อเสีย

        1.ค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องมีการวางคานระบบเครนภายในโครงสร้างของอาคารโรงงาน

        2.มีข้อจำกัดของการใช้งาน เพราะเครื่องชั่งจะเคลื่อนที่ได้ตามแนวคานที่ได้ออกแบบไว้เท่านั้น

 

ประเภทที่ 2 ติดตั้งร่วมกับเครนภายนอกอาคาร (ตัวอย่างรูปที่ 3)

รูปที่ 3

 

ข้อดี

        1.สะดวกในการติดตั้งและเคลื่อนย้าย

        2.ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เมื่อเทียบกับประเภทที่ 1

        3.การเคลื่อนที่ทำได้หลากหลาย สามารถปรับให้เหมาะกับหน้างานได้ง่าย

ข้อเสีย

        1.ความมั่นคงในการติดตั้งน้อยกว่าประเภทที่ 1 (อาจมีการแกว่งมากกว่า)

        2.อาจจะชำรุดได้ง่ายกว่า เนื่องจากต้องใช้ที่หน้างานภายนอกอาคาร อาจเจอแดดหรือฝน

 

ข้อควรระวังของเครื่องแบบชั่งแขวน

        1. การติดตั้งเครื่องชั่งแขวน ไม่ว่าจะเป็นประเภทที่ 1 (ติดตั้งร่วมกับเครนภายในอาคารโรงงานอุตสาหกรรม) หรือ ประเภทที่ 2 (ติดตั้งร่วมกับเครนภายนอกอาคาร) ควรคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก จุดสำคัญเลยคือพวกตะขอหรือชิ้นส่วน / อุปกรณ์จับยึดต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากพบความผิดปกติของชิ้นส่วน / อุปกรณ์เหล่านี้ ผู้ใช้งานต้องรีบแจ้งให้กับหัวหน้าหรือผู้รับผิดชอบรับทราบ เพื่อที่จะได้ให้ผู้ที่ชำนาญเรื่องนี้เข้ามาตรวจสอบต่อไป

        2. ไม่ควรแก้ไข / ดัดแปลงเครื่องชั่งแขวนด้วยตัวเอง ควรให้เจ้าหน้าที่หรือบริษัทที่ชำนาญการโดยตรง เข้ามาดำเนินการจะเหมาะสมและปลอดภัยกว่า

 

Crane Scale (เครื่องชั่งแขวน) การดูแลรักษา

หมั่นตรวจสอบเครื่องชั่งแขวนตามแผน ทั้งก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง

  • ตรวจดูที่สภาพภายนอก เช่น หน้าจอแสดงผลตัวเลขขึ้นครบ ชัดเจนหรือไม่
  • อุปกรณ์ / ชิ้นส่วนจับยึดต่างๆ ควรหมั่นดูแลไม่ให้เกิดสนิม อาจใช้น้ำมัน Sonax ฉีดตามจุดหมุนที่เป็นเหล็ก เพื่อขจัดและป้องกันสนิม
  • เข้ารับการแคลิเบรท (Calibrate) หรือสอบเทียบเครื่องมือวัดอย่างน้อยปีละ 1 ถึง 2 ครั้ง(ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน) เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเครื่องชั่งแขวน ของท่านจะยังคงอ่านค่าได้อย่างเที่ยงตรงตามเกณฑ์การยอมรับ(MPE)ที่กำหนด

            ซึ่งบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีบริการให้คำปรึกษาและบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ได้รับรองมาตรฐานISO/IEC17025 จาก 2 สถาบัน ทั้งประเทศไทย (สมอ.) และประเทศสหรัฐอเมริกา (ANAB) ด้วยเครื่องมือคุณภาพที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง และช่างสอบเทียบผู้ชำนาญงาน โดยให้บริการสองรูปแบบได้แก่ 

  • แบบรับกลับมาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการ (In-Lab)
  • แบบออกไปบริการสอบเทียบที่หน้างาน (On-Site)

ซึ่งทั้งสองแบบนี้ทางบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี หรือ CLC จะใช้ Standard Weight ที่ได้รับการสอบเทียบและปรับค่า เครื่องมือวัด แล้ว ยังมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ระดับมาตรฐานสากล เป็น Standard ในการสอบเทียบค่ากับ เครื่องชั่งแขวนให้คุณมั่นใจได้ว่าผลการ สอบเทียบเครื่องมือ ใน Certificate นั้น เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้งานได้จริง

หากสนใจการบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เครื่องชั่งแขวน สามารถติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของ แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทได้โดยตรง

หวังว่าทั้งหมดนี้คงจะพอมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับครั้งนี้ขอจบเรื่อง Crane Scale ไว้เพียงเท่านี้ก่อน ไว้พบกันครั้งต่อไป..ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ต้องรอติดตามครับ…ขอบคุณครับ

 

ผู้เขียน CHOK AM

 

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

—————

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

เครื่องมือวัด Hardness Durometer คืออะไร ใช้หน่วยอะไรในการวัด

ถ้าจะพูดถึงเครื่องมือวัดประเภท Hardness Durometer ก็เป็นอีกเครื่องมือวัดประเภทหนึ่ง ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมบ้านเรา  เป็นเครื่องมือวัดที่ใช้ทดสอบค่าความแข็งของวัสดุจำพวก ยาง,พลาสติก,หนัง,โฟม เป็นต้น มีทั้งแบบ Analog และ Digital และมีหลากหลายยี่ห้อ ตามแต่ความเหมาะสม หรือ กำลังทรัพย์ที่จะหามาใช้งานได้

และเพื่อความแม่นยำในการวัดจึงมีความจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด ( Calibrate : คาลิเบรท )อยู่เสมอ ซึ่งทางบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี ก็ได้มีบริการสอบเทียบ เครื่องมือวัด ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้วยครับ
[col span=”6″ span__sm=”12″]

[ux_image id=”148″ caption=”true”]

[/col]
[col span=”6″ span__sm=”12″]

[ux_image id=”149″ caption=”true”]

[/col]
[col span__sm=”12″]

Hardness Durometer แบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกหลายชนิดขึ้นกับประเภทของวัสดุที่ต้องการทดสอบค่าความแข็ง ไม่ว่าจะเป็น ยาง, พลาสติก, หนัง หรือ โฟม ดังรูปตัวอย่างที่ 3 จะแสดงลักษณะความแตกต่างของหัวกดแต่ละชนิดว่าเหมาะสมจะใช้งานกับวัสดุที่ต้องการวัดค่าความแข็งประเภทใด (#อ้างอิงจาก ASTM D2240)

[ux_image id=”150″]

มาถึงตรงนี้แล้ว คงน่าจะพอเลือกประเภทของหัวกดที่จะนำมาใช้งานกับวัสดุที่ต้องการทดสอบค่าความแข็งกันแล้วใช่มั้ยครับ อ่อ..ลืมบอกไปนิดนึง กรณีมี Durometer ไว้ใช้งานอยู่แล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนหัวกดตามชนิดของวัสดุ ไม่สามารถไปหาซื้อเฉพาะหัวกดแต่ละชนิดมาเปลี่ยนเองนะครับ แต่ถ้าจะเปลี่ยนชนิดของหัวกด คุณต้องซื้อ Durometer Shore นั้นๆทั้งตัวไปเลยเท่านั้น เพราะว่า Durometer แต่ละประเภท ใช่ว่าจะแตกต่างกันที่ลักษณะของรูปร่างหน้าตาและชนิดของหัวกดเท่านั้น แต่ระบบ System ภายใน ยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย

การดูแลรักษาเครื่องมือวัด Durometer

  • ก่อนและหลังใช้งานเครื่องมือวัดประเภท Durometer ทางผู้ใช้งานควรเช็ดทำความสะอาดบริเวณหัวกดให้สะอาดด้วยผ้าสะอาด
  • หลังจากการใช้งานทุกครั้ง ให้เก็บ Durometer ไว้ในกล่องโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันความเสียหาย โดยเฉพาะป้องกันการกระแทกของตัวหัวกด และตัวเครื่อง

ข้อควรระวังการใช้งาน เครื่องมือวัด Durometer

  • ไม่ควรใช้ Durometer กับวัสดุต่างประเภทกับชนิดของหัวกดแต่ละเครื่องของ Shore นั้นๆ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับหัวกดและระบบภายในตัวเครื่อง Durometer ได้
  • ห้ามดัดแปลงหรือแก้ไข หัวกดและระบบภายในของ Durometer ด้วยตนเอง ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญโดยตรงดำเนินการเท่านั้น

ทาง Calibration Laboratory Co.,Ltd. ของเรา ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้งาน Durometer โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

และที่จะลืมกันเสียไม่ได้คือ บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) ของเรา สามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัด Hardness Durometer พร้อมทั้งได้รับการรับรอง Accredit 17025 ถึงสองสถาบันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น สมอ. หรือ ANAB จากสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Type(Shore) ที่ได้รับรอง Accredit 17025 มีดังนี้ครับ

A, D, AO, AM, C, B, O, OO, DO, OOO, OOO-S ตามมาตรฐานอ้างอิง Based on ASTM D2240

ที่สำคัญทางแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี ยังมีบริการรับ-ส่ง เครื่องมือฟรี! สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาตามช่องทางต่างๆ ได้เลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเกร็ดความรู้เรื่อง Durometer พอสังเขป ที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นกับผู้ที่สนใจ หรือผู้ใช้งานมือใหม่จะได้นำไปต่อยอดกันต่อไป และหวังว่าจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ ผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

แล้วพบกันใหม่กับบทความ / เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับ เครื่องมือวัด ในครั้งต่อๆไปครับ

[/col]

[/row]
[row]

[/row]

CHOK_AM

สอบเทียบเครื่องมือ Mass&Balance

———-

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา