สอบเทียบ Push-pull การใช้งาน Push-Pull Gauge และข้อควรระวัง คำแนะนำจากบริษัท สอบเทียบเครื่องมือวัด CLC

ข้อควรระวังในการใช้งาน Push-Pull Gauge

เครื่องวัดแรงดึงแรงกด (Push-Pull Gauge) คือ เครื่องมือวัดแรงดึงและแรงกดขนาดเล็ก เครื่องมือนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ อาหาร เป็นต้น เพราะเป็นเครื่องมือวัดที่มีขนาดเล็ก และใช้งานได้ง่าย โดยเครื่องมือนี้อาศัยหลักการยืดและหดของตัวสปริงภายใน โดยถ้าเราถ่วงวัตถุหรือออกแรงดึงกับตะขอของเครื่องมือ สปริงก็จะถูกยืดออก ทำให้เข็มที่เครื่องมือหมุนไปยังแรงที่กระทำมากับตัวเครื่องมือ

ประเภทของเครื่องวัดแรงดึงแรงกด (Push-Pull Gauge)

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. เครื่องมือวัดแรงดึงแรงกดแบบอนาล็อก (Analog Push-Pull Gauge) จะมีหน้าจอเป็นแบบเข็มบนหน้าปัด
  2. เครื่องมือวัดแรงดึงแรงกดแบบดิจิตอล (Digital Force Gauge) จะมีหน้าจอเป็นแบบดิจิตอล

ซึ่งทั้ง 2 ประเภทจะมีหน่วยแสดงผลที่แตกต่างกันออกไปตามหน่วยที่เราต้องการจะวัด มีทั้ง N (นิวตัน), lb (ปอนด์), kg (กิโลกรัม) ผู้ใช้งานสามารถเลือกเครื่องมือที่หน่วยตรงกับการใช้งานของตนเองได้เลย เพื่อสะดวกในการใช้งาน สะดวกในการอ่านค่า โดยไม่ต้องแปลงหน่วยกลับไปกลับมาให้สับสน เพราะอาจเกิดความคลาดเคลื่อนในการอ่านค่าได้

เราจำเป็นที่ต้องส่งสอบเทียบเครื่องมือวัดทุกตัวที่เราใช้วัดชิ้นงาน เพราะเป็นการยืนยันว่าเครื่องมือที่เราใช้วัดนั้นค่าที่หน้าจอแสดงผล ยังอ่านค่ายังตรงอยู่หรือไม่ เพื่อเป็นการการันตีความเชื่อมั่นได้ว่าเครื่องมือนั้นยังเที่ยงตรง พอนำไปวัดชิ้นงานของเรา ก็จะให้ค่าที่แม่นยำ

ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เอง CLC (Calibration Laboratory) สามารถสอบเทียบเครื่องมือดังกล่าวได้ และได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017  ทั้งของในประเทศไทยอย่าง TISI และต่างประเทศอย่าง ANAB (สหรัฐอเมริกา) โดยย่านการวัดที่ทาง CLC สอบเทียบได้และได้รับการรับรองนั้นอยู่ที่ 0-1000 N ในด้านดึง โดย Standard ที่ทาง CLC ใช้ในการสอบเทียบคือ Standard Weight

ภาพตัวอย่างการสอบเทียบ Push-Pull Gauge ของบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด

วิธีการตรวจเช็คเครื่องมือก่อนการสอบเทียบ

  1. ตรวจเช็คเครื่องมือว่ามีอุปกรณ์ เช่น ตะขอดึง Jigกด ว่ามีมาหรือไม่
  2. ตรวจเช็คเข็มว่าเข็มหมุนเต็ม Range หรือไม่ เข็มหักหรือไม่ หมุนกลับไปที่ศูนย์หรือไม่
  3. ตรวจเช็คกายภาพของเครื่องมือว่า แตก หัก เสียหาย หน้าจอแตกหรือไม่
  4. กรณีเป็นเครื่องมือแบบหน้าจอดิจิตอล ตรวจเช็คว่าเครื่องมือเปิดติดหรือไม่ มี Adaptor หรือสายชาร์จมาหรือไม่ รางถ่านมีสนิมหรือไม่
  5. ทำความสะอาดเครื่องมือด้วยผ้าสะอาดก่อนทำการสอบเทียบ

ทั้งนี้ผู้ใช้งานเครื่องมือเองก็สามารถตรวจเช็คเครื่องมือเช่นเดียวกับที่ทาง CLC ทำ เพื่อเป็นการรักษาเครื่องมือให้มีอายุการใช้งานที่นานยิ่งขึ้น

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการใช้งาน

การเลือกช่วงวัดให้เหมาะสม

ก่อนใช้งานเครื่องวัดแรงดึง–แรงกด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่วงการวัดของเครื่องครอบคลุมแรงที่คุณต้องการใช้งานจริง เช่น ถ้าคุณต้องการวัดแรงดึงสูงสุด 500 นิวตัน เครื่องมือที่ใช้ควรมีช่วงวัดมากกว่าอย่างน้อย 20–30% เพื่อป้องกันการใช้งานเกินขีดจำกัด เพราะหากใช้เครื่องวัดในช่วงสูงสุดต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้กลไกภายในสึกหรอหรือคลาดเคลื่อนได้

การอ่านคู่มือก่อนติดตั้ง

ทุกครั้งก่อนใช้งาน ควรอ่านคู่มือการใช้งานที่มากับเครื่องอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างและอุปกรณ์เสริม เช่น ตะขอดึง (Jig) หรือแผ่นกด (Plate) คู่มือจะระบุรายละเอียดวิธีติดตั้ง การตั้งค่าหน่วยวัด การต่อสาย และข้อควรระวังเฉพาะรุ่น ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายจากการติดตั้งผิดตำแหน่งหรือออกแรงเกินกำลังของเครื่องมือ

การเลือกหน่วยวัดให้ตรงกับการใช้งาน

Push-Pull Gauge สมัยใหม่สามารถตั้งค่าได้หลายหน่วย เช่น นิวตัน (N), กิโลกรัม (kg), หรือ ปอนด์ (lb) ควรเลือกหน่วยที่ตรงกับมาตรฐานการผลิตหรือเอกสารควบคุมคุณภาพขององค์กร เพื่อป้องกันการแปลงหน่วยผิดพลาด เพราะการแปลงหน่วยซ้ำ ๆ มักเป็นสาเหตุของความคลาดเคลื่อนในการบันทึกผล

การตรวจสอบเครื่องมือก่อนใช้งาน

ก่อนเริ่มใช้งานจริง ควรตรวจสอบสภาพเครื่องมือให้ครบทุกจุด เริ่มจากดูว่าตะขอดึง หรือ Jig กดยังอยู่ครบ ไม่มีการชำรุดหรือสึกหรอ หากเป็นรุ่นดิจิทัล ให้ตรวจเช็กว่าเครื่องเปิดติด หน้าจอแสดงผลชัดเจน แบตเตอรี่หรือสายชาร์จอยู่ในสภาพดี และไม่มีคราบสนิมในช่องใส่ถ่าน สุดท้ายควรทำความสะอาดเครื่องด้วยผ้านุ่มก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันฝุ่นหรือน้ำมันที่อาจรบกวนความแม่นยำของค่าที่วัดได้

รูปตัวอย่างตะขอดึง Jig ที่มาพร้อมเครื่องมือ

ข้อควรระวังใน การใช้งาน Push-Pull Gauge

  1. ไม่ควรใช้กับแรงที่เกินขีดความสามารถของเครื่องมือ เพราะจะทำให้เครื่องมือเสีย
  2. ไม่ควรเสียบที่ชาร์จค้างไว้ตลอดการใช้งานเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ง่าย
  3. ไม่ควรให้น้ำเข้าเครื่อง อาจทำให้เครื่องช๊อตได้
  4. ควรติดตั้งเครื่องมือให้มีพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งาน

 

Ref.

Mhforce

Astm.org

Mikrometry

NIST Handbook

ASTM E74

ISO/IEC 17025:2017 

 

 

 

MKS

บริการสอบเทียบด้านแรงบิดและแรง

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา