คลังเก็บป้ายกำกับ: Mass’s Article

ทำไมขาตั้งเครื่องชั่งถึงเป็นเรื่อง “เล็กน้อยแต่สำคัญมาก“

ขาตั้งเครื่องชั่ง 4 ขา มีความสำคัญต่อเครื่องชั่งเป็นอย่างมาก การปรับระดับขาเครื่องชั่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่มักถูกละเลย ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อความถูกต้องแม่นยำ และความน่าเชื่อถือของค่าที่เครื่องชั่งแสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชั่งอุตสาหกรรม เครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการ หรือแม้กระทั่งเครื่องชั่งในสำนักงานสำหรับการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ทั้งหมดล้วนต้องได้รับการปรับระดับให้ได้มาตรฐานก่อนใช้งานทุกครั้ง

ประโยชน์ของขาตั้งเครื่องชั่ง

ขาตั้งเครื่องชั่งมีหน้าที่ช่วยในด้านต่างๆ ดังนี้

  • รองรับน้ำหนักและกระจายน้ำหนักให้สมดุล
  • ทำให้เครื่องชั่งได้ระดับ การตั้งระดับทำได้ละเอียด เนื่องจากความจริงแล้วโต๊ะหน้างานไม่เคยราบ 100% การมีสกรูปรับ 4 จุดช่วยเก็บระดับบนพื้นที่เอียงหรือบุบเป็นบางส่วนทำให้เครื่องได้แนวระนาบจริงศูนย์การวัดจึงนิ่งขึ้น ตัวเลขคงที่ขึ้น
  • ลดแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผลต่อการอ่านค่า จากจุดสัมผัสสี่มุมรวมถึงยางรอง ช่วยดูดซับแรงสั่นจากโต๊ะหรือพื้นและยังทำงานร่วมกับฟิลเตอร์ของเครื่องให้การอ่านค่าเสถียร
  • มีเสถียรภาพในการทรงตัวและป้องกันการล้มสูงสุดเมื่อเทียบกับขาตั้งแบบ 3 ขา หรือแบบ 5–6 ขา เนื่องจากน้ำหนักจะถูกเฉลี่ยลงทั้งสี่มุม ทำให้เครื่องไม่โยก ลดโอกาศการพลิก และโหลดตกอยู่ตำแหน่งนอกฐานน้อยลง
  • ช่วยให้การปรับระดับง่ายขึ้น
  • ป้องกันการโยกแม้มีแรงเฉียงที่จะส่งผลต่อการชั่ง

ความสำคัญของขาตั้งของเครื่องชั่งมีดังนี้

  1. เพื่อความแม่นยำของผลการชั่ง

เครื่องชั่งทำงานโดยการรับแรงในแนวดิ่ง หากตัวเครื่องเอียงแม้เพียงเล็กน้อย น้ำหนักที่กดลงบนเซนเซอร์จะไม่ตรงตำแหน่ง ส่งผลให้ผลชั่งคลาดเคลื่อน ค่าที่เครื่องอ่านได้จึงไม่ใช่ค่าน้ำหนักจริง ดังนั้นการปรับให้เครื่องชั่งอยู่ในระดับที่ถูกต้องจึงช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้น

  1. เพื่อให้เซนเซอร์รับแรงทำงานถูกต้อง

ภายในเครื่องชั่งจะมี Load Cell ทำหน้าที่รับน้ำหนัก ซึ่งถูกออกแบบให้รับแรงแนวดิ่งโดยตรง การใช้เครื่องชั่งในสภาพที่ไม่สมดุลจะทำให้ Load Cell รับแรงเอียง เป็นเหตุให้ค่าชั่งผิดเพี้ยนเซนเซอร์สึกหรอเร็วอายุการใช้งานลดลงดังนั้นการปรับระดับจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องชั่งได้อีกด้วย

  1. เพื่อความเสถียรของตัวเลขบนหน้าจอ

เครื่องชั่งที่เอียงมักมีปัญหาตัวเลขไม่นิ่งหรือกระพริบ เนื่องจากจุดศูนย์ (Zero Point) ไม่เสถียร ทำให้การอ่านค่าเป็นเรื่องยาก การปรับระดับก่อนใช้งานช่วยให้ค่าชั่งนิ่งขึ้น ลดความคลาดเคลื่อน และเพิ่มคุณภาพของผลการชั่ง

  1. เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการสอบเทียบ

เครื่องชั่งที่ไม่ได้อยู่ในระดับจะไม่สามารถสอบเทียบได้อย่างถูกต้อง และอาจไม่ผ่านมาตรฐานรับรอง การปรับระดับจึงเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้สอบเทียบจะตรวจสอบก่อนเสมอ หากระดับไม่ตรง ผลการสอบเทียบทั้งหมดจะไม่เป็นที่ยอมรับ

  1. เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

เครื่องชั่งที่ไม่สมดุลอาจทำให้สิ่งของบนถาดกลิ้งหรือหล่นลงมา โดยเฉพาะเมื่อเป็นชิ้นงานหนักหรือมีมูลค่าสูง การปรับระดับจึงช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

  1. เพื่อความสม่ำเสมอของผลชั่งในระยะยาว

เมื่อเครื่องชั่งได้รับการตั้งระดับอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ คุณภาพของผลชั่งจะเสถียรและเชื่อถือได้มากขึ้น ลดความจำเป็นในการสอบเทียบใหม่บ่อยครั้ง ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา

 

วิธีการปรับระดับขาตั้งเครื่อง

  1. วางเครื่องชั่งบนโต๊ะที่แข็งแรงและไม่ยวบ โดยวางให้ตรงกับจุดที่ต้องการใช้งานจริง
  2. ใช้มือลองกดสลับทั้งสี่มุมเบาๆ เพื่อดูว่าเครื่องโยกหรือไม่ ถ้าโยกแปลว่ายังมีมุมใดมุมหนึ่งไม่แตะพื้น
  3. ให้มองฟองน้ำระดับบนตัวเครื่อง แล้วหมุนสกรูที่อยู่ด้านสูงให้ค่อยๆ ต่ำลง ทำทีละน้อยและทำเป็นคู่แบบไขว้เพื่อไม่ให้เครื่องบิดไปด้านใดด้านหนึ่ง
  4. เมื่อฟองน้ำเริ่มขยับเข้ากึ่งกลาง ให้สลับไปปรับอีก 2 มุมที่เหลือ ทำวนซ้ำจนฟองน้ำอยู่ตรงกลางจริงๆ
  5. ลองกดทั้งสี่มุมอีกครั้ง ต้องไม่มีอาการลอยหรือโยกที่มุมใดมุมหนึ่ง
  6. เมื่อมั่นใจว่าเสถียรแล้วจึงเปิดเครื่อง รอให้เครื่องอุ่นตัวจนคงที่ ตั้งศูนย์
  7. ทดสอบด้วยน้ำหนักทดสอบ วางกลางจานหนึ่งครั้ง แล้ววางใกล้ขอบทั้งสี่ทิศ หากตัวเลขต่างกันมากให้กลับไปปรับระดับซ้ำจนกว่าจะนิ่งใกล้เคียงกัน

การทำตามขั้นตอนดังกล่าวจะส่งผลให้แรงที่กดลงสู่โหลดเซลล์เป็นแนวดิ่งตามที่ควรเป็น ไม่เกิดกรณีเครื่องชั่งเอียงที่ส่งผลให้เกิดค่าความคลาดเคลื่อน ตัวเลขเครื่องชั่งไม่กระพริบง่าย ตัวเลขค่าศูนย์ไม่เดินระหว่างงาน สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องได้และได้ค่าที่มั่นใจมากขึ้น และยังทำให้โหลดเซลล์มีอายุใช้งานยาวขึ้นด้วย สุดท้ายนี้การปรับระดับขาตั้งเครื่องชั่งเป็นขั้นตอนที่ง่าย แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความแม่นยำ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของเครื่องชั่งทุกประเภท การตรวจสอบฟองน้ำระดับ (Bubble Level) และปรับขาตั้งให้อยู่ในแนวระนาบทุกครั้งก่อนใช้งาน จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรปฏิบัติเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลการชั่งที่เชื่อถือได้สูงสุด

 

 

Ref.

NIST Handbook 44

American Laboratory

Vibra

 

BDS Team

 

 

 

CLC ตัวแทนจำหน่าย เครื่องชั่ง Vibra อย่างเป็นทางการ

ดูสินค้า Vibra

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด  ซื้อเครื่องมือวัด

 

เลือกวิธีสอบเทียบยังไงดีที่เหมาะกับไซโล (SILO) คุณ

ไซโล (SILO) คือ ถังขนาดใหญ่ที่ใช้บรรจุวัสดุหรืออาหาร เพื่อเก็บรักษาไว้ในปริมาณที่มาก โดยวัสดุที่บรรจุส่วนใหญ่จะเป็นพวกวัตถุดิบอาหาร เช่น ข้าว เม็ดพืช อาหารสัตว์ น้ำนม น้ำผลไม้ เป็นต้นต่างจาก “ถังเก็บทั่วไป” คือไซโลออกแบบมาให้ ลำเลียงออกได้โดยที่สามารถคุมการปล่อยวัตถุออกให้ได้ตามที่ตั้งไว้ทั้งในส่วนของ ปริมาณ อัตรา รวมไปถึง เวลาตามที่ต้องการ  มักมี ระบบวัดและควบคุมสภาพแวดล้อม เพื่อรักษาคุณภาพวัตถุดิบด้วย

ส่วนใหญ่เรามักพบเครื่องมือไซโลในอุตสาหกรรมอาหาร เพราะนอกจากจะเก็บรักษาวัตถุดิบหรืออาหารได้จำนวนมากแล้ว ที่เก็บพวกนี้จะมีการควบคุมในเรื่องของอุณหภูมิ (Temperature)และความชื้น (Humidity) ด้วย เพื่อให้รักษาสภาพไม่ให้ของเสีย ส่วนใหญ่เครื่องมือไซโลนี้จะมีระบบระบายอากาศ และควบคุมอุณหภูมิภายใน เพื่อป้องกันอาหารเหล่านี้เสีย

เครื่องมือไซโลมีชื่อเรียกหลายอย่าง บางผู้ใช้งานเรียก Tank load cell บางผู้ใช้งานเรียก Balance, Load cell เป็นต้น

ลักษณะของเครื่องมือ ไซโล (SILO)

มักจะเป็นถังขนาดใหญ่ทรงกลม บางทีมีลักษณะทรงเหลี่ยม ปลายทางออกเป็นรูปทรงกรวยให้เป็นทางออกของวัสดุที่ทางเราใส่เข้าไป ถังไซโลจะบรรจุน้ำหนักได้มากจนถึงหลายพันตัน

รูปแบบของ ไซโล

  1. ไซโลทรงกรวย มีลักษณะเป็นถังขนาดใหญ่ ตรงปลายปากด้านล่างสุดเป็นรูปทรงกรวยอยู่สูงจากระดับพื้นดิน เพื่อใช้ในการลำเลียงวัตถุดิบ,อาหารออกมา ตามปริมาณที่เราต้องการกำหนด แบบนี้คือแบบที่เราพบกันมากในภาคอุตสาหกรรมอาหาร และเป็นแบบที่ทาง CLC สอบเทียบทั่วไปเป็นประจำ
  2. ไซโลแบบก้นเรียบ เป็นลักษณะที่เป็นถังคล้ายแทงค์น้ำตามบ้านแต่ขนาดใหญ่กว่าค่อนข้างมาก ใส่วัตถุดิบเข้าจากทางด้านบนเช่นเดียวกับแบบทรงกรวย และลำเลียงออกจากทางด้านล่าง โดยต้องอาศัยใบพัดกวาดออกมาจากทางรูทางออก

ไซโลในอุตสาหกรรมปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่ ถังเก็บวัตถุดิบ อีกต่อไป แต่ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เป็นระบบชั่งน้ำหนักอัตโนมัติด้วย เนื่องจากภายในจะติดตั้งโหลดเซลล์ (Load Cell) ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์วัดแรงกดหรือน้ำหนักที่รองรับถังไว้ เมื่อมีการเติมหรือปล่อยวัตถุดิบ โหลดเซลล์จะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังตัวควบคุม (Indicator) เพื่อแปลงเป็นค่ามวลหรือปริมาณวัตถุที่แม่นยำ เครื่องมือประเภทนี้ช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถคุมปริมาณวัตถุดิบเข้า–ออกได้แบบทันทีและลดความคลาดเคลื่อนจากการชั่งด้วยมือ

การใช้งาน SILO เบื้องต้น

  1. กำหนดปริมาณที่ต้องการจะนำอาหารหรือวัตถุดิบเข้า-ออก เช่น 500 kg
  2. กด Set ที่เครื่องแล้วฟีดอาหารหรือวัตถุดิบ
  3. เครื่องมือก็จะทำการฟีดอาหารหรือวัตถุดิบตามที่เรากำหนด

 

สิ่งที่มีผลต่อความแม่นยำของการชั่งในไซโล

การวัดน้ำหนักวัตถุดิบในไซโลให้แม่นยำไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกหลายอย่าง เช่น

  • ตำแหน่งติดตั้งโหลดเซลล์ – ต้องกระจายน้ำหนักเท่ากันทุกจุด หากติดตั้งไม่สมดุลจะทำให้ค่าที่อ่านคลาดเคลื่อน

  • แรงลอยตัวจากลม – หากไซโลอยู่ในพื้นที่ที่มีแรงลมแรง จะเกิดแรงดันที่ส่งผลต่อโหลดเซลล์

  • อุณหภูมิและความร้อน – ความร้อนสูงเกินไปอาจทำให้เซ็นเซอร์ขยายตัวและส่งสัญญาณผิดพลาด

  • การสั่นสะเทือนจากเครื่องจักร – ควรแยกฐานไซโลออกจากโครงสร้างเครื่องจักรเพื่อลดผลกระทบ

การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสอบเทียบเครื่องมือวัด (Calibration) จะช่วยให้ระบบชั่งในไซโลคงความแม่นยำได้ยาวนาน

ทำไมเราถึงต้องสอบเทียบเครื่องมือไซโล

          เพื่อที่ทางเราจะได้รู้ว่าวัตถุดิบหรืออาหารที่เรานำเข้าไปนั้น และปล่อยออกมานั้นมีน้ำหนักตามที่เราชั่งตวงหรือกำหนดไว้ในการวัดปริมาณวัตถุดิบหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อทั้งต้นทุนการผลิตและคุณภาพสินค้า เช่น นำอาหารเข้าไปใน ไซโล จำนวน 500 kg นั้น มวลน้ำหนักภายในที่อยู่ในนั้นหนัก 500 kg จริงหรือไม่ หรือน้ำหนักที่ปล่อยเข้า-ออกไปนั้นขาดหรือเกินไปจากที่เรากำหนดหรือไม่ ถ้าน้ำหนักเกินไปก็อาจทำให้สูญเสียวัตถุดิบโดยไม่รู้ตัวทำให้เราขาดทุนได้ หรือถ้าหากเราฟีดในปริมาณที่น้อยกว่าที่เราตั้งหรือกำหนดไว้ก็อาจจะทำให้ลูกค้าร้องเรียนเราได้ว่าได้ปริมาณที่น้อยกว่าที่กำหนด เห็นเช่นนี้การสอบเทียบจึงไม่ใช่แค่ขั้นตอนทางเทคนิค แต่เป็นการสร้างความถูกต้อง ป้องกันข้อผิดพลาด ลดการสูญเสียต้นทุน ป้องกันด้านความน่าเชื่อถือ จึงทำให้จำเป็นต้องสอบเทียบเครื่องมือไซโล

 

CLC สามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัด  ได้ 2 วิธีการ

  1. Direct Measurement with Mass Flow Calibrator
  2. Comparison with Standard Weight Set

ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB

ทั้ง 2 วิธีการ ทีมงาน CLC จำเป็นที่ต้องไปดูหน้างานเนื่องจากการดูหน้างานก่อนสอบเทียบสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการวัดผิดและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับ พร้อมทั้งวิศวกรจะสามารถแนะนำลูกค้าเบื้องต้น ว่าเครื่องมือไซโลมีพื้นที่วาง Standard Weight เพียงพอหรือไม่ ไซโลอยู่สูงจากพื้นดินเท่าไหร่ การลำเลียง Weight ทำได้ด้วยวิธีการใด เป็นต้น เพื่อเลือกแนะนำวิธีการที่ตรงกับการใช้งานและตรงกับความต้องการลูกค้าให้มากที่สุด

ทั้งนี้ทาง CLC (บริษัท สอบเทียบเครื่องมือวัด Calibration Laboratory) มีบริการดูหน้างานฟรี!!! โดยเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญ หากทางลูกค้าสนใจต้องการให้สอบเทียบเครื่องมือ SILO และประสงค์ให้ดูหน้างานก่อน สามารถติดต่อเราได้เลยค่ะ

 

 

Ref.

Minebea Intec.

Kobastar

Standardscale

ISO Standard

NIST

MKS

 

บริการสอบเทียบด้านมวล

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

ทำไม Tension Gauge หรือ Spring Balance ต้องสอบเทียบ แม้แค่ชั่งของเบาๆ?

Tension Gauge หรือ Spring Balance

Tension Gauge หรือ Spring Balance เป็นเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน สามารถชั่งน้ำหนักของวัตถุโดยใช้หลักการยืดและหดของสปริง ดูว่าน้ำหนักของวัตถุดึงให้สปริงยืดได้เท่าไร โดยน้ำหนักมากก็ทำให้สปริงยืดมาก บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) จึงอยากแนะนำเครื่องมือที่เรามีบริการแคลิเบรท (Calibrate) หรือ สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่ในตอนนี้

หลักการทำงานของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน

Tension Gauge หรือ Spring Balance ที่จะวัดปริมาณของแรงที่กระทำต่อวัตถุ โดยที่ปลายข้างหนึ่งของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนจะถูกดึงให้ยืดขยายออกเมื่อมีน้ำหนักมาถ่วงตามแนวแรงโน้มถ่วงของโลก อาศัยกฎของฮุคที่ว่า “การยืดขยายของวัตถุเป็นสัดส่วนโดยตรงกับแรงที่ยืดขยายมันออก” ที่ตำแหน่งเดียวกันของโลก แรงโน้มถ่วงของโลกหรือแรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวัตถุต่างๆจะมีค่าเท่ากันเสมอ แต่วัตถุต่างๆ บนโลกมีมวลต่างกัน แรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อมวลของวัตถุเหล่านั้นจึงมีค่าแตกต่างกัน วัตถุจึงมีน้ำหนักไม่เท่ากัน  เช่น  ส้มโอมีมวลขนาดใหญ่แรงดึงดูดจึงมากกว่ามะนาวซึ่งมีมวลขนาดเล็กกว่า ทำให้ส้มโอมีน้ำหนักมากกว่ามะนาว

ส่วนประกอบของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน

วิธีการใช้และการอ่านค่าของแรงบนเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนที่ถูกต้อง

ให้จับที่หูจับด้านบนของเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนในการอ่านค่าของแรงจะทำได้เมื่อหมุดหยุดนิ่ง แล้วมองตรงรอยบากกึ่งกลางของหมุดที่ระดับสายตาว่าตรงกับขีดบอกค่าที่เท่าใด การอ่านค่าของน้ำหนักอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ถ้าระดับสายตาของผู้สังเกตอยู่ต่ำหรือสูงกว่าบริเวณหมุด นอกจากนี้ถ้าเครื่องชั่งสปริงบางเครื่องมีค่าเริ่มต้นไม่ตรงกับค่าศูนย์ สามารถปรับระดับให้ตรงที่ขีดศูนย์ได้ โดยการหมุนน็อตที่อยู่ด้านบนของกระบอกเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน เพื่อปรับให้หมุดตรงที่ขีดศูนย์ การอ่านค่าน้ำหนักของวัตถุหรือแรงที่โลกดึงดูดวัตถุ เมื่อแขวนวัตถุไว้กับเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนจะต้องสังเกตที่ขีดสเกลหน่วยนิวตันบนเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน ซึ่งแบ่งค่าไว้ตั้งแต่ 1-10 นิวตัน (N) นอกจากขีดสเกลจะแสดงค่าของแรงแล้ว เครื่องชั่งสปริงยังมีขีดสเกลหน่วยกรัม (g) หรือ หน่วยกิโลกรัม (kg) ที่แสดงค่าของมวล ซึ่งแบ่งค่าไว้ตั้งแต่ 0 – 1,000 กรัม (g) หรือ 1 กิโลกรัม (kg) อีกด้วย

เนื่องจากน้ำหนักและมวลมีความสัมพันธ์กัน จึงสามารถเทียบเคียงระหว่างน้ำหนักและมวลของวัตถุได้เครื่องชั่งสปริงแบบแขวนจะยืดออกเมื่อมีแรงมาดึง เราสามารถอ่านค่าของแรงที่ใช้ดึงได้จากสเกล ในกรณีที่น้ำหนักของวัตถุมาแขวนไว้กับเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน ค่าของแรงที่อ่านได้จากเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนคือแรงที่วัตถุดึงเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของวัตถุ

หน่วยการวัดของ เครื่องชั่งสปริงแบบแขวน

Tension Gauge ใช้หน่วย กิโลกรัม(kg), กรัม(g), นิวตัน (N) และขีด เป็นหน่วยที่ใช้บอกน้ำหนักในการชั่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์กันดังนี้

  • น้ำหนัก 1 กิโลกรัม (kg) เท่ากับ 1,000 กรัม (g) หรือ 9.81 นิวตัน (N)
  •  น้ำหนัก 100 กรัม (g) เท่ากับ 1 ขีด
  • น้ำหนัก 10 ขีด  เท่ากับ 1 กิโลกรัม (kg)

ประเภทของ Tension Gauge หรือ Spring Balance ที่พบในอุตสาหกรรม

แบบ Scale

จะมีขีดบอกน้ำหนัก โดยขีดสเกลจะบอกน้ำหนักสิ่งของที่ห้อยอยู่ด้านล่างของเครื่องมือ โดยขีดสเกลจะแบ่งเท่าๆกัน เพื่อแบ่งช่วงน้ำหนักที่ต้องการอ่านค่า เพื่อให้อ่านง่าย คล้ายกับการที่เราอ่านสเกลบนไม้บรรทัด

แบบดิจิตอล

จะมีหลักการทำงานคล้ายกับแบบสเกล แต่จะอ่านค่าและมีหน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอล ตัวเลขของค่าน้ำหนักที่อ่านได้นั้นจะแสดงที่หน้าจอเลย ซึ่งแบบนี้ง่ายต่อการใช้งานและแม่นยำกว่า เพราะตัวเลขจะขึ้นชัดเจนและละเอียด ไม่ต้องกังวลว่าสายตาของคนที่อยู่ในระดับที่ไม่เท่ากัน อาจทำให้ค่าไม่ตรงกันเหมือนแบบสเกล แต่ราคาของแบบนี้จะสูงกว่าแบบสเกล และอาจจะต้องซื้อถ่านมาเปลี่ยน

ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรเลือกซื้อ เลือกใช้ Tension Gauge หรือ Spring Balance ที่เหมาะกับการใช้งานของตนเอง เพราะบางผู้ใช้งานอาจใช้กับน้ำ ซึ่งถ้าใช้แบบดิจิตอลก็อาจจะช็อตได้ แม้ว่าจะอ่านค่าได้ละเอียดกว่าก็ตาม

ทำไมถึงต้องสอบเทียบ TENSION GAUGE หรือ SPRING BALANCE

เราจำเป็นที่จะต้องสอบเทียบเครื่องมือวัดที่มีผลต่อชิ้นงานหรือการทำงานของเราทั้งสิ้น เพื่อเช็คว่าเครื่องมือวัดเหล่านี้ยังอยู่ในมาตรฐาน มีใบรับรองผลรับรองค่าของเครื่อมือนั้นๆTension Gauge หรือ Spring Balance เองก็เป็นเครื่องมือที่ต้องสอบเทียบ ถึงจะถูกใช้งานเพียงแค่ชั่งของเบาๆ เช่น พลาสติก ชิ้นส่วนขนาดเล็ก หรือวัตถุทั่วไปในชีวิตประจำวัน การใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือผ่านการเคลื่อนย้าย สะเทือน หรือแม้แต่การเปลี่ยนอุณหภูมิและความชื้นในสภาพแวดล้อม การสอบเทียบจะช่วยยืนยันว่าเครื่องมือยังคงให้ค่าที่ถูกต้อง แม่นยำ และอยู่ในขอบเขตความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ (MPE) โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลเพื่อการควบคุมคุณภาพหรือการออกใบรับรอง เช่น การผลิต การทดลอง หรือการส่งออกสินค้า ผู้ใช้งานจึงไม่ควรมองข้ามการสอบเทียบ แม้จะใช้งานกับน้ำหนักที่ดูเหมือนไม่มีผลกระทบในสายตา แต่ในมาตรฐานอุตสาหกรรม ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างมากเพื่อเช็คว่าสเกล รวมทั้งตัวเลขที่แสดงที่หน้าจอนั้น ยังแสดงค่าที่ถูกต้องอยู่ ไม่เกินเกณฑ์การยอมรับที่ชิ้นงานที่วัดได้ (MPE) ทางบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด  (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) สามารถสอบเทียบเครื่องมือวัด Tension Gauge หรือ Spring Balance และได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ของ ANSI National Accreditation Board ANAB จากประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม

การใช้งานที่เป็นมากกว่า “เครื่องชั่งโดยทั่วไป” (เครื่องชั่งแบบธรรมดา)

Tension Gauge หรือ Spring Balance ไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ใช้ชั่งน้ำหนักแบบแขวนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายมากกว่าที่ผู้ใช้งานหลายคนคิด เช่น ใช้ในการวัดแรงตึงของสายพาน วัดแรงดึงในกระบวนการผลิต หรือใช้ในงานตรวจสอบแรงที่กระทำกับวัตถุในแนวดิ่ง ซึ่งล้วนเป็นเรื่องสำคัญในการควบคุมคุณภาพของสินค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำในการใช้แรงดึงหรือแรงกด เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก บรรจุภัณฑ์ หรือแม้แต่ในงานวิจัยที่ต้องการตรวจสอบแรงที่กระทำต่อวัสดุประเภทต่างๆ ดังนั้น หากผู้ใช้งานเข้าใจหลักการและขอบเขตของการใช้งานเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนได้ดี ก็จะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ในหลายลักษณะงาน เช่น การวัดแรงดึงของฟิล์มพลาสติกที่มีการใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การตรวจสอบแรงดึงของเส้นด้ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอ การควบคุมแรงตึงของสายพานในสายงานการผลิต หรือแม้แต่การทดลองทางฟิสิกส์ในห้องปฏิบัติการ ไม่จำกัดแค่การชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียว

 

ข้อควรปฏิบัติและวิธีการบำรุงรักษาเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน

  1. การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม ควรจัดวางเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนในบริเวณที่แยกจากเครื่องมืออื่นๆ บนโต๊ะ โดยเลือกพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีการเดินพลุกพล่านหรือมีกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดการสั่นไหว
  2. หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรวางเครื่องชั่งให้ชิดกับหน้าต่างหรือบริเวณที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนหรือความร้อนจากแสงแดดโดยตรง เนื่องจากอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องมือ
  3. การอ่านค่าที่แม่นยำ เมื่ออ่านค่าการวัด ควรจัดระดับสายตาให้อยู่ในแนวระนาบเดียวกับสเกลที่หมุดลากลงมา เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากมุมมองที่ไม่ถูกต้อง
  4. การถือและแขวนที่เหมาะสม ควรถือหรือแขวนเครื่องชั่งในแนวดิ่งที่ตั้งฉากกับพื้นโลก เพื่อให้ได้ค่าการวัดที่ตรงและแม่นยำ หลีกเลี่ยงการเอียงหรือการจับในมุมที่ไม่เหมาะสม
  5. การควบคุมสภาพแวดล้อม จัดวาง Tension Gauge ไว้ในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ โดยอุณหภูมิควรมีการเปลี่ยนแปลงไม่เกิน ± 2 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาความแม่นยำในการวัด
  6. หลีกเลี่ยงการชั่งน้ำหนักของสิ่งของที่หนักเกินกว่า Max Range ที่กำหนดไว้สำหรับเครื่องชั่งสปริงแบบแขวน เพื่อป้องกันการเสียหายของสปริงและรักษาความแม่นยำในการวัด
  7. การทำความสะอาดหลังใช้งาน เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องชั่งสปริงแบบแขวนทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสปริงของเครื่องชั่ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการสึกหรอ

 

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด ISO/IEC 17025จากบริษัท Calibration Laboratory ได้การรับรองจาก สมอ.และ ANAB ท่านใดที่มีข้อสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อเข้ามาได้เลยครับ

 

ผู้เขียน MKS

 

 

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา
พูดคุยกับเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

 

“Deadweight Tester” เคล็ดลับที่ช่วยให้การใช้เกจแรงดันได้ไม่มีพลาด!

Deadweight Tester (หรือ เครื่องสอบเทียบแรงดันด้วยน้ำหนักมาตรฐาน, เครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนัก) เป็น เครื่องมือวัดที่ใช้สอบเทียบ Pressure Gauge, Test Gauge, เกจวัดแรงดันต่างๆ ที่ให้ค่าความแม่นยำที่สูงมาก ค่าความละเอียดที่วัดได้ก็ละเอียดมาก โดยส่วนมากกลุ่มที่ใช้เครื่องมือดังกล่าวจะเป็นพวกห้องปฎิบัติการสอบเทียบ, แท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้เกจวัดแรงดันจำนวนมาก เพื่อความแม่นยำจึงจำเป็นที่ต้องวัดก่อนการใช้งานเครื่องมือ เพื่อตรวจสอบดูว่าค่าแรงดันที่ตัวเกจนั้นยังให้ค่าที่ตรงอยู่ โดยอาศัยหลักการน้ำหนักต่อพื้นที่ และจะมีสูตรสมการเพื่อดูว่าแรงดันที่เราให้ค่านั้นตรงกับที่แสดงที่หน้าจอแสดงผลหรือไม่

ประเภทของเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนัก

  1. Hydraulic 
  2. Pneumatic 

ซึ่งทั้ง 2 ประเภทจะต่างตรงสื่อกลางที่ใช้ โดยเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนัก Hydraulic จะใช้น้ำมันเป็นสื่อกลางของระบบ ขีดความสามารถที่วัดได้ก็จะสูง Range ที่ทำได้ก็จะสูง เพราะแรงดันที่เป็น Media น้ำมัน (Oil) จะสูงกว่าแรงดันที่เป็น Media อากาศ ส่วนเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนัก Pneumatic จะใช้ Media แรงดันเป็นอากาศ (Air) เป็นสื่อกลางของระบบ Range ที่วัดได้ก็จะต่ำกว่าการใช้น้ำมัน (Oil) เพราะแรงดันอากาศจะไม่สูงมากและมีแรงอัดน้อยกว่าน้ำมัน

เครื่องมือทั้ง 2 ประเภทใช้สอบเทียบเกจวัดเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงสื่อกลาง (Media) การเลือกใช้งานเราจึงจำเป็นที่ต้องดูเกจที่เรานำมาวัดว่าเป็นรูปแบบไหน เป็น Pressure gauge แบบ Hydraulic หรือ แบบ Pneumatic เพราะห้องปฎิบัติการสอบเทียบจะได้ใช้ Standard และ Media ที่เข้ากับ Pressure Gauge และป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งตกค้างจากการสอบเทียบ โดยเราจะไม่นำ Pressure Gauge ที่เป็นแบบ Pneumatic ไปสอบเทียบที่ Hydraulic Deadweight Tester เป็นอันขาด

การสอบเทียบเครื่องมือวัด

เราจำเป็นที่ต้องส่งเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนักสอบเทียบเพื่อเช็คว่าเครื่องมือที่เรานำมาเป็น Standard ที่ใช้วัดเกจวัดนั้นยังตรงและให้ค่าที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งกับผู้ใช้งานและลูกค้าที่ส่งเกจวัดมาสอบเทียบ

ในการสอบเทียบเอง CLC สามารถสอบเทียบเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนักและได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ทั้งของในประเทศไทยอย่าง TISI และต่างประเทศอย่าง ANAB (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีน้อยห้องปฎิบัติการจะได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 ในเครื่องมือดังกล่าว

การสอบเทียบด้วยเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนักมีสองประเภทหลักคือ Hydraulic และ Pneumatic ซึ่งใช้สื่อกลางแรงดันต่างกัน จึงเหมาะกับการสอบเทียบเกจวัดชนิดต่างๆ

Hydraulic Deadweight Tester ใช้น้ำมันเป็นสื่อกลาง ทำให้สามารถสร้างแรงดันได้สูง เช่น สูงถึง 68,647 kPa (ประมาณ 10,000 psi) ตามขอบเขตการรับรองของห้องสอบเทียบ TISI 0183 เอกสารระบุว่า “Pressure medium : oil, water … 0 kPa – 68 647 kPa”
Pneumatic Deadweight Tester ใช้อากาศเป็นสื่อกลาง จึงเหมาะกับแรงดันต่ำถึงปานกลาง ตัวอย่างเช่น ขอบเขตการสอบเทียบอากาศของห้อง TISI 0183 ระบุ “Pneumatic type Pressure medium : air … 0 kPa to 4 000 kPa … > 4 000 kPa to 7 000 kPa …”

ความสำคัญของการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025

การสอบเทียบทั้ง Pressure Gauge และเครื่องสอบเทียบแรงดันแบบตุ้มน้ำหนักต้องดำเนินโดยห้องแล็บที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง และลดความคลาดเคลื่อนของผลลัพธ์ที่อาจส่งผลถึงกระบวนการผลิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของระบบอุตสาหกรรม เอกสารจาก TISI ระบุว่าการรับรองนี้รวมถึง “ค่าความไม่แน่นอน (uncertainty) ที่ระดับความเชื่อมั่นประมาณ 95 %” ซึ่งตรงตามเอกสารประกอบขอบข่ายการรับรอง (Scope of Accreditation)

วิธีการตรวจเช็คเครื่องมือก่อนการสอบเทียบ

  1. ตรวจเช็คเครื่องมือว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะกับการสอบเทียบหรือไม่
  2. ตรวจเช็คอุปกรณ์ที่ส่งมาว่าส่งมาสอบเทียบครบหรือไม่ Piston มีมาหรือไม่ จำนวนก้อน Deadweight ที่มา มากี่ก้อน พร้อมระบุ และแจ้งกลับทางลูกค้า
  3. ตรวจเช็คเครื่องมือว่า แตก หัก เสียหาย แกนหมุนอยู่ในสภาพปกติ พร้อมใช้งานหรือไม่ แกน Piston หมุนได้ปกติหรือไม่ น้ำมันที่อยู่ในเครื่องรั่ว หรือมีจำนวนเพียงพอในการสอบเทียบหรือไม่ เราต้องเปลี่ยนน้ำมันให้ลูกค้าหากน้ำมันลูกค้าเก่ามาก และไม่เพียงพอต่อการสอบเทียบ
  4. ทำความสะอาดเครื่องมือด้วยผ้าสะอาดก่อนทำการสอบเทียบ

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือ

  1. ควรเก็บเครื่องมือไว้ในที่ที่ควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐาน
  2. ควรทำความสะอาดหลังการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
  3. ควรตรวจดูแกน Piston ว่าหมุนได้ปกติหรือฝืด ควรใส่น้ำมันในปริมาณที่เหมาะสม ตรวจดูว่ามีฝุ่นเกาะหนาหรือไม่ เพราะอาจทำให้ค่าทีวัดได้ผิดเพี้ยนไป
  4. ทำความสะอาดก้อน Deadweight ทั้งก่อนใช้งานและหลังการใช้งาน ควรเก็บในกล่องบรรจุที่ซื้อมาในตอนแรก เพื่อป้องกันการบิ่น เสียหายและสูญหายได้
  5. ไม่ควรให้เครื่องมือโดนน้ำ เพราะจะทำให้เกิดสนิม

 

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดที่ผ่านการรับรอง โดยห้องแล็บที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 จาก สมอ. และ ANAB สามารถติดต่อเราได้ครับ

ผู้เขียน JubJib VIP

 

Ref.

TISI
ANAB

 

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา
บริการสอบเทียบ Deadweight Tester

สอบเทียบต้องรู้! Weight Class ของ ตุ้มน้ำหนัก แบบไหนเหมาะกับคุณ

เครื่องชั่ง ยี่ห้อ Vibra เป็นเครื่องชั่งคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ที่มีความแม่นยำและความเสถียรสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยี “Tuning Fork” ที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้ใช้งานควรเลือกใช้ ตุ้มน้ำหนัก Class อะไร ที่เหมาะสมตามระดับความละเอียดของแต่ละรุ่นและควรการ สอบเทียบเครื่องชั่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การใช้งานมีความถูกต้องตามมาตรฐาน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

ทำความเข้าใจเรื่องของ Class ของ Standard Weight

ระดับของ ตุ้มน้ำหนัก มาตรฐานที่ใช้สอบเทียบ

เช่น

  • E1, E2  – สำหรับเครื่องชั่งความละเอียดสูงมาก เช่น 4–5 ตำแหน่งทศนิยม
  • F1, F2  – สำหรับเครื่องชั่งทั่วไปที่มีควมละเอียดระดับ 2–3 ตำแหน่ง
  • M1, M2 – ใช้กับเครื่องชั่งที่มีความละเอียดต่ำ เช่น 1 ตำแหน่ง

ตัวอย่างการเลือก Class สำหรับสอบเทียบ Standard Weight แต่ละรุ่นของ Vibra

Vibra AJ Series

  • ความละเอียด: 0.001 g (1 mg)
  • การใช้งาน: ร้านทองหรืออัญมณี,  สถานศึกษา, อุตสาหกรรมผลิตยาและเวชภัณฑ์, ห้องปฏิบัติการ
  • แนะนำใช้ตุ้มน้ำหนัก Class F1 หรือ E2

ตัวอย่าง 

ถ้าเครื่อง AJ-620E มีพิกัด 620 g ใช้ตุ้มน้ำหนัก 500 g และ 100 g Class F1

Vibra SJ Series

  • ความละเอียด: 0.01 – 0.1 g
  • การใช้งาน: งานอุตสาหกรรมทั่วไป
  • แนะนำใช้ตุ้ม Class F2 หรือ F1

ตัวอย่าง

SJ – 12KCEN พิกัด 12 kg ใช้ตุ้ม 10 kg, 2 kg Class F2 ก็เพียงพอ

Vibra AB Series

  • ความละเอียด: 0.01 – 0.1 g
  • การใช้งาน: งานทั่วไป และไลน์การผลิต
  • แนะนำใช้ตุ้มน้ำหนัก Class F1 หรือ M1 (ถ้าใช้ไลน์การผลิตที่ไม่เน้นละเอียด)

ตัวอย่าง

AB – 620 ใช้ตุ้มน้ำหนัก 500g, 100g Class F1

Vibra HT Series

 

  • ความละเอียด: 0.0001 g (0.1 mg)
  • การใช้งาน: ห้องปฏิบัติการทั่วไปใช้ชั่งตัวอย่างสารเคมี, สารละลาย, สารตั้งต้น , อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ , อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง , งานชั่งในอุตสาหกรรมอัญมณีและทองคำ
  • แนะนำใช้ตุ้มน้ำหนัก Class E2

ตัวอย่าง 

HT-224CEN มีพิกัด 220 g ใช้ตุ้มหนัก 20 g, 100 g, 100 g Class E2

สรุป

รุ่นเครื่องชั่ง ความละเอียด ตุ้มที่แนะนำใช้สอบเทียบ
Vibra AJ 0.001 g F1 หรือ E2
Vibra SJ 0.01–0.1 g F2 หรือ F1
Vibra AB 0.01–0.1 g F1 หรือ M1
Vibra HT 0.0001 g E2

ข้อควรจำ

  • การ สอบเทียบเครื่องมือวัด ควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • ถ้าใช้ในงานที่มีผลต่อคุณภาพ (เช่น ผลิตยา หรือวิเคราะห์สารเคมี) ควรเลือกตุ้มน้ำหนัก Class สูงขึ้น
  • การเลือกซื้อตุ้มน้ำหนักควรพิจารณาจากบริษัทที่มีมาตรฐานรับรองคุณภาพ ดังนั้นคุณควรเลือกตุ้มน้ำหนักจากผู้จำหน่ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าตุ้มน้ำหนักมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ตามมาตรฐานสากล

การเก็บรักษาและดูแลตุ้มน้ำหนัก (Weights) ที่ถูกต้อง

เพื่อให้ตุ้มน้ำหนักที่ใช้สอบเทียบเครื่องชั่ง Vibra คงค่าความแม่นยำและสามารถใช้งานได้ยาวนาน ผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญกับการดูแลและเก็บรักษาอย่างเหมาะสม ดังนี้:

1.เก็บในกล่องหรือภาชนะเฉพาะ

  • ตุ้มน้ำหนักควรเก็บไว้ในกล่องที่บุด้วยวัสดุกันกระแทก เช่น กล่องที่บุด้วยโฟม หรือกล่องไม้บุผ้า
  • ไม่ควรเก็บรวมกับอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อป้องกันการกระแทกหรือขูดขีดหลีกเลี่ยงการสัมผัสด้วยมือเปล่า
  • เหงื่อและคราบมันจากมืออาจทำให้ผิวตุ้มน้ำหนักเปลี่ยนแปลงน้ำหนักได้
  • ควรใช้ถุงมือ หรือแหนบจับตุ้มเมื่อยกหรือวางบนจานชั่ง

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสด้วยมือเปล่า

  • เหงื่อและคราบมันจากมืออาจทำให้ผิวตุ้มน้ำหนักเปลี่ยนแปลงน้ำหนักได้
  • ควรใช้ถุงมือ หรือแหนบจับตุ้มเมื่อยกหรือวางบนจานชั่ง

  1. ทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง

  • ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง หรือแปรงที่มีขนอ่อนปัดเบา ๆ หากมีฝุ่น
  • ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น แอลกอฮอล์ หรือโซลเวนต์ (Solvent)
  1. หลีกเลี่ยงความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย

  • ความชื้นสูงอาจทำให้เกิดสนิม โดยเฉพาะกับตุ้มที่ไม่ใช่สแตนเลส
  • ควรเก็บในห้องที่มีอุณหภูมิคงที่และแห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
  1. สอบเทียบซ้ำตามระยะเวลา

  • ควรส่ง ตุ้มน้ำหนัก ไปสอบเทียบเป็นประจำทุก 1 ปี (หรือมากกว่านั้นตามความถี่การใช้งาน) โดยห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC17025 เช่น NIMT หรือ CLC Calibration

ผู้เขียน BDS TEAM

 

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

 

 

ทำไมจานรองเครื่องชั่ง VIBRA ถึงสำคัญ? เจาะลึกทุกคุณสมบัติที่คุณต้องรู้

เครื่องชั่ง ยี่ห้อ VIBRA เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการชั่งน้ำหนัก เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความแม่นยำสูง และได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของเครื่องชั่งคือ “จานรองเครื่องชั่ง” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้การชั่งน้ำหนักมีความแม่นยำและสะดวกต่อการใช้งาน บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ วัสดุ ขนาด และข้อดีของจานรองเครื่องชั่งยี่ห้อ VIBRA อย่างละเอียด

1.วัสดุของจานรองเครื่องชั่งละเอียด VIBRA

จานรองเครื่องชั่ง VIBRA ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภท โดยวัสดุที่นิยมใช้ ได้แก่:

สแตนเลสสตีล (Stainless Steel) : เป็นวัสดุหลักที่ใช้ผลิตจานรองของเครื่องชั่ง VIBRA เนื่องจากมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร ห้องปฏิบัติการ และโรงงานอุตสาหกรรม

2.ขนาดและรูปทรงของจานรองเครื่องชั่ง VIBRA

ขนาดของจานรองเครื่องชั่ง VIBRA มีหลายขนาดขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องชั่ง โดยทั่วไปมีขนาดดังนี้:

ขนาดเล็ก (120 x 140 มม.) เหมาะสำหรับเครื่องชั่งที่มีความละเอียดสูง เช่น เครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการ

ขนาดกลาง (180 x 160 มม.) ใช้ในเครื่องชั่งทั่วไป เช่น เครื่องชั่งทองคำ หรือเครื่องชั่งที่ใช้ในอุตสาหกรรม

ขนาดใหญ่ (200 x 200 มม. ขึ้นไป) เหมาะสำหรับเครื่องชั่งที่ใช้ชั่งวัตถุที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการชั่งวัตถุขนาดใหญ่

3.คุณสมบัติเด่นของจานรองเครื่องชั่ง VIBRA

3.1 ความแม่นยำในการกระจายน้ำหนัก

จานรองเครื่องชั่ง VIBRA ถูกออกแบบให้มีพื้นผิวเรียบและมีความสมดุลในการกระจายน้ำหนักอย่างดีเยี่ยม ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการวางวัตถุที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการชั่งน้ำหนักที่ต้องการความละเอียดสูง

3.2 ทนทานต่อการใช้งาน

วัสดุของจานรองถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักได้ดี ป้องกันการบุบหรือเสียรูปจากแรงกดทับ นอกจากนี้ยังสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีบางชนิดได้ดี โดยเฉพาะจานรองที่ทำจากสแตนเลสสตีล

3.3 ง่ายต่อการทำความสะอาด

การชั่งน้ำหนักในอุตสาหกรรมอาหารและยา ที่ต้องการความสะอาด จานรองเครื่องชั่ง VIBRA สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และบางรุ่นสามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดได้โดยไม่กระทบต่อเครื่องชั่ง

3.4 รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

จานรองเครื่องชั่ง VIBRA ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ห้องปฏิบัติการที่ต้องการความละเอียดสูง ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานหนัก

4.รุ่นของเครื่องชั่ง VIBRA และประเภทของจานรอง

เครื่องชั่ง VIBRA มีหลายรุ่นที่ใช้จานรองที่แตกต่างกันยกตัวอย่าง เช่น

VIBRA AJ Series: ใช้จานรองสแตนเลส ขนาด 180 x 160 มม. เหมาะกับงานทั่วไป

VIBRA SJ Series: มีจานรองขนาดใกล้เคียงกับ AJ Series แต่รองรับการใช้งานที่หนักกว่า

5.ข้อควรระวังในการใช้จานรองเครื่องชั่ง VIBRA

แม้ว่าจานรองเครื่องชั่ง VIBRA จะมีความแข็งแรงและทนทานสูง แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งานดังนี้:

  • ควรหลีกเลี่ยงการกระแทกแรง ๆ เพราะอาจทำให้จานรองเกิดความเสียหายหรือเกิดรอยบุบ
  • ไม่ควรวางวัตถุเกินพิกัดน้ำหนักที่กำหนด เพราะอาจทำให้เครื่องชั่งเสียหายได้
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนในการทำความสะอาดจานรอง

จานรองเครื่องชั่ง VIBRA เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การชั่งน้ำหนักเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ วัสดุที่ใช้ผลิตจานรอง มีความทนทานและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ขนาดของจานรองมีหลายขนาดให้เลือกตามลักษณะการใช้งาน และมีการออกแบบให้สามารถกระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุลเพื่อลดข้อผิดพลาดในการชั่ง และทำให้การชั่งน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

BDS TEAM

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ทำไม? “เครื่องชั่ง” ต้องมีตู้กำบังลม?

ทำไม? “เครื่องชั่ง” ต้องมีตู้กำบังลม?

เครื่องชั่ง ถือว่าเป็น เครื่องมือวัด พื้นฐานในการทำธุรกิจที่ทุกห้องปฏิบัติการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อใช้งานในการชั่งน้ำหนักสินค้า วัตถุดิบ ชิ้นงาน ส่วนผสมต่างๆ ฯลฯ ผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้งาน เครื่องมือวัด ประเภทเครื่องชั่งได้อย่างถูกต้องตรงตามคู่มือเครื่องชั่งที่ระบุไว้ รวมทั้งต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องชั่ง ความแม่นยำ และความถูกต้องของน้ำหนักจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ปฏิบัติงาน  ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำเรื่องเครื่องชั่งแบบมีตู้กำบังลมมานำเสนอให้เพื่อนๆ ลองดูกันว่ามีความสำคัญหรือทำไมต้องมีตู้กำบังลมในเครื่องชั่ง ตามไปอ่านกันเลยค่ะ

ตู้ครอบ หรือ ตู้กำบังลม 

โดยส่วนมากจะมีลักษณะใสๆมองเห็นด้านในได้ วัสดุที่ใช้จะเป็นแก้ว อะคริลิกหรือเป็นพลาสติกก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตที่ผลิตมาพร้อมกับเครื่องชั่งเลย ตู้กำบังลมนี้จะมีส่วนช่วยปกป้องเครื่องชั่งและตัวอย่างชิ้นงานต่างๆ ที่เกิดผลกระทบจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ลม อาจทำให้ผลของการชั่งไม่นิ่งได้ ซึ่งถ้ามีตู้กำบังลมยิ่งจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ในการชั่งน้ำหนักมากขึ้น และเป็นการปรับระยะเวลาการอ่านค่าของตัวเครื่องชั่งให้มีน้ำหนักที่นิ่งที่สุดและให้เหมาะสมที่สุด การปกป้องจากสภาพแวดล้อมนี้กลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากเมื่อใช้เครื่องชั่งที่มีค่าอ่านละเอียดสูงที่มากกว่าทศนิยม 3 ตำแหน่ง การปกป้องตัวอย่างชิ้นงานจากการชั่งน้ำหนักอันเกิดจากปัจจัยที่จะส่งผลกระทบรอบข้างโดยการลดสภาพแวดล้อมที่ไม่นิ่งให้น้อยลงที่สุดและช่วยให้เครื่องชั่งมีประสิทธิภาพในการชั่งน้ำหนักที่นิ่งเร็วขึ้น

ดังนั้นหากเราต้องการที่จะให้ได้น้ำหนักที่แม่นยำมากที่สุด ตู้กำบังลม จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องชั่งที่จะทำให้การแสดงผลเป็นตัวเลขที่มีความชัดเจน และแม่นยำ ไปจนถึงระดับจุดทศนิยม ซึ่งเป็นความสะดวกที่ทำให้ขั้นตอนการชั่งน้ำหนัก สามารถทำได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้ตาชั่งแบบธรรมดาทั่วไป อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดการประเมินการทำงานของเครื่องชั่งในการอ่านค่าที่ถูกต้อง ในขั้นตอนการชั่งได้อีกด้วยค่ะ

 

การทำความสะอาด


ทุกครั้งที่เพื่อนๆ ใช้งานเครื่องชั่งเสร็จ จะต้องทำความสะอาดตู้กำบังลมเครื่องชั่งทุกครั้งด้วยนะคะ โดยนำตู้กำบังลมออกจากตัวเครื่องชั่งก่อน จากนั้นใช้ผ้าหมาดๆเช็ด หรือ ชุปน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆเช็ดได้ จากนั้นใช้ผ้าแห้งที่สะอาดเช็ดซ้ำอีกทีและเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วจึงประกอบตู้กำบังลมกลับดังเดิมค่ะ โดยต้องให้มั่นใจด้วยนะคะ ว่าเราประกอบตู้กำบังลมกลับอย่างถูกต้อง

สำหรับเรื่องตู้ครอบ หรือตู้กำบังลม ที่เหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญแต่ก็เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งของเครื่องชั่งที่มีทศนิยมมากกว่า 3 ตำแหน่ง แต่ถ้าจะถามว่าในเครื่องชั่งทศนิยม 1 ตำแหน่ง หรือ 2 ตำแหน่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ตู้ครอบกำบังลมด้วยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ผลิตของเครื่องชั่งตัวนั้นว่าจะผลิตมาด้วยหรือไม่ แต่การชั่งที่ไม่มีตู้กำบังลมของเครื่องชั่งจำพวกนี้จะไม่ค่อยส่งผลต่อการชั่งมากเท่าไหร่ ในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับลมทำให้ผู้ผลิตบางรายจึงไม่นิยมผลิตตู้กำบังลมมาให้ด้วยในส่วนของเครื่องชั่งที่มีทศนิยมน้อยกว่า 3 ตำแหน่ง

เพื่อนๆได้อ่านแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เราหวังว่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ บ้างนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาเครื่องชั่งที่มีตู้กำบังลมที่ทนทาน ดูแลรักษาง่ายและมีประสิทธิภาพความแม่นยำในการชั่งชิ้นงานสักเครื่อง เราขอแนะนำเครื่องชั่งแบรนด์ Vibra นี้เลยค่ะ ซึ่งตัวเครื่องชั่งมีตู้กำบังลมมาให้พร้อมด้วยสามารถป้องกันผลกระทบต่างๆที่เกิดเหตุจากหลายปัจจัยได้ เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องชั่งไม่มากก็น้อยนะคะ ทางเราก็มีสินค้าจำหน่ายพร้อมสอบเทียบตามมาตราฐาน OIML-R76-1 ให้เพื่อนๆ เกิดความเชื่อมันในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ และอย่าลืมว่าเครื่องชั่งนั้นอาจให้ค่าที่คลาดเคลื่อนหากมีการใช้งานไปนานๆ ดังนั้นจึงควร สอบเทียบเครื่องมือวัด เครื่องชั่งนี้อย่างสม่ำเสมอนะคะ ในครั้งต่อไปเราจะแนะนำการใช้งานเครื่องมือหรือบทความที่เกี่ยวกับความรู้ของเครื่องมือตัวไหนนั้นอย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ แล้วเจอกันในบทความหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

เคล็ดลับ!? การปรับระดับน้ำของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

รีวิววิธีการใช้งาน เครื่องชั่ง VIBRA CUX SERIES แบบคอตั้ง

รีวิววิธีการใช้งาน เครื่องชั่ง VIBRA CUX SERIES แบบคอตั้ง

จากบทความครั้งที่แล้วที่เราได้นำเสนอเรื่อง เครื่องชั่ง แบรนด์ VIBRA รุ่น CUX SERIES ที่เราได้นำเสนอไว้เป็นอีกหนึ่งทางตัวเลือกให้สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการค่าความแม่นยำสูงและมีประสิทธิภาพ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องชั่งละเอียด VIBRA CUX SERIES ให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจกับเครื่องมือตัวนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนก็ได้หยิบยกเครื่องชั่ง CUX SERIES ขนาดพิกัด 30 กิโลกรัม ค่าความละเอียด 0.005 กิโลกรัม แบบคอตั้งมานำเสนอให้เพื่อนๆลองดูกันค่ะ ตามไปอ่านดูเลยนะค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง

ก่อนที่จะมารีวิวการใช้งานกันเรามาทำความรู้จักส่วนประกอบต่างๆของเจ้าเครื่องชั่งละเอียด VIBRA CUX SERIES นี้กันก่อนนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้

  1. จอแสดงผล
  2. ช่องตัวเลือก
  3. จานชั่งน้ำหนัก
  4. ตัวปรับขาของฐานเครื่องชั่ง มี 4 มุม
  5. ช่องเสียบสายชาร์จ
  6. ช่องเสียบสาย RS-232C
  7. สายเชื่อมต่อจอแสดงผล
  8. ช่องต่อรีเลย์ (ใช้ในการตัด-ต่อ วงจร) เป็นอุปกรณ์เสริม
  9. เสา
  10. ขาป้องกันการล้ม
  11. ระดับน้ำ

เริ่มการใช้งาน เครื่องชั่ง VIBRA CUX SERIES

1.เปิดเครื่อง
กดปุ่ม [เปิด/ปิด] จอแสดงผลทั้งหมดจะกะพริบ หน้าจอจะแสดงค่าเป็นศูนย์

2. ตรวจสอบการทำงานของ เครื่องมือวัด
กดจานชั่งน้ำหนักเบาๆ เพื่อตรวจสอบว่าน้ำหนักมีการเปลี่ยนแปลง ถ้ากดจานชั่งเบาๆแล้วตัวเลขเพิ่มขึ้นตามแรงกดแสดงว่าเครื่องชั่งทำงานปกติ กรณีที่กดจานชั่งแล้วตัวเลขไม่ขยับแสดงว่าเครื่องชั่งมีปัญหาไม่สามารถทำการชั่งของได้ ต้องส่งไปทำการซ่อมก่อนหรือติดต่อผู้ผลิต

3.ปิดเครื่อง
กดปุ่ม [เปิด/ปิด] ค้างไว้ (ประมาณ 2 วินาที) จอแสดงผลทั้งหมดจะดับลงทันที

Functions การทำงานของ เครื่องชั่ง VIBRA CUX SERIES

 

1.การชั่งทั่วไป

หลังจากที่เปิด เครื่องชั่ง และทดสอบน้ำหนักโดยการกดจานชั่งแล้ว สามารถนำชิ้นงานหรือของที่ต้องการชั่งมาวางบนฐานหรือจานรองเครื่องชั่งและทำการอ่านค่าได้เลย หากใช้งานเสร็จแล้วให้นำชิ้นงานออกจากจานชั่งก่อนทำการปิดเครื่องค่ะ

 

2.การนับชิ้นงาน

2.1  กด SCS 1 ครั้ง หน้าจอจะแสดง Sample Test เริ่มต้นที่ 5 ชิ้น

2.2 ใส่จำนวนชิ้นงานหรือของที่ต้องการชั่งให้เท่ากับจำนวนที่ตั้งไว้หรือที่กำหนดไว้ (Sample Test)

2.3 กด SCS  2 ครั้ง หน้าจอจะขึ้น Finish และจะโชว์ข้อมูลน้ำหนักรวม [Weight], น้ำหนักต่อชิ้น [Unit W.] และ จำนวนชิ้น [Quantity]

2.4 หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ให้เครียร์หน้าจอการใช้งานช่อง น้ำหนักต่อชิ้น [Unit W.] ให้เป็นศูนย์ [0] โดยการนำชิ้นงานออกจากจานชั่งให้หมดก่อน จากนั้นกดปุ่ม  Unit W. SET 1 ครั้ง, กดเลขศูนย์ [0], กดปุ่มจุด [.], กดเลขศูนย์ [0] และกดปุ่ม  Unit W. SET อีกรอบตามลำดับ

2.5 หน้าจอจะแสดงผลเป็นเหมือนเดิม และสามารถเริ่มทำการชั่งชิ้นงานอันใหม่ต่อไปได้

2.6 เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ควรกดปุ่มปิดการใช้งานโดยกดค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จนหน้าจอดับลง ไม่แนะนำให้ปิดเครื่องชั่ง
ขณะมีชิ้นงานวางอยู่บนจานชั่ง ควรนำชิ้นงานออกจากจานชั่งก่อนและจึงทำการปิดเครื่องชั่งได้

เป็นยังไงบ้างคะกับการรีวิวและเทคนิคขั้นตอนการใช้งานแบบง่ายๆ ก็สามารถใช้งานเครื่องชั่งเป็นแบบไม่ยุ่งยากเลย และหากท่านใดสนใจกำลังมองหาเครื่องชั่งสักเครื่องในการทำงานและมีวิธีการใช้งานแบบง่ายๆ ให้เครื่องชั่ง Vibra แบบดิจิตอล(Digital) รุ่น CUX SERIES เป็นอีกทางเลือกของท่านได้นะคะ ทาง CLC เรามีจำหน่ายพร้อมบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ตามมาตราฐาน OIML-R76-1 อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมันในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยคะ โอกาสหน้าจะมาแนะนำเทคนิคดีๆ อื่นๆให้อีกแน่นอน
คอยติดตามกันด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

เคล็ดลับ!? การปรับระดับน้ำของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

เครื่องชั่ง VIBRA CUX SERIES นั้นดีอย่างไร!!

เครื่องชั่งดิจิตอล VIBRA CUX SERIES นั้นดีอย่างไร!!

ในปัจุบันนี้ผู้คนต่างก็ใช้ เครื่องชั่งดิจิตอล ทั้งสำหรับในเชิงพาณิชย์ ครัวเรือน อุตสาหกรรม และอื่นๆอีกมากมาย อย่างเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่สำหรับใช้ในห้องครัว ก็ใช้ชั่งเพื่อใช้ตวงส่วนผสมของสูตรอาหารให้มีความแม่นยำ เเละตรงสูตรมากขึ้น หรือไม่ก็วางไว้หน้าห้องน้ำ ห้องนอนเพื่อใช้ตรวจสอบน้ำหนักของพวกเขาเอง แม้แต่ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อุปกรณ์เหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการในการใช้งาน เนื่องจากมีความรวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษในการชั่งน้ำหนัก และเครื่องชั่งเหล่านี้มีน้ำหนักที่เบาเเต่กลับมีความสามารถในการชั่งน้ำหนักอย่างเเม่นยำ

ซึ่งวันนี้ CLC มีเครื่องชั่งความแม่นยำสูงที่บรรดากลุ่มอุตสาหรรมโรงงานต่างๆ นิยมใช้กันอย่างมากอีกตัวหนึ่งมาแนะนำ คือ VIBRA CUX SERIES นั้นเองค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

ด้วยคุณสมบัติ ของ Vibra CUX Series  นั้นเป็น เครื่องชั่ง นับจำนวนชิ้นงานที่ถูกสร้างมาเพื่อให้การนับจำนวนมีความแม่นยำมากที่สุด และใช้งานได้ง่าย ชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตโนมัติและฟังก์ชั่น ACR ช่วยให้การนับมีความแม่นยำมากขึ้น Vibra CUX Series  อีกทั้งยังมีหน้าจอ LCD WITH BACK-LIGHT ขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจนพร้อมแสงด้านหลังสีขาวช่วยให้การชั่งน้ำหนักทำได้ง่ายและสะดวกสบายแม้อยู่ในที่มืดอับแสง พร้อมกันนั้นยังมีความทนทานสูงในสภาพแวดล้อมที่มีแรงสั่นสะเทือนรบกวนในระยะยาว แถมสะดวกใช้งานง่ายอีกด้วย

 

ทีนี้ก็พอรู้แล้วว่าเครื่องชั่ง Vibra CUX Series มีคุณสมบัติอย่างไรกันแล้วคราวนี้เราก็มาดู

วิธีการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องชั่ง
มาดูกันว่าการใช้และรักษาอย่างถูกวิธีกันว่ามีวิธีการแบบไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

เพื่อให้เครื่องชั่งนั้นแสดงค่าน้ำหนักได้อย่างถูกต้องแม่นยำสูงและยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องชั่งได้ การบำรุงรักษาเครื่องชั่งอย่างถูกวิธี และการทำความสะอาดบริเวณโดยรอบและตัวเครื่องชั่งอย่างเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากค่ะ

  • การเปิดปิด เครื่องมือวัด นี้ หลังจากเสียบปลั๊กและเปิดสวิตซ์เครื่อง ควรอุ่นเครื่องก่อนการใช้งานไม่น้อยกว่า 30 นาที
  • หากมีการใช้งานเป็นประจำควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอด
  • เมื่อใช้งานเสร็จให้ปิดแต่สวิตซ์ที่ตัวเครื่องเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเปิดใช้งานครั้งต่อไปก็ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องอุ่นเครื่องอีก
  • ก่อนวางสิ่งของบนจานชั่งเครื่องชั่งต้องแสดงค่าเป็นศูนย์ ถ้าไม่เป็นศูนย์ ให้กด Tare เพื่อปรับให้แสดงค่าศูนย์ และอ่านค่าได้ก็ต่อเมื่อเครื่องชั่งแสดงสัญญาณให้อ่าน
  • การวางน้ำหนักบนจานชั่งควรวางสิ่งของให้อยู่ตรงกลางจานเสมอ ไม่ควรใช้มือจับสิ่งของหรือภาชนะ ไม่ชั่งน้ำหนักที่หนักเกินความสามารถของตัวเครื่อง (Weighing capacity)
  • เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ Model CUX Series ยี่ห้อ VIBRA หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังมองหา เครื่องชั่ง สักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องชั่งไม่มากก็น้อยนะค่ะ Model CUX Series ก็เป็นตัวเลือกและตอบโจทย์การใช้งานของท่านอย่างแน่นอนค่ะ สำหรับท่านที่สนใจ เครื่องชั่งดิจิตอล MODEL CUX Series ยี่ห้อVIBRA ทางเราก็มีสินค้าจำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องมือวัด ตามมาตราฐาน OIML R76-1 ให้ท่านเกิดความเชื่อมันในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ ในครั้งหน้า CLC จะแนะนำเครื่องชั่งรุ่นไหนหรือเป็นบทความ ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือวัดตัวไหนนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ แล้วเจอกันในบทความหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

เคล็ดลับ!? การปรับระดับน้ำของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

เจาะลึก!! 14 ข้อดี เครื่องชั่ง VIBRA ALE SERIES

หากจะพูดถึง เครื่องชั่ง เชิงวิเคราะห์ ว่าในบ้านเรามียี่ห้อไหนบ้างก็อาจจะยกมาไม่หมด ถ้าจะยกมาเป็นตัวอย่างบ้าง บางยี่ห้อที่น่าจะคุ้นหูก็เช่น ยี่ห้อ Sartorius, Mettler Toledo, Vibra,  A&D, Shimadzu, Ohaus ซึ่งที่เราจะมาพูดถึงแบบเจาะจงลงรายละเอียดกันเลย วันนี้จะเป็นของแบรนด์ VIBRA เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพดีติดอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ อุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ สารเคมี อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมรถยนต์ งานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมเครื่องบิน ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

บทความนี้เรามีอะไรมาแนะนำผู้อ่านๆให้รู้จักบ้าง ตามไปดูกันเลยว่ามีอะไรที่น่าสนใจสำหรับ เครื่องชั่ง ตัวนี้กันบ้างนะคะ
ขอแนะนำให้รู้จักกับ เครื่องชั่ง อีกหนึ่ง SERIES ของแบรนด์ VIBRA ที่มีประสิทธิภาพสูงคุณภาพดี คือ… ALE SERIES

ผู้อ่านได้จำบทความ เรื่องเทคโนโลยี TUNING-FORK SENSOR INSIDE เซ็นเซอร์ส้อมเสียงหนึ่งเดียวในโลกที่เราเคยเล่าในบทความเมื่อครั้งก่อนได้ไหมคะ ALE SERIES ก็มีเซ็นเซอร์ส้อมเสียงเหมือนกันค่ะ ด้วย

ข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเทียบได้กับการชั่งน้ำหนักในห้องปฏิบัติการ 

  • ให้ประสิทธิภาพความ แม่นยำสูง และมีความ ทนทาน สูงสุดตลอดการในงานระยะยาว
  • มีขนาดกระทัดรัด เล็กที่สุดในบรรดาเครื่องชั่งที่มีความแม่นยำ
  • สามารถติดตั้งเครื่องชั่งได้ทุกที่ที่คุณต้องการแม้ในห้องปฏิบัติการที่มีขนาดเล็กมาก
  • มีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ซึ่งสามารถลดเวลาในการปรับความเสถียรภาพให้เหลือเพียง”ครึ่งหนึ่ง” ของรุ่นก่อนหน้านี้
    ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการชั่งน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • ถูกออกแบบมาให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง
  • สามารถดูดซับแรงกระแทกแม้ว่าจะมีวัตถุที่มีน้ำหนักมากตกลงมาบนเครื่องโดยไม่ตั้งใจ ก็ยังสามารถดำเนินการชั่งน้ำหนักต่อได้ทันทีเลยค่ะ
  • ในส่วนของการให้พลังงานก็สามารถใช้งานได้กับแบตเตอรี่เซลล์แบบแห้งได้ด้วย เนื่องจากเป็นการใช้พลังงานที่ต่ำในระบบเซ็นเซอร์ส้อมเสียง
  • มีประโยชน์ในด้านการให้พลังงานไฟฟ้าสำรองได้อีกด้วยค่ะ

วิธีการทำงานของ เครื่องชั่ง หรือวิธีการชั่งสินค้า

วิธีการทำงานหรือวิธีการชั่งสินค้าก็จะเหมือนกับ Vibra รุ่น AJ Series ที่เคยกล่าวถึงไปก่อนหน้านี้แล้วหรือถ้าต้องการดูฟังก์ชันการทำงานของรุ่น AJ Series เพิ่มสามารถเข้าไปดูที่ บทความตาม link นี้ได้เลย คลิก!!

และเมื่อกล่าวถึงรุ่น ALE Series นี้ คือมีฟังก์ชันอื่นๆอีก เช่น

  • การนับชิ้นงาน (Count)
  • ฟังก์ชั่นคำนวณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) 
  • มีฟังก์ชั่นการหักค่าภาชนะ (Tare) 
  • สามารถใช้งานง่าย
  • สะดวกในการเคลื่อนย้าย
  • สำคัญคือ การดูแลรักษาเครื่องชั่ง ก็ทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน เพียงแค่หลังจากที่ไม่ใช้งานแล้วก็ปิดเครื่องไว้ปกติ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเรื่อง เครื่องชั่งเชิงวิเคราะห์ ALE SERIES แบรนด์ VIBRA แบบดิจิตอล (Digital) หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เครื่องชั่งดิจิตอล รุ่น ALE SERIES แบรนด์ VIBRA ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อ่านแน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ทางเราก็มีสินค้าจำหน่ายเช่น เครื่องชั่งวิเคราะห์ หลากหลายรุ่นและ เครื่องมือวัดอื่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้เลือกสรร พร้อมสอบเทียบตามมาตรฐานสากล ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 ให้เกิดความเชื่อมั่นในมาตรฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

เคล็ดลับ!? การปรับระดับน้ำของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา