คลังเก็บป้ายกำกับ: Dimension’s Article

Gauge Block ทำจากวัสดุใดและมีเคล็ดลับการดูแลเกจบล็อคอย่างไร

เกจบล็อค ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ต้องส่งมาทำการ สอบเทียบเครื่องมือวัด อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากชำรุดแล้วอาจส่งผลให้ชิ้นงานที่ผลิตเกิดความคลาดเคลื่อนได้ เราจะมาทำความรู้จักกับเกจบล็อคกันค่ะ

Gauge Block ทำจากวัสดุใดและมีเคล็ดลับการดูแลเกจบล็อคอย่างไร

เกจบล็อค(Guage Block) คือ เครื่องมือทดสอบขนาดมาตรฐาน สามารถใช้ทดสอบเครื่องมือวัดในการวัดขนาดงานและใช้วัดเปรียบเทียบ Gauge Block ถูกสร้างขึ้นมาให้มีขนาดที่แน่นอนโดยมีขนาดตั้งแต่ 0.5-100 mm ผิวมีลักษณะที่มีความเรียบและมันเงา มีหลายขนาดให้เลือกตามต้องการ

Gauge Block ทำจากวัสดุใด

วัสดุของ Gauge Block มีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้เป็นเครื่องมือมาตรฐานมี 3 ประเภท ได้แก่

1.เหล็ก(Steel)

2.เซรามิก(Ceramic)

 

3. เหล็กคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide)

รูปลักษณะการสอบเทียแบบเปรียบเทียบ(Comparison)

 

ลักษณะรูปร่างของเกจบล็อค

1. รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Gauge Block)

2. รูปทรงสีเหลี่ยมจตุรัส (Square Gauge Block)

 

การแบ่งระดับของเกจบล็อค

ระดับชั้นความถูกต้องและความเที่ยงตรงของ เกจบล็อค (Gauge Block) แบ่งออกเป็น 4 Grade หรือระดับชั้นตามมาตรฐาน ISO 3650:1992 ได้แก่

  • Grade K: ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิง
  • Grade 0: ใช้สอบเทียบ Micrometer
  • Grade 1: ใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • Grade 2: ใช้ในงานทั่วไปที่ไม่ต้องการความละเอียดมากนัก

ซึ่งการเลือกใช้งานของแต่ละ Grade ประเมินจากความละเอียดของประเภทงานนั้นๆ

จากรูปเป็นการใช้งาน Gauge Block Grade 0 เพื่อสอบเทียบ Micro Meter

 

 

การสอบเทียบเครื่องมือวัด เกจบล็อค

การสอบเทียบเกจบล็อค (Gauge Block) จะใช้วิธีการสอบเทียบแบบเปรียบเทียบ(Comparison) ระหว่าง Gauge Block มาตรฐาน Grade K กับ Gauge Block ที่จะทำการสอบเทียบ โดยใช้ Gauge Block Comparator

เกจบล็อคต้องเตรียมเกจบล็อคอย่างไรก่อนการใช้งาน

การเตรียมเกจบล็อค(Gauge Block) ก่อนการใช้งาน มีขั้นตอนดังนี้

1. ทำความสะอาดเกจบล็อค ซึ่งแบ่งการทำความสะอาดออกตามประเภทของวัสดุที่ใช้เป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 เกจบล็อคแบบเหล็ก (Steel Gauge Block) จะต้องทำความสะอาดเอาคราบวาสลีนออกโดยใช้ผ้าสะอาด หรือทิชชู่เช็ด จากนั้นใช้กระดาษทิชชู่ไร้ฝุ่นที่ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์เช็ดอีกครั้ง จากนั้นเช็ดด้วยกระดาษทิชชู่ไร้ฝุ่นแบบแห้งอีกครั้ง

แบบที่ 2 เกจบล็อคแบบเซรามิค(Ceramic Gauge Block) และเกจบล็อคแบบเหล็กคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide Gauge Block) ใช้การดาษทิชชู่ไร้ฝุ่นที่ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์เช็ด จากนั้นเช็ดด้วยกระดาษทิชชู่ไร้ฝุ่นแบบแห้งอีกครั้ง

2. แช่อุณหภูมิก่อนนำไปใช้สอบเทียบเครื่องมือ ระยะเวลาในการแช่อย่างน้อย 2 ชั่วโมงในห้องที่ควบคุมสภาวะแวดล้อม ณ อุณหภูมิ 20 ± 1 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 55 ±10 %Rh

3. เมื่อพบเกจบล็อค ที่มีรอยขีดข่วนควรแยกออกจากกันกับเกจบล็อคที่ดีเพราะจะทำให้เกจบล็อคที่ดีชำรุดเสียหายไปด้วย

4. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้มือเปล่าสัมผัสเกจบล็อคขณะใช้งานเนื่องจากความร้อนจากร่างกายจะทำให้ เกจบล็อคขยายตัว ควรสวมถุงมือทุกครั้งก่อนใช้งาน หรือใช้ Forceps คีบจับเกจบล็อคขณะใช้งานเสมอ

ทำไมต้องทำความสะอาด Gauge Block?

  1. ป้องกันคราบและสนิมที่ส่งผลต่อความแม่นยำของเครื่องมือ
  2. หากมีคราบหรือสนิม จะทำให้ค่าการสอบเทียบไม่ถูกต้อง
  3. ลดโอกาสที่เครื่องมือวัดอื่นๆ จะเสียหายจากการใช้งานร่วมกับ Gauge Block ที่มีปัญหา
  4. ยืดอายุการใช้งานของ Gauge Block ซึ่งมีราคาสูง
  5. ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องมือใหม่ในระยะยาว

 

เคล็ดลับการจัดเก็บ, การบำรุงรักษาและข้อควรระวัง เกจบล็อค 

Gauge Block เป็นเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดและราคาสูง ดังนั้นจึงต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังและใช้อย่างถูกวิธี มีข้อแนะนำดังนี้

  1. หลังจากการใช้งานแล้วทำการตรวจสอบผิวหน้าทั้งสองด้านของเกจบล็อคว่ามีรอยขีดข่วนหรือไม่
  2. เมื่อเลิกใช้งานเกจบล็อคแล้วทำความสะอาดเกจบล็อคโดยใช้แอลล์กอฮอล ใช้กระดาษทิษชู่ไร้ฝุ่นเช็ดให้แห้งและเคลือบผิวด้วยวาสลีนกรณีเป็นเกจบล็อคแบบเหล็ก (Steel Gauge Block) และจัดเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย
  3. นำเกจบล็อคไปเก็บไว้ในตู้ดูดความชื้น
  4. เมื่อพบเกจบล็อคชำรุด ควรแยกออกและซ่อมโดยใช้อุปกรณ์เฉพาะทางในการซ่อมแซมเท่านั้นโดยทันที
หัวข้อการเก็บรักษา Material
Steel Ceramic Tungsten Carbine
1. ทำความสะอาดก่อน / หลัง การใช้งาน ✔️ ✔️ ✔️
2. เช็คจุดบกพร่องที่ผิวหน้าใช้งาน ✔️ ✔️ ✔️
3. สวมถุงมือทุกครั้งที่หยิบจับใช้งาน ✔️ ✔️ ✔️
4. เคลือบวาสลีน ✔️
5. การแตกหักเสียหาย บิ่น ✔️ ✔️
6. คราบ ✔️ ✔️ ✔️
7. สนิม ✔️
8. ใส่กล่อง หรือ ห่อด้วย Bubble ✔️ ✔️ ✔️
9. เก็บไว้ในพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำ ✔️ ✔️ ✔️
10. ไม่วาง Gauge Block ซ้อนทับกัน ✔️ ✔️ ✔️

ซึ่งทางบริษัท Calibration Laboratory มีการสอบเทียบ(Calibrate)เครื่องมือวัด และจำหน่ายเกจบล็อคเป็นเซ็ตและแยกชิ้นพร้อมทั้งงาน สอบเทียบเครื่องมือวัด สามารถติดต่อมาที่ sale@cal-laboratory.com ได้เลยค่ะ

 

ผู้เขียน Ple & Anusara

 

วิธีเลือกซื้อเกจบล็อก (Gauge block) ชนิดของเกจบล็อกและเลือกซื้อเกจบล็อกยังไงให้ตรงกับงาน

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

 

 

 

ตัวอย่าง Thread Plug Gauge มาตรฐาน ISO และ JIS พร้อมวิธีดูแลรักษา

Thread Plug Gauge หรือ เกจวัดเกลียวใน คือ เกจวัดชนิดหนึ่งที่นำมาใช้ตรวจสอบเกลียวในของชิ้นงาน ที่มีความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมาก เกจวัดเกลียวในชนิดนี้ มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ทั้งเรื่องขนาด, วัสดุ รวมถึง Class ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน JIS, ISO หรือมาตรฐานจากผู้ผลิตต่างๆ รายละเอียดต่างๆทาง CLC ได้เคยลงบทความไว้แล้ว ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้นะครับ 

Class ของ Thread Plug Gauge

ส่วน Class ยิ่ง Class สูงเท่าไหร่ ยิ่งมีความแม่นยำสูงเท่านั้น แต่ใช่ว่า Class สูงๆ จะเหมาะสมกับการใช้งานทุกอย่างเสมอไป เพราะงานบางประเภทก็ไม่ได้ต้องการให้มีขนาดของเกลียวที่แน่นพอดี เพราะหากนำชิ้นงานไปเคลือบสี พ่นสี แล้ว หลังจากนั้นขนาดของเกลียวก็จะแตกต่างไปจากก่อนกระบวนการดังกล่าว ดังนั้นการจะสั่งซื้อ Gauge ที่ Class สูงๆมาใช้งานกับงานลักษณะนี้ ก็ดูจะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้นควรเลือก Class ให้เหมาะสมกับงานจะดีที่สุด

ตัวอย่าง มาตรฐาน ISO Standard

  • เกจวัดเกลียวใน (Go/NoGo)

7H = Class 3

6H = Class 2 (Standard)

4H = Class 1

ตัวอย่าง มาตรฐาน JIS Standard

  • เกจวัดเกลียวใน (Go/NoGo)

III = Class 3

ll  = Class 2 (Standard)

l   = Class 1

การเทียบ Class ระหว่าง ISO และ JIS และลักษะงาน

JIS  l  = ISO  4H  การใช้งาน : แน่นไม่มีระยะเผื่อ

JIS  ll = ISO 6H การใช้งาน : แน่นพอดี (เป็นที่นิยม)

JIS lll = ISO 7H การใช้งาน: แน่นแต่มีระยะเผื่อ

จะเลือกใช้งาน Class ไหน ก็ลองดู Spec งานให้เหมาะสมได้เลยครับ

    ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้งานและการส่งเครื่องมือมาสอบเทียบ

ทุกวันนี้ทางห้องปฏิบัติการ CLC ของเรา รับมาสอบเทียบทุกวันและมีจำนวนมาก มีแทบทุกยี่ห้อและทุก Class ปัญหาที่พบเจอบ่อยๆคือ เครื่องมือที่มาบางครั้งอยู่ในสภาพที่ผ่านการใช้งานมาค่อนข้างหนักและขาดการดูแลรักษาที่ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดคราบสนิมและร่องรอย  Scratch หรือ รอยขีดขวนบริเวณร่องเกลียว ร่องรอยพวกนี้เกิดจากการใช้งานเป็นหลัก และอาจเกิดจากการใช้งานที่ผิดวิธี พวกคราบสนิม และ Scratch นี้ มันส่งผลโดยตรงกับผลการวัดและการรายงานผลใน Certificate อย่างมีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว

การเกิดคราบหรือร่องรอยพวกนี้บริเวณร่องเกลียว ซึ่งเป็นจุดที่ทาง CLC วัดค่าตรงนั้นพอดี ทำให้ผลของการวัดค่าที่ออกมาจะไปทางด้านบวกมากกว่า มาถึงตรงนี้เริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ยครับว่า..ทำไม เกจวัดเกลียวใน ซึ่งผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันนั้น ค่าที่วัดได้ถึงไปในทิศทางบวก  หรือ

Thread Plug Gauge โตขึ้น??? 

มันช่างย้อนแย้งกับความรู้สึกพอสมควร บางท่านอาจจะคิดไปถึงขั้นว่า ทางห้องปฏิบัติการ CLC สอบเทียบผิดหรือปล่าว?  รึรายงานผลใน Certificate ผิดมั้ย? ไม่แปลกหรอกครับท่านที่จะคิดแบบนั้น เป็นผมผมก็คิดครับ มีอย่างที่ไหนเครื่องมือผ่านการใช้งานมาแล้ว ใช้ๆไปจะยิ่งโตขึ้น  

แต่ตอนนี้ผมมีคำตอบในเรื่องนี้ครับ..จำที่ผมกล่าวถึงคราบสนิม,รอยขีดข่วนในร่องเกลียว หรือ Scratch ที่กล่าวไว้ด้านบนได้ไหมครับ นั่นแหละครับ เจ้าตัวปัญหาของเรื่องนี้

เพราะคราบสนิมและรอยขีดข่วน(Scratch) ที่เกิดบนผิวโลหะนั้น ถ้าเรามองด้วยตาเปล่า(บางครั้งก็ไม่เห็น) จะเห็นเป็นแค่รอยขีดข่วนธรรมดาๆ แต่ถ้าใช้เครื่องมือความละเอียดสูง เช่น Microscope ส่องดูแล้ว จะพบว่ารอยขีดข่วนนั้นจะส่งผลให้เนื้อโลหะข้างๆบริเวณที่เกิดรอยนั้นสูงขึ้น ทำให้ผลการวัดออกมาในทิศทางบวก หรือที่เราเข้าใจว่ามันโตขึ้นนั่นเอง และเมื่อนำผลการวัดไปเทียบกับ Spec แล้ว ก็อาจจะ Outspec กันเลยทีเดียว

มาถึงตรงนี้คงพอนึกภาพออกกันแล้วใช่ไหมครับ ผมจะบอกกับท่านผู้อ่าน ว่าคราบสนิมทางห้องปฏิบัติการ CLC ก็ทำความสะอาดให้ได้นิดหน่อย (ก่อนสอบเทียบมีกระบวนการทำความสะอาด) คราบพวกนี้มันฝังลงไปในเนื้อเหล็ก…ยากที่จะทำให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นรอยขีดข่วน Scratch แล้วล่ะก็ ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย เพราะยิ่งเอาอะไรไปขัด ก็ยิ่งจะไปกันใหญ่ ทางที่ดีเรามาป้องกันก่อนที่มันจะเกิด หรือเกิดให้น้อยที่สุดจะดีกว่า

การดูแลรักษา

  • ต้องมั่นใจว่า Gauge กับชิ้นงานที่จะวัด นั้นถูก Spec เพราะถ้าคนละ Spec อาจเกิดความเสียหายทั้งเครื่องมือและชิ้นงาน
  • การหมุนเข้าและออก ไปในเกลียวของชิ้นงาน ต้องค่อยๆหมุน และตัวเครื่องมือต้องตั้งฉากกับชิ้นงาน เพื่อป้องกันความเสียหายของเกลียว
  • ถ้ารู้สึกว่าแน่นหรือคับไป ให้หยุดและค่อยๆคลาย Gauge ออกช้าๆ
  • พยายามอย่าให้เครื่องมือตกหรือกระทบกับของแข็ง เพราะจะเกิดความเสียหายของเกลียว
  • ก่อนและหลังใช้งาน ควรทำความสะอาดเครื่องมือโดยเฉพาะตรงร่องเกลียวของ Gauge ให้สะอาดด้วยแปรงขนอ่อน อาจจะชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำมันเอนกประสงค์ ค่อยๆแปรงบริเวณร่องเกลียว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและป้องกันสนิม

ก็หวังว่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเรื่อง Thread Plug Gauge ที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า ขอบคุณครับ

 

ผู้เขียน CHOK_AM

 

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด  ซื้อเครื่องมือวัด

ทำความรู้จักกับ V-Block และข้อควรระวังการใช้

1. เครื่อง วีบล็อค (V-Block) ใช้ทำอะไร

  • เครื่องมือวัด วีบล็อค เอาไว้ยึดจับชิ้นงานได้หลากหลายประเภท และหลากหลายขนาดโดยการทำงานจะต้องนำชิ้นงานเอามาวางให้อยู่ในร่องตัว V ของตัววีบล็อคซึ่งเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่จึงสามารถเคลื่อนย้ายนำเอาไปใช้งานได้ดี

2. ทำไมต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด 

  • เครื่องมือวัด ที่นำไปใช้ในขั้นตอนหรือกระบวนการผลิตในประเภทของกลุ่มงานอุตสาหกรรมรมจะต้องมีขั้นตอนและการตรวจสอบและสอบเทียบเครื่องมือวัดให้มีความถูกต้องความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ตามที่ลูกค้าได้ทำการกำหนดเอาไว้ เพราะเมื่อมีการใช้งานไปได้สักระยะค่าความคลาดเคลื่อน (error) ในการใช้งานก็ทำให้อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้นการส่งเครื่องมือวัดเข้ามา
    สอบเทียบเครื่องมือวัด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ชิ้นงานที่เราใช้วีบล็อคช่วยในการสอบเทียบ

3. เครื่องวีบล็อคมีหน่วยวัดอะไรบ้าง

  • วัด มุม (ที่มีหน่วยเป็นองศา)

4. การใช้งานที่ผิดวิธี

  • นำไปยึดจับชิ้นงานที่ไม่สามารถจับยึดกับตัวแท่นเครื่องมือวัดแน่นได้เพราะพื้นผิวไม่เรียบไม่สม่ำเสมอต่อการจับยึด และตัวชิ้นที่นำไปวางบนวีบล็อคเป็นรอยได้

5. ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ไม่ควรนำวีบล็อคไปใช้กับงานที่ยึดจับผิดประเภท เพราะอาจทำให้ผิวของตัวโลหะเครื่องมือวัดเป็นรอยได้

6. ห้อง LAB CLC สามารถสอบเทียบ V-Block

7. ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด แต่ละวิธีมีการสอบเทียบอย่างไร

  • เราจะใช้เครื่อง Coordinate Measuring Machine (CMM) ในการสอบเทียบตัวเครื่องมือวัดวีบล็อคและค่าที่สามารถได้ผลจากการสอบเทียบจะได้เป็น ค่า Angle และ ค่า Flatness 

8. ข้อดีของการสอบเทียบกับ Calibration Laboratory

  • เครื่อง Coordinate Measuring Machine (CMM) ที่ทาง CLC ใช้สอบเทียบนั้นสามารถสอบเทียบได้หลาย parameter ในตัวเครื่องมือ Standards เดียวกันจึงไม่จำเป็นต้องนำเครื่องมือไปสอบเทียบหลาย LAB

9 .หลังจากการใช้งานควรเก็บดูแลรักษา

  • เช็ดทำความสะอาดเครื่องมือหลังจากใช้งานเสร็จอยู่เสมอ
  • พ่นน้ำยากันสนิมฉีดเคลือบหรือทาวาสลีนที่ผิวของเครื่องมือและ เก็บให้เรียบร้อย

10. ข้อแนะนำในการส่งเครื่องมือเข้ามาสอบเทียบที่ CLC

  • ฉีดน้ำยากันสนิมแล้วห่อด้วยบั้บเบิ้ลเพื่อกันการกระแทกที่ตัวเครื่องมือด้วยให้เรียบร้อย

11.ในกรณีที่ตัว V-Block เป็นรอย

  • สามารถใช้แผ่นไมโคฟิล์ม(แผ่นสีเขียว)มีลักษณะคล้ายกระดาษทรายแต่แผ่นไมโคฟิล์มจะมีลักษณะละเอียดกว่าและสามารถตำมาขัดผิวงานได้โดยไม่เกิดริ้วรอย

เกร็ดความรู้ที่ควรรู้

เครื่องมือวีบล็อคที่เป็นในรูปแบบของ Magnetic (แม่เหล็ก) เมื่อเรานำตัวชิ้นงานมาวางให้ควรระมัดระวังจะเกิดการกระแทกเนื่องจากเกิดจากแรงดึงดูดของตัวแม่เหล็กได้มากกว่าวีบล็อคที่เป็นแบบปกติทั่วไป และอาจจะส่งผลกระทบต่อตัวชิ้นงานให้เกิดความเสียหายได้

ผู้เขียน Gaem Yui

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

เทคโนโลยีสุดล้ำ กับ High Accuracy Height Gage

High Accuracy Height Gage

ด้วยโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและวิวัฒนาการที่ทันสมัยมีการแข่งขันกันสูงขึ้นทุกวันจึงทำให้เราที่เป็นผู้ใช้งานได้มีฟังก์ชั่นการใช้งานของเครื่องมือเครื่องใช้ที่หลากหลาย ทันสมัยและแม่นยำมากขึ้นเพื่อทำให้สะดวกเหมาะสมกับงานใช้งานในรูปแบบต่างๆ  และวันนี้เรามีเครื่องมือวัดจาก Mitutoyo ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องมือวัดมาแนะนำซึ่งเป็นรุ่นที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งคือ Linear Height Gauge ที่มีฟังก์ชันการวัดที่แม่นยำสูงสุดของ Mitutoyo  ณ ปัจจุบัน 

High Accuracy Height Gage ของ Mitutoyo

ที่ขอแนะนำตอนนี้จะเป็นรุ่น LH-600 FG Series. เป็นระบบการวัดแบบ 2D ที่มีความแม่นยำสามารถทำได้หลายฟังก์ชั่น อีกทั้ง LH-600FG มีอินเทอร์เฟซหน้าจอที่คิดค้นออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในเรื่องการสัมผัสของหน้าจอที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและไม่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดได้ด้วยการกดปุ่มหรือผ่านไอคอนบนหน้าจอสัมผัส  จอแสดงผลเป็นรูปแบบใหม่รองรับการหมุนทั้งเป็นแบบหมุนและปรับระดับได้ของ LH-600FG ยังช่วยให้ใช้งานได้จากทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งจะสะดวกมากๆในการใช้งานโดยไม่ต้องเดินกลับไปกลับมาเพียงแค่ปรับจอแสดงผลเท่านั้น พร้อมกันนี้ LH-600 FG Series ยังมีตัวเลือกเอาต์พุตแบบใหม่ ได้แก่ เอาต์พุตดิจิทัลที่อนุญาตให้ส่งข้อมูลโดยตรงไปยังซอฟต์แวร์ Excel หรือ SPC ผ่านสายหรือไร้สาย ในขณะที่ยังคงความสามารถเอาต์พุต USB และ RS232C ไว้

 

คุณสมบัติที่ล้ำสมัย

มีความแม่นยำที่ก้าวไกลมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ดังนี้ :

  1. คุณลักษณะการตรวจสอบตัวเองใหม่สามารถตรวจจับสิ่งสกปรกหรือน้ำมันบนตัวเข้ารหัส ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือสะอาดและสามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ
  2. สามารถทำการเปลี่ยนแปลงหน่วย ความละเอียด และการวัดเดลต้าจากการอ่านครั้งก่อนได้ทันที
  3. ระบบตลับลูกปืนลมช่วยให้เลื่อนเกจวัดความสูงไปรอบๆ ได้ง่าย 
  4. โหมดกึ่งลอยช่วยให้สามารถเลื่อนได้ง่ายขึ้นขณะทำการวัด แม้จะมีชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมาก
  5. ความสามารถด้านมอเตอร์ ให้ความสามารถในการทำซ้ำและการทำซ้ำที่ดีขึ้นพร้อมกับโหมด 2D ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อวัดมุม วงกลมรูโบลต์ และอื่นๆ
  6. มีฟุตสวิตช์เสริมใหม่สำหรับการวัดปริมาตรซ้ำแบบแฮนด์ฟรี
  7. ตัวเลือกหัววัดหลายตัว (ทางเลือก) และตำแหน่งหัววัดสามารถเปลี่ยนได้เพื่อการวัดค่าความตั้งฉากและความ ตรงที่ดีขึ้น
  8.  ความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม (1.1+0.6L/600)μm พร้อมความละเอียด 0.1μm/0.5μm/ความสามารถในการทำซ้ำ

ด้วยคุณสมบัติที่เขียนมาทั้งหมดนี้ของ High Accuracy Height Gage รุ่น LH-600 FG Series.  ก็ทำให้ผู้ใช้งานสะดวก ง่าย ได้รับความรวดเร็วในการทำงานมากขึ้น หากเพื่อนๆต้องการให้การวัดเครื่องมือมีประสิทธิภาพมากขึ้นแนะนำเลยค่ะ ถ้ามีความสนใจในตัวเครื่องมือสามารถติดต่อทาง บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ของเราได้ ทางเรายินดีให้คำแนะนำพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญของทาง Mitutoyo  ด้วยเช่นกันค่ะ 

 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

สอบเทียบเครื่องมือวัด Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัดละเอียด 3 แกน (Layout Machine) วัดรถยนต์ได้ทั้งคัน!

 

ทำความรู้จักไม้บรรทัดเหล็ก ให้มากขึ้นด้วยบทความนี้

ทำความรู้จัก ไม้บรรทัดเหล็ก ให้มากขึ้น

STEEL RULER 

ไม้บรรทัดเหล็ก คือ เครื่องมือวัดระยะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไม้บรรทัดที่ผลิตจากวัสดุเหล็ก เป็นไม้บรรทัดเส้นตรงบอกสเกลของความยาว โดยหน่วยที่แสดงนั้นมีทั้งที่เป็นหน่วยเมตริก เช่น มิลลิเมตร (mm) เซนติเมตร (cm) และหน่วยวัดมาตรฐานอิมพีเรียลอย่างหน่วยนิ้ว (inch) ทั้งนี้ ที่ต้องใช้เหล็กเป็นวัสดุในการทำเพราะคงทนต่อการใช้งาน สเกลไม่เปลี่ยนแปลงง่าย เพราะไม่ยืด ลอกช้า ร่องขีดสเกลชัดเจน สามารถทนได้ทุกการใช้งาน เราจะใช้ไม้บรรทัดในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอในการวัดความยาวผ้า อุตสาหกรรมยานยนต์ในการวัดชิ้นงานต่างๆ ส่วนประกอบของรถยนต์หรือชิ้นงานต่างๆ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในการวัดชิ้นงาน วัดขนาดบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการผลิต ไม้บรรทัดมีความจำเป็นอย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรม เป็นเครื่องมือวัดชนิดนึงที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และเป็นเครื่องมือวัดที่ใช้งานง่ายสุด เราต่างใช้งานไม้บรรทัดมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มจากการตีเส้นบรรทัดไปจนถึงวาดรูปต่างๆ ดังนั้นเราทุกคนล้วนได้ผ่านการใช้งานเครื่องมือไม้บรรทัดเหล็กนี้มาแล้วทั้งสิ้น

ทำไมถึงต้องสอบเทียบ STEEL RULER (ไม้บรรทัดเหล็ก) ???

        แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องใช้ไม้บรรทัดในการวัดมิติของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกว้าง ความยาว ของสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสอบเทียบเครื่องมือไม้บรรทัด เพื่อจะเป็นการยืนยันได้ว่าไม้บรรทัดที่เราใช้งานนั้น สเกลที่แสดงอยู่ยังมีค่าที่ตรงอยู่ ไม่ผิดเพี้ยนไป เพราะหากเราวัดผิดไปเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ชิ้นงานหรือสิ่งที่เรานำไปวัดนั้นผิดไป เราอาจจะเสียงานชิ้นนั้นเลยก็ได้ เพราะค่าผิดจากไม้บรรทัดที่เราใช้ จะเห็นว่าราคาไม้บรรทัดเหล็กในท้องตลาดมีราคาถูกมาก ในหลายครั้งค่าสอบเทียบยังมีราคาสูงกว่าซื้อใหม่ แต่ทำไมถึงยังมีลูกค้าหรือผู้ใช้งานส่งเครื่องมือไม้บรรทัดเหล็กมาสอบเทียบ ก็เพราะต้องการให้ห้องปฏิบัติการสอบเทียบยืนยันค่าว่าไม้บรรทัดของเขามีสเกลที่แสดงค่าที่เที่ยงตรงหรือไม่ และต้องการมีใบ CERTIFICATE รับรองเครื่องมือดังกล่าว ว่าได้มาตรฐานและสามารถใช้วัดชิ้นงานในอุตสาหกรรมของผู้ใช้งานได้

การใช้งานเครื่องมือเบื้องต้น

  1. วางชิ้นงานหรือสิ่งของที่ต้องการจะวัดบนพื้นที่เรียบ
  2. ใช้ไม้บรรทัดเหล็กมาวัด โดยเอาสเกลที่ 0 (ศูนย์) เป็นจุดเริ่มต้น และวัดความยาวของสิ่งต่างๆเรานั้น อ่านค่าจากจุดที่สิ้นสุดที่ต้องการจะวัด ห้ามไม่ให้ไม้บรรทัดโค้งงอ เพราะค่าที่วัดได้จะอ่านค่าผิดเพี้ยนไป ต้องทำให้ไม้บรรทัดเหล็กตรงขณะวัด
  3. อ่านค่าจากปลายสเกลของสิ่งที่วัดโดยดูได้จากทั้งสเกลบนและสเกลล่างของชิ้นงานหรือสิ่งของนั้นๆ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  1. ต้องระวังไม้บรรทัดเหล็กโค้งงอระหว่างการวัด เพราะจะทำให้เครื่องมืออ่านค่าผิด
  2. เวลาอ่านค่า สเกลของไม้บรรทัดต้องอยู่ระดับสายตา

CLC ให้ บริการสอบเทียบ เครื่องมือวัด หรือทำอะไรให้ลูกค้าได้บ้าง

CLC สามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัด ไม้บรรทัดเหล็กให้ลูกค้าได้ โดยทาง CLC ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ในเครื่องมือนี้ด้วย โดยได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ทั้งของในประเทศไทยอย่าง สมอ. และการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง ANAB โดยได้รับการรับรองที่ RANGE 0 – 2000 mm
หรือ สามารถดูรายละเอียด Scope ได้ที่นี่ คลิก

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือ ก่อนใช้งานและหลังใช้งาน

  1. วางให้ห่างน้ำหรือที่เปียก เพราะอาจทำให้เกิดสนิม
  2. หมั่นทำความสะอาดเครื่องมือก่อนและหลังใช้งาน เพื่อความสะอาดและป้องกันฝุ่นเข้าไปสะสมที่ร่องสเกลของเครื่องมือ
  3. ควรเก็บในกล่องหรือวางไว้ในที่หยิบใช้สะดวก
  4. ควรมีซองใส่หรือกล่อง วางในที่เรียบ เพื่อป้องกันไม้บรรทัดเหล็กโค้งงอ

ผู้เขียน จุ๊บจิ๊บ วีไอพี

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

เครื่องตัดชิ้นงานตัวอย่างแบบใบมีดทรงกลม คืออะไร?

เครื่องตัดชิ้นงาน ตัวอย่างแบบใบมีดทรงกลม (Circular Sample Cutter)

Circular Sample Cutter เป็น เครื่องมือวัด ประเภทใช้ในการตัดชิ้นงาน ซึ่ง เครื่องตัดชิ้นงาน สำหรับตัดส่วนตัวอย่างของผ้า ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทั้งแบรนด์ชั้นนำที่มีฐานการผลิตในประเทศก็ใช้กันทุกโรงงาน โดยใช้เครื่องมือดังกล่าวในการตัดชิ้นส่วนตัวอย่างผ้า ในลักษณะวงกลม โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 113 มิลลิเมตร (mm)

เครื่องตัดชิ้นงาน ตัวอย่างแบบใบมีดทรงกลม (Circular Sample Cutter) แบบที่ผู้เขียนพูดถึงจะมีเพียงลักษณะเดียว ตามรูป ซึ่งจะแตกต่างแค่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง อันนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานว่าต้องการใช้ที่ขนาดเท่าไหร่ ส่วนตัวผู้เขียนเองที่พบเจอบ่อยๆก็จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 113 มิลลิเมตร (mm) และจะแตกต่างที่สีและวัสดุอุปกรณ์อันนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อว่าแต่ละยี่ห้อเป็นสีอะไร ใช้วัสดุอะไร ก็ทำให้ราคาต่างกัน

เราจำเป็นที่ต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด ดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าตัวชิ้นงาน, ผ้าที่ตัดออกมาเป็นตัวอย่างนั้นมีขนาดเท่ากับที่ต้องการจริงๆ เราจำเป็นต้องวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (DIAMETER) ดังกล่าว
ในการสอบเทียบ Circular Sample Cutter นั้นทาง CLC สามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัด ดังกล่าวได้ และได้รับการรับรอง
ISO/IEC 17025:2017 จากต่างประเทศอย่าง ANAB (สหรัฐอเมริกา) ใน Parameter Dimension

ที่ผ่านมาทาง CLC ก็รับเครื่อง Circular Sample Cutter มา สอบเทียบเครื่องมือวัด จำนวนมาก และทาง Calibration Laboratory CLC เองก็มีจำหน่ายเครื่องมือดังกล่าวพร้อมสอบเทียบให้กับลูกค้า

วิธีการตรวจเช็คเครื่องมือก่อนการสอบเทียบ

  1. ตรวจเช็คเครื่องมือทางกายภาพก่อนว่าเครื่องมือพร้อมที่จะสอบเทียบหรือไม่
  2. ตรวจเช็คใบมีดว่าขาด หรือแตก หัก หรือไม่ ขึ้นสนิมหรือไม่
  3. เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเครื่องมือและใบมีดก่อนทำการสอบเทียบ
  4. เจ้าหน้าที่ทำการสอบเทียบวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง (DIAMETER) ของใบมีด
  5. บันทึกค่าผลการวัด
  6. ทำความสะอาดเครื่องมือก่อนนำเข้าสโตร์ เตรียมจัดส่งคืนลูกค้า

ทั้งนี้ผู้ใช้งานเครื่องมือเองก็สามารถตรวจเช็คเครื่องมือเช่นเดียวกับที่ทาง CLC ทำ เพื่อเป็นการรักษาเครื่องมือให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น

วิธีการใช้งาน

  1. เอาผ้ามาวางบนแท่นที่เรียบและใบมีดไม่สามารถตัดเข้าได้
  2. เอาเครื่อง Circular Sample Cutter มาทาบบริเวณที่ต้องการจะตัด
  3. หมุนเกลียวที่ด้านบน และกดบนลงเนื้อผ้า
  4. ยกตัว Circular Sample Cutter ออก ก็จะได้ชิ้นผ้าที่ตัด

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือหลังการใช้งาน

  1. หลังการใช้งานควรเก็บใส่กล่อง หรือที่ที่จะไม่ทำให้เครื่องมือร่วง เพราะใบมีดอาจแตกหักได้
  2. หลังการใช้งาน ไม่ควรวางเครื่องมือใกล้น้ำเพราะอาจทำให้เกิดสนิมที่ใบมีดได้
  3. หลังการใช้งานควรทำความสะอาดใบมีดเสมอ เพราะถ้าเศษผ้าไปติดอยู่มาก จะทำให้การใช้งานครั้งต่อไป หรือการตัดผ้าครั้งต่อไปตัดไม่ดี ใบมีดไม่คม
  4. ตรวจสอบตัวขัน, ตัวหมุนที่ทำให้ใบมีดตัด ว่าเกลียวยังปกติ ไม่รูด

ผู้เขียน Jib VIP

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

วิธีการใช้งาน Radius Gauge (เกจวัดรัศมี) และการสอบเทียบเครื่องมือวัด

Radius Gauge (เกจวัดรัศมี)

หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เกจวัดรัศมี เป็น เครื่องมือวัด ที่ใช้วัดความโค้งของชิ้นงาน มี 2 แบบ คือ วัดโค้งด้านนอกกับวัดโค้งด้านใน ซึ่งสามารถวัดได้ละเอียดถึง 0.01 มิลลิเมตร (mm) 

ทำไมต้องสอบเทียบ Radius Gauge

การ สอบเทียบเครื่องมือวัด (Calibration) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยตรวจสอบว่าเครื่องมือวัดยังมีความเที่ยงตรงและแม่นยำอยู่หรือไม่ ตามมาตรฐานในระดับสากล

เมื่อเครื่องมือเกจวัดรัศมีถูกใช้งานไประยะหนึ่ง เครื่องมือวัดอาจมีการเสื่อมสภาพสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากการใช้งานและการเก็บรักษา สิ่งที่ตามมาคือ ค่าการวัดของเครื่องมือที่เคยมีความถูกต้อง เที่ยงตรง อาจบอกค่าที่คลาดเคลื่อนไปจากเดิม ส่งผลให้เครื่องมือไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือหากนำเครื่องมือดังกล่าวไปใช้ในกระบวนการผลิตก็ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการออกแบบและกระบวนการผลิต

หน่วยการวัดของเครื่องมือ Radius Gauge แบ่งเป็น

  1. หน่วย Metric
  2. หน่วย Inch

การใช้งานเครื่องมือวัด

การใช้งานเครื่องมือวัดที่ถูกวิธี

ในการใช้งานเกจวัดรัศมีเริ่มต้นจากการเลือกขนาดรัศมีของ Radius Gauge ที่ต้องการ จากนั้นทาบ เครื่องมือวัด ลงบนที่รัศมีที่ต้องวัดบนชิ้นงาน โดยรัศมีของ Radius Gauge และรัศมีของชิ้นงานจะเข้ากันพอดี สามารถสังเกตดูที่จุดที่ทาบกัน จะไม่ปรากฎเป็นช่องว่าหรือไม่มีแสงรอดผ่าน

การใช้งานเครื่องมือที่ผิดวิธี

ไม่ควรใช้แรงในการดันหรือถู เครื่องมือวัด บริเวณชิ้นงานมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ เครื่องมือวัด และชิ้นงานเสียหายได้

ข้อควรระวังในการใช้งาน Radius Gauge

  1. ก่อนการใช้งาน ควรศึกษาวิธีการใช้งาน Radius Gauge ให้ถูกต้อง
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีความผิดปกติใด ๆ เช่น บริเวณรัศมีลักษณะเบี้ยว งอ รอยบิ่น สนิม เป็นต้น
  3. ในการใช้งานแต่ละครั้ง ควรทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดก่อนการใช้งานเสมอ เพราะอาจจะมีคราบน้ำมันหรือเศษผงติดอยู่
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัส เครื่องมือวัด ด้วยมือเปล่า เพราะอาจจะทำให้ Radius Gauge เกิดสนิมขึ้นได้ เนื่องจากวัสดุของเครื่องมือส่วนใหญ่ทำจากเหล็ก

วิธีการที่ CLC สอบเทียบเครื่องมือวัด Radius Gauge

การให้บริการสอบเทียบขนาด Radius Gauge ของ  CLC จะใช้วิธีการเปรียบเทียบค่ากันระหว่างเส้น Profile  Radius Gauge ที่สร้างจากเครื่อง Standard Vision Auto Measuring Instrument กับเส้น Profile Radius ของ Radius Gauge ที่แสดงบนหน้าจอในโปรแกรมของ Standard Vision Auto Measuring Instrument และทำการอ่านค่ารัศมีที่แสดงบนหน้าจอ

ขั้นตอนการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เกจวัดรัศมี

  1. ทำความสะอาด Radius Gauge ที่ต้องการสอบเทียบด้วยแอลกอฮอล์เพื่อขจัดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกและทิ้งไว้ในอุณหภูมิ 20+1 °C ประมาณ 1ชั่วโมงก่อนทำการสอบเทียบ
  2. ทำการสอบเทียบโดยการนำ Radius Gauge วางลงบนเครื่อง Standard Vision Auto Measuring Instrument และทำการวัดโดยการลากเส้น Radius Gauge ของ Program จากเครื่องมือ Standard ไปทาบบนเส้นรัศมีของ Radius Gauge และอ่านค่ารัศมีที่อ่านได้จากเครื่อง Standard Vision Auto Measuring Instrument 

เครื่องมือ STD ของเรา

Standard Vision Auto Measuring Instrument ของ CLC มีค่าความละเอียดสูงที่สุดเท่ากับ 0.0001 mm มีอัตราการขยายของกล้องเลนส์สูงถึง 544X และมีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำส่งผลให้มีความแม่นยำค่อนข้างสูงมีค่า Uncertainty เล็ก สามารถทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมั่นและสามารถใช้ค่าสอบเทียบได้อย่างมั่นใจว่างานมีคุณภาพ และวิธีการสอบเทียบเครื่องมือวัด Radius Gauge จาก Calibration Laboratory ยังได้รับการรับรองมาตรฐานการสอบเทียบ ISO17025:2017 จากสมอ. และ ANAB อีกด้วย

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือ เกจวัดรัศมี ก่อนการใช้งานและหลังการใช้งาน

ก่อนการใช้งาน

  1. ทำความสะอาด เครื่องมือวัด ขนาดที่ต้องการใช้งานเพื่อขจัดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกออกก่อนนำมาใช้งาน
  2. ตรวจสอบลักษณะทางกายภาพว่ารัศมีเบี้ยว บิด งอ เป็นสนิม หรือมีอะไรผิดปกติหรือไม่

หลังการใช้งาน

  1. ทำความสะอาดแผ่น Radius Gauge หลังการใช้งานให้เรียบร้อย
  2. ชโลมน้ำมันเคลือบเพื่อป้องกันสนิม
  3. เตรียมภาชนะหรือกล่องจัดเก็บเครื่องมือให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายของตัวเครื่องมือ

ข้อแนะนำเมื่อต้องการส่งเครื่องมือมาสอบเทียบเครื่องมือวัด

เครื่องมือควรเคลือบสารป้องกันสนิมและมีกล่องใส่อย่างเรียบร้อย ถ้าไม่มีกล่องเครื่องมือควรห่อ Bubble มาเพื่อลดแรงกะแทกหรือสิ่งที่จะส่งผลต่อการที่จะทำให้เครื่องมือชำรุด กะแทกตกหล่น ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเครื่องมือและอาจส่งผลให้ค่าสอบเทียบอาจมีความคลาดเคลื่อนได้

ผู้เขียน L2 ULM

 

สอบเทียบเครื่องมือวัด Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัดละเอียด 3 แกน (Layout Machine) วัดรถยนต์ได้ทั้งคัน!

ทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัดละเอียด 3 แกน (Layout Machine) วัดรถยนต์ได้ทั้งคัน!

เครื่องมือวัด Layout Machine เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เป็นประจำ เพื่อมั่นใจได้ว่าเครื่องยังให้ค่าที่เที่ยงตรง  ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานในการวัดได้อย่างหลากหลายรูปแบบ มีให้เลือกใช้งานตามลักษณะงาน สามารถวัดได้ทั้งแนวแกน X, แนวแกน Y และแนวแกน Z ลักษณะการทำงานของตัวเครื่องมือนั้น เป็นแบบ Manual โดยเคลื่อนตัวผ่านแท่นหิน (Granite) หรือแท่นเหล็ก (Iron) โดยในแต่ละแนวแกนจะมีแถบ Scale เป็นตัวอ่านค่า เครื่องมือชนิดนี้เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งสามารถทำการวัดรถยนต์ได้ทั้งคัน

โดย เครื่องมือวัดละเอียด 3 แกน จะมีหน่วยวัดดังนี้

  1. มิลลิเมตร (mm)
  2. นิ้ว (inch)

การเลือกใช้หน่วยวัดขึ้นอยู่กับการใช้งาน

ประเภทของ เครื่องมือวัดละเอียด 3 แกน  (Layout Machine)

  1. แบบดิจิตอล (Digital) ชนิดนี้จะนิยมใช้อย่างแพร่หลายเนื่องจากง่ายต่อการใช้งานและการอ่านค่า
  2. แบบ Scale ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือรุ่นเก่าโดยจะมีแถบ Scale ติดอยู่ทั้ง 3 แนวแกน ค่อนข้างยากต่อการใช้งานจึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก

การใช้ เครื่องมือวัด ที่ถูกวิธี

ในการใช้งานวัดชิ้นงานในแต่ละครั้งต้องแน่ใจว่าได้ทำการ Alignment  ชิ้นงานได้ถูกต้องตามจุดอ้างอิงที่ Drawing ได้กำหนดไว้เพื่อให้ได้ผลการวัดนั้นออกมาถูกต้องและแม่นยำที่สุด รวมไปถึงแนวแรงที่หัว Probe กระทำกับตัวชิ้นงานนั้นต้องทำมุม 90 องศากับตัวชิ้นงานเสมอ

การตรวจสอบสภาพเครื่องวัดละเอียด 3 แกน

  1. ตรวจสอบการทำงานการเคลื่อนตัวของแนวแกนทั้ง 3 แนวแกนว่าต้องสามารถอ่านค่าได้ครบจนสุดตลอดทั้งแนวแกน
  2. ตรวจสอบสภาพของพื้นผิวโต๊ะระดับว่ามีคราบสนิมหรือคราบน้ำมันติดอยู่หรือไม่
  3. ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์เสริมอื่นๆของเครื่องให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  1. ระมัดระวังอย่าให้วัสดุที่มีความเป็นแม่เหล็กโดนบริเวณที่เป็นแถบ Linear Scale เพราะจะทำให้แถบ
    Linear Scale เกิดความเสียหาย
  2. อย่าให้เกิดคราบสนิมบนชิ้นส่วนต่างๆของตัว เครื่องมือวัด เพราะจะส่งผลต่อการวัดงานและจะทำให้ชิ้นส่วนเกิดความเสียหาย
  3. ระมัดระวังการชนหรือกระแทกกับตัวชิ้นงาน
  4. ระมัดระวังการกระแทกที่ทำให้เกิดรอยบิ่นบนโต๊ะระดับ เพราะจะส่งผลต่อผลการวัด หากทำการ Alignment โดยใช้โต๊ะระดับเป็นจุดอ้างอิงในการวัดชิ้นงาน

วิธีการที่ใช้ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด

โดยในการ สอบเทียบ เครื่องวัดละเอียด 3 แกน จะสอบเทียบเป็นสองส่วนดังนี้

  1. แกนวัดงานจะทำการ สอบเทียบเครื่องมือวัด โดยใช้ Laser Interferometer (Linear Measurement) โดยจะ สอบเทียบเครื่องมือ แบบ Non-Contact ทำการติดตั้งตัว Laser Interferometer เข้ากับแกนของเครื่องวัดละเอียด 3 แกน
    และทำการ Move เพื่อทำการเก็บค่า โดยทำจนครบทุกแนวแกน
  2. โต๊ะระดับสอบเทียบโดยใช้เครื่องมือ STD เป็น Electronic Level ในการวัดหาค่าความเรียบของโต๊ะระดับ

ผู้เขียน Tom

 

 

สอบเทียบเครื่องมือวัด Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

เตเปอร์เกจ (Taper Gauge) คืออะไร ใช้งานอย่างไร

เตเปอร์เกจ (Taper Gauge) คืออะไร ใช้งานอย่างไร

สวัสดีครับวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัด ทาง Dimension ที่มีชื่อเรียกว่า เตเปอร์เกจ  (Taper Gauge) ว่ามันใช้ทำอะไร ใช้งานอย่างไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้างนะครับ ถ้าเรามองดูผิวเผินนั้นหน้าตาตัวเตเปอร์เกจนั้น จะมีความคล้ายคลึงกับไม้บรรทัดเป็นอย่างมาก (Steel Ruler) โดยจะมีลักษณะมีความยาวและมีเส้นสเกลบ่งบอกถึงระยะเป็นหน่วย มิลลิเมตร (mm) แต่จะมีความแตกต่างกันก็คือ เตเปอร์เกจจะมีลักษณะปลาย ปลายด้านล่างจะมีลักษณะปลายแหลมแล้วค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นไปด้านบน เป็นแบบสามเหลี่ยมแนวยาว ซึ่งจะแตกต่างกับไม้บรรทัดเพราะไม้บรรทัดจะมีขนาดที่เท่าๆกันตั้งแต่เริ่มสเกลจนจบสเกล
โดยวัสดุที่ใช้ผลิตโดยทั่วไปก็จะใช้เป็นสแตนเลสสติล หรือ พลาสติกเป็นส่วนใหญ่

Taper Gauge (เตเปอร์เกจ) ใช้งานอย่างไร?

     เครื่องมือวัดเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูในของชิ้นงานต่างๆ ขนาดของช่องว่าง (Gap) หรือวัดความกว้างของหลุม วัดขนาดของหลุม และยังใช้วัดขนาดของแปลนต่างๆ โดยสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการวัดความกว้างของช่องว่าง ให้ทางผู้ใช้งานสอดตัวเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) เข้าไปในรูหรือช่องว่างของชิ้นงานเพื่อที่จะได้อ่านค่าจากขีดแบ่งสเกลที่ไม่สามารถสอดเข้าไปได้ และหากต้องการใช้สำหรับการวัดส่วนต่างๆที่เป็นแนวนอน ให้วางเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) ไว้ด้านข้างที่มีระดับความสูงเดียวกันเพื่อจะได้อ่านค่าจากสเกล โดยเครื่องมือเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) นั้นจะมีการใช้งานกันอย่างแพร่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์  อุตสาหกรรมเครื่องบินและซ่อมบำรุง อุตสาหกรรมท่อ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องการทราบขนาดของรูชิ้นต่างๆเพื่อที่จะลดความผิดพลาดในการผลิตชิ้นงานต่างๆก็สามารถนำเครื่องมือเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) ไปใช้งานได้

 

ข้อควรระวังการใช้งานเตเปอร์เกจ

ปัจจัยหลักๆที่ควรคำนึงถึง หากผู้ใช้งานต้องการที่จะลดความคาดเคลื่อนในการผลิตนั้น ความแม่นยำของเครื่องมือเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นทางผู้ใช้งานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสอบเทียบ( Calibration )
เครื่องมือเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) กับห้องปฏิบัติการที่ได้การรับรอง Accredited ISO/IEC17025:2017

 

การสอบเทียบเตเปอร์เกจ (Calibration Taper Gauge)

            หากทางผู้ใช้งานต้องการ สอบเทียบเครื่องมือวัดเตเปอร์เกจ (Calibration Taper Gauge) ทางเรามีความยินดีที่จะให้บริการกับทางผู้ใช้งาน ดังนี้

โดย บริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด มีการให้บริการสอบเทียบเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) โดยได้การรับรอง Accredited ISO/IEC 17025:2017 ของสถาบัน ANAB และทาง สมอ. ตั้งแต่ Range 0 – 60 mm Uncertainty of Measurement ± 4 m
โดยมีบริการรับ-ส่งเครื่องมือฟรี และยังให้บริการสอบเทียบเครื่องมืออีกมากมายและครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยในการที่ผู้ใช้งานที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้งาน เครื่องมือวัดเตเปอร์เกจ (Taper Gauge) ได้นำไปใช้ประกอบการใช้งาน ขอบคุณครับ

 

ผู้เขียน THM Melo

 

 

สอบเทียบเครื่องมือวัด Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ทริคการใช้และเก็บรักษา ตลับเมตร ที่คุณอาจไม่เคยรู้

Steel Tape หรือ ตลับเมตร เป็น เครื่องมือวัด ใช้สำหรับวัดขนาดชิ้นงาน หรือ นำไปใช้วัดระยะความสั้น ความยาว ได้หลากหลาย ตลับเมตรจะเป็นตลับสี่เหลี่ยมๆ หรือ กลมๆ ที่ปลายสายวัดของตัวตลับเมตรจะมีตะขอเล็กๆ ยื่นออกมาไว้ใช้สำหรับเกี่ยวยึด ส่วนด้านบนตลับเมตรก็จะมีปุ่มล็อก เวลาใช้งานถ้าดึงตลับเมตรวัดระยะได้ตามความต้องการแล้วกดตัวล็อกลงเพื่อล็อกสเกลให้อยู่ในตำแหน่งที่กำหนดซึ่งสเกลบนตัวตลับเมตรมีคุณสมบัติที่ใช้บอกขนาดอ่านค่า ความกว้าง ความยาว ความสูง หรือความหนาตัวเลขบนสเกลตลับเมตรทั่วไปจะใช้เป็นหน่วย มิลลิเมตร (mm.), เซนติเมตร (cm), เมตร ( m ), นิ้ว (inch) ตลับเมตรจะมีอยู่หลายขนาดขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของลูกค้า เช่น 3 เมตร , 5 เมตร , 10 เมตร

วิธีการอ่านค่าตลับเมตรเบื้องต้น

  • 10 มิลลลิเมตร (mm) = 1 เซนติเมตร (cm)
  • 2.54 เซนติเมตร (cm) = 1 นิ้ว (inch)  
  • 30 เซนติเมตร (cm) หรือ 12 นิ้ว (inch) = 1ฟุต
  • 12 นิ้ว = 1 ฟุต
  • 100 เซนติเมตร (cm) = 1 เมตร (m)

วิธีการใช้ตลับเมตรเบื้องต้น

การใช้ตลับเมตรใช้มือจับไปที่ปลายตลับเมตรแล้วค่อยๆดึงออกจากตลับให้ได้ระยะที่ต้องการนำตรงปลายตะขอของตลับเมตรไปเกี่ยวยึดไว้อีกฝั่งหาตัวยึดจับให้แน่นสามารถใช้ตัวกดล็อกเพื่อล็อกสายตลับเมตรไม่ให้ดีดกลับเข้าม้วนหลังจากนั้นก็อ่านค่าจากตลับเมตรที่วัดได้และทำเครื่องหมายหรือสัญญาลักษณ์กำกับเอาไว้ ไม่ควรดึงสายตลับเมตรออกมาจนสุดและเมื่อจะปล่อยสายตลับเมตรกลับคืนเข้าม้วนตามเดิมต้องค่อย ๆ ปล่อย ถ้าปล่อยเร็วจนเกินไปปลายของตัวเกี่ยวตลับเมตรอาจจะชำรุดเสียหายได้ หลีกเลี่ยงการใช้ของแข็งหรือของมีคมขูดลงและกดทับลงบนหน่วยการวัดซึ่งอาจจะทำให้หน่วยการวัดตรงที่เป็นตัวเลขชำรุด ทำให้อ่านค่าลำบาก

การดูแลบำรุงรักษา ตลับเมตร

ควรดูแลระวังรักษาตะขอเกี่ยวปลายตลับเมตรอย่าดึงแรงจนเกินไปอาจทำให้ปลายขอหัก หรือ บิด งอ ถ้าต้องนำตลับเมตรไปใช้งานในประเภทที่ตัวตลับเมตรต้องสัมผัสกับพื้นดินก่อนปล่อยสายตลับเมตรกลับเข้าม้วนควรตรวจเช็ดและทำความทำความสะอาดว่ามี ดิน , ทราย , เศษหิน เกาะติดอยู่ตามสายตลับเมตรด้วยหรือเปล่าเพราะไม่งั้นเครื่องมืออาจชำรุดเสียหายได้และอาจจะนำมาใช้ในครั้งต่อไปไม่ได้อีก
หลีกเลี่ยงการดึงสายตลับเมตรเร็วหรือกระชากแรงเกินไป เพราะอาจทำให้สายเมตรค้างหรือม้วนกลับไม่เข้าที่

  1. ไม่ควรปล่อยให้ตลับเมตรตกหรือกระแทกพื้น โดยเฉพาะบริเวณตัวตลับ เพราะอาจทำให้ภายในเสียหาย
  2. ตรวจสอบสภาพสายเมตรก่อนใช้งานทุกครั้ง หากมีรอยขาด บิ่น หรือสนิมเกาะ ไม่ควรนำมาใช้เพราะอาจทำให้วัดค่าไม่แม่นยำ
  3. หลังใช้งานในพื้นที่ชื้นหรือเปียกน้ำ ควรเช็ดให้แห้งและเก็บในที่อากาศถ่ายเท เพื่อป้องกันสนิมและการใช้ติดขัด
  4. ไม่ใช้ตลับเมตรในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงหรือแสงแดดจัดเป็นเวลาน เพราะอาจทำให้เสื่อมสภาพเร็ว
  5. เก็บตลับเมตรในที่เหมาะสม เช่น กล่องหรือกระเป๋าเก็บเครื่องมือ เพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้น

รูปแบบของ Steel Tape Measure

 

 

 

 

ซึ่งทางบริษัท Calibration Laboratory เรามีบริการสอบเทียบเครื่องมือวัด Steel Tape ครอบคลุม Range ตั้งแต่ 0-50 m
ได้รับการรับรอง ISO/IEC17025:2017 ทั้งสมอ. (ไทย) และ ANAB (สหรัฐอเมริกา) และมีระยะเวลาการสอบเทียบเครื่องมือพร้อมออกใบรายงายผล Certificate  5 7 วันทำการ และยังมีบริการรับ-ส่งเครื่องมือฟรีด้วยนะคะ

ผู้เขียน APPLE SIS

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา