คลังเก็บป้ายกำกับ: Dimension’s Article

Linear Scale หรือ Litematic คืออะไร พร้อมวิธีการสอบเทียบ

เครื่อง LITEMATIC หรือ Linear Scale คือ เครื่องมือวัด ที่ออกแบบมาสำหรับการวัดชิ้นงานที่เปลี่ยนรูปได้ง่ายและชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูง เพราะมีกำลังวัดต่ำ 0.01 N เหมาะสำหรับการวัดชิ้นงานที่บอบบาง แกนหมุนของเครื่องจะเคลื่อนที่ด้วยมอเตอร์เลื่อนขึ้นเลื่อนลงและหยุดเมื่อสัมผัสชิ้นงานความละเอียดของเครื่อง 0.01 ไมโครเมตร ตัวTABLE จะเป็นเซรามิก เพื่อป้องการการกัดกร่อน เราสามารถพบ เครื่องมือวัด ชนิดนี้ตามโรงงานอุตสาหกรรมผลิตถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอลูมิเนียมหรือแผ่นฟิล์ม เป็นต้น

การสอบเทียบเครื่องมือ LITEMATIC หรือ Linear Scale

เครื่องมือ STANDARD ที่ใช้ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด จะใช้ GAUGE BLOCK ในการสอบเทียบ และห้องที่ต้องใช้ในการสอบเทียบจำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 20 ± 1 °C เพื่อความแม่นยำในการสอบเทียบ

ขั้นตอนการสอบเทียบเครื่องมือวัด

1. เช็ดทำความสะอาด GAUGE BLOCK และเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องอย่างน้อย 1 ชั่วโมง 

  1. ทำความสะอาดเครื่อง LITEMATIC ให้สะอาด ไม่มีฝุ่นผง เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่มีความละเอียดสูงไม่ควรมีฝุ่นผงติดตามเครื่องมือ
  2. เมื่อทิ้งไว้ครบ 1 ชั่วโมงแล้วให้เลือกใช้ GAUGE BLOCK ชิ้นที่จะใช้สอบเทียบตามช่วงที่ใช้งานจริ

  1. กดลูกศรเลื่อนลงที่หน้าเครื่องเพื่อให้หัว Probe เลื่อนลงมาแตะที่ Table ให้สนิทแล้วกด zero ที่หน้าเครื่อง บางเครื่องไม่ได้เป็นแบบระบบ auto ต้องใช้มือในการจับเลื่อนหัว Probe ทำให้อาจมีความคลาดเคลื่อนในการวัดเพราะน้ำหนักที่ลงลงได้ไม่เท่ากัน
  2. เมื่อเครื่อง LITEMATIC หรือ Linear Scale โชว์ค่าที่หน้าจอ DIGITAL เป็น Zero หรือแสดงผลเป็นเลขศูนย์ทั้งหมดแล้วให้กดลูกศรขึ้นเพื่อเลื่อนหัว Probe ขึ้น
  3. เมื่อหัว Probe เลื่อนขึ้นแล้วให้นำ Gauge Block ที่ได้เช็ดทำความสะอาดและอยู่ในอุณหภูมิที่คงที่อย่างน้อย 1 ชั่วโมงมาทำการวางบน Table ของเครื่อง LITEMATIC วิธีการวางให้วางตรงกลางตรงกับหัว Probe และ Gauge Block ต้องแนบสนิดกับตัว Table
  4. กดลูกศรเลื่อนลงหน้าเครื่อง LITEMATIC เพื่อให้หัว Probe แตะที่ตัว Gauge Block แล้วจึงอ่านค่า ตัวอย่างเช่น ถ้านำ Gauge Block ก้อน 1mm วาง เครื่องก็จะต้องอ่านค่าได้ 1.000 mm เป็นต้น บางเครื่องมือมีความเป็นไปได้ที่จะมีค่า error ซึ่งค่าที่อ่านได้อาจมีความคลาดเคลื่อนโดยขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องมือและวิธีการจัดเก็บ
  5. ทำการวัดซ้ำกันอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อ Confirm ค่าที่วัดได้ ส่วนจุดสอบเทียบก็ขึ้นอยู่กับช่วงที่ใช้งานหรือแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ตามระยะของเครื่องมือ เช่น 10% full scale ตัวอย่าง เครื่อง spec 100 mm แบ่ง 10% ก็จะเริ่มวัด ที่ 10 mm ไปจนถึง 100 mm เป็นต้น 
  6. จดบันทึกผลค่าที่อ่านได้ตามระยะของชิ้น Gauge Block ถือเป็นเสร็จสิ้นการ สอบเทียบเครื่องมือวัด

สภาพเครื่องมือวัดและอุณหภูมิของห้องที่ใช้จัดเก็บเครื่องมือมีผลในการวัด ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลในคู่มือและจัดเก็บไว้ในห้องที่เหมาะสมเพื่อความเที่ยงตรงในการใช้งาน

 

ผู้เขียน Onsite

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

เครื่อง Image Dimension Measurement System คืออะไร และวิธีการสอบเทียบ

 เครื่อง Image Dimension Measurement System  คือ  เครื่องมือวัด ที่ล้ำสมัยสามารถสแกนภาพหรือวัดเครื่องมือในรูปแบบสามมิติโดยเพียงแค่วางชิ้นงานบนแท่นแล้วให้เครื่องทำการวัดอัตโนมัติ การสอบเทียบเครื่อง Image Dimension Measurement System จะต้องมีเครื่องมือ STD โดยเฉพาะ เครื่องมือวัด ชนิดนี้จะจัดอยู่กลุ่มประเภท Profile projector และ Microscope สามารถวัดงานได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็กหรือน็อตสกรูชิ้นส่วนพลาสติก เป็นต้น และหลายโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย

เครื่อง Image Dimension Measurement system  ยังสามารถสแกนผลการวัดเป็น drawing ต้นแบบในการวัดของชิ้นงานนั้นๆและเมื่อต้องการที่จะวัดชิ้นเพียงแค่นำชิ้นงานมาวางบนแท่นเครื่องก็สามารถตัดสินได้ว่างานชิ้นนี้ NG หรือ OK คือผ่านหรือไม่ผ่านนั้นเอง เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับงานที่จำเป็นต้องวัดชิ้นงานจำนวนมากหรือต้องการความรวดเร็วในการวัด และเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัดเครื่องมือ จำเป็นต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่สม่ำเสมอ

โดย การสอบเทียบเครื่อง Image Dimension Measurement System  นั้น เครื่องมือจะมี  Standard เฉพาะของตัวเครื่องจะทำการสแกนตัว Standard และจดจำค่า ส่วนตัว Standard ของตัวเครื่องก็ควรมีการส่งสอบเทียบด้วยเช่นกัน แต่ทุกวันนี้ก็มีบริษัทหรือห้องปฏิบัติการสอบเทียบก็มีวิธีการสอบเทียบเครื่องมือนี้

การสอบเทียบเครื่องมือนี้จะใช้ standard ใน การสอบเทียบ เป็น Standard glass scale ซึ่งขนาดความยาวที่ใช้ ขึ้นอยู่กับ Spec เครื่องมือที่จะทำการสอบเทียบ ช่วงสอบเทียบหรือช่วงใช้งานและความถูกต้อง

ขั้นตอนการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เบื้องต้น

  1. ตรวจเช็คความพร้อมของ เครื่องมือวัด ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  2. ทำการเปิดเครื่องและโปรแกรมในการวัด เครื่องแต่ละ BRAND แต่ละ MODEL การใช้งานจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรศึกษาคู่มือก่อนการสอบเทียบ
  3. เมื่อเข้าโหมดการวัดได้แล้วนำ Standard glass scale วางลงบนแท่นของเครื่อง โดยเริ่มว่างจากแนวแกน X ดังรูป
  4. กดที่โหมดสแกนในโปรแกรมเครื่องจะทำการสแกนระยะที่เราต้องการสอบเทียบ เมื่อสแกนเสร็จแล้วให้ทำการวัดโดยใช้โหมดการวัดในโปรแกรม แล้วเลือกวัดระยะในแนวแกน X แบ่งระยะในการวัดเป็นทุกๆ10%หรือแล้วแต่ว่าผู้วัดต้องการทราบค่าในระยะใด เมื่อทราบผลการวัดแล้วทำการจดบันทึกค่

ในแนวแกน Y ให้นำ Standard glass scale สลับวางในแนวไปทางด้านแกน Y แล้วทำตามขั้นตอนเหมือนในแนวแกน X

เมื่อสอบเทียบแล้วเสร็จขั้นตอนให้ทำการจดบันทึกค่าเป็นอันเสร็จสิ้นการ สอบเทียบเครื่องมือ ในส่วนของการใช้งานเครื่องมือนั้นแนะนำว่าควรศึกษาคู่มือก่อนใช้งานในทุกๆครั้ง เพราะในแต่ละรุ่นของเครื่องมือมีการใช้งานที่แตกต่างกัน

ผู้เขียน ไพศาล

 

Profile Projector คืออะไร มีวิธีการดูแลและบำรุงรักษาอย่างไร

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

 

Ring Gauge คืออะไร คุณใช้งานผิดวิธีอยู่รึเปล่า

Ring Gauge คือ เครื่องมือวัด ที่มีลักษณะเป็นวงกลม มีผิวการใช้งานอยู่ด้านใน โดยทั่วไปแล้วมักใช้งานในการตรวจสอบวัตถุที่เป็นแท่งทรงกลม และจะมีทั้งด้านที่เป็น Go และ No go จึงทำให้การใช้งานมีความสะดวกและรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานในงานที่ต้องการการตรวจสอบที่มีปริมาณงานที่ต้องตรวจสอบเยอะมากๆ

เหตุผลที่ต้องทำการสอบเทียบ Ring Gauge

เพื่อเป็นการตรวจสอบเครื่องมือวัดว่ายังได้มาตรฐานอยู่หรือไม่ เมื่อมีการใช้งานไปเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวสัมผัสด้านในเกิดการสึกหรอ ทำให้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเครื่องมือวัดมีการขยายตัวกว้างขึ้น ซึ่งหากนำเครื่องมือดังกล่าวไปใช้ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของชิ้นงานได้

หน่วยการวัดของเครื่องมือวัดจะแบ่งเป็น 2 หน่วย คือ

  1. หน่วย Metric
  2. หน่วย Inch

ซึ่งRing Gaugeจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด

  1. เหล็ก (Steel)
  2. ทังสเตน คาไบต์ (Carbide)
  3. เซรามิค (Ceramic)

การใช้งานเครื่องมือที่ถูกวิธีและการใช้ที่ผิดวิธี

ในการใช้งานเครื่องมือวัดนั้น เมื่อต้องการตรวจสอบชิ้นงาน จะต้องเลือกเครื่องมือวัดที่มีขนาดพอดีกับชิ้นงานนั้น แล้วทำการวัดโดยการสวม ในกรณีที่เกิดการฝืดหรือสวมไม่เข้าไม่ควรฝืน กดหรือยัดมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ Standard เสียหายได้ และควรใช้กับงานกับผิวสัมผัสที่เป็นผิวเรียบ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ไม่ควรจับผิวใช้งานด้านในของตัวเครื่องมือวัด
  • ไม่ควรหมุนตัวเครื่องมือในเวลาที่สวมเข้าไปในตัวชิ้นงานแล้ว
  • หลังการใช้งานเสร็จ ควรทำการเคลือบบริเวณที่เป็นผิวใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดสนิม
  • ไม่ควรฝืนกดเครื่องมือในกรณีที่สวมเข้าไม่ได้

ทาง CLC สามารถทำการสอบเทียบเครื่องมือวัดRing Gaugeได้อย่างแม่นยำด้วยเครื่อง Standard ULM ที่มีความแม่นยำสูง และมีบุคลากรที่มีประสบการณ์มากในการสอบเทียบ

 

วิธีการสอบเทียบ Ring Gauge

  1. ทำความสะอาดเครื่องมือที่ต้องการจะสอบเทียบด้วยแอลกอฮอล์ ตรวจสอบดูผิวเครื่องมือว่ามีสิ่งสกปรกหรือเป็นสนิมหรือไม่
  2. หลังจากทำความสะอาดเสร็จก็ให้วางตัว เครื่องมือวัด ทิ้งไว้ในห้องที่มีอุณภูมิ 20 ± 1°C ประมาณ 1 ชั่งโมงก่อนการสอบเทียบ
  3. ทำการสอบเทียบโดยการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางทั้งแกน X และแกน Y โดยใช้ Probe ทำการ Alignment หาจุดที่กว้างที่สุดของตัวเครื่องมือวัด แล้วทำการอ่านค่าจากเครื่อง ULM
  4. เครื่องที่ใช้ในการสอบเทียบ Standard ULM ของ CLC  มีค่าความละเอียดสูงอยู่ที่ 0.00001 mm และเครื่องมีความเสถียรทำให้ความคลาดเคลื่อนในการวัดต่ำ จึงส่งผลให้ค่าที่สอบเทียบได้มีความแม่นยำในการวัดสูง และ วิธีการสอบเทียบRing Gauge
    ยังได้การรับรองมาตรฐานการสอบเทียบ ISO/IEC 17025:2017 จาก สมอ.และ ANAB

 

วิธีการรักษา เครื่องมือวัด ก่อนการใช้งานและหลังการใช้งาน

ก่อนการใช้งาน

1.ทำความสะอาดบริเวณผิวใช้งานด้านในของเครื่องมือวัดด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด

2.ตรวจสอบผิวใช้งานว่ามีสนิมหรือรอยขีดข่วนหรือไม่

3.ควรสวมถุงมือเวลาหยิบจับเครื่องมือวัดและไม่ควรจับบริเวณผิวที่ใช้งาน

หลังการใช้งาน

1.หลังใช้งานเสร็จต้องทำความสะอาดเครื่องมืออีกครั้ง

2.ทำการเคลือบผิวเครื่องมือวัดด้านในโดยใช้วาสลีนหรือน้ำมันเคลือบเพื่อป้องกันสนิม

3.เตรียมกล่องเอาไว้สำหรับจัดเก็บเครื่องมือ

 

ข้อแนะนำในการส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด

1.ควรทำการเคลือบวาสลีนหรือน้ำมันก่อนส่งมาสอบเทียบ

2.ควรทำการใส่กล่องหรือห่อBubble เพื่อลดการกระแทก

3.ตรวจสอบสภาพเครื่องมือว่าเป็นสนิมหรือมีรอยขีดข่วนหรือไม่

4.ไม่ควรวางเครื่องมือวัดทับซ้อนกันเพราะอาจจะทำให้เครื่องมือบิ้น เกิดความเสียหายได้

 

เกร็ดความรู้

แนะนำวิธีดูRing Gaugeตัวไหนเป็นด้าน Go และ Nogo สังเกตุที่ตัวเครื่องมือจะมีแถบสีเขียวกับสีแดง ถ้าตัวที่มีสีเขียวแสดงว่าด้านนั้นเป็น Go ส่วนสีแดงจะเป็น Nogo  หรือตัวที่มีรอยเส้นตรงกลางตัวก็จะเป็น Nogo

 

ผู้เขียน Lab ULM

 

 

 

ข้อที่คนใช้ Torque Wrench เท่านั้นที่ควรเข้าใจ

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

มีวิธีใช้อย่างไร Digimatic Holtest

Holtest , Digimatic Holtest และ Three Point Internal Micrometer เป็น เครื่องมือวัด เส้นผ่านศูนย์กลางภายในที่มีลักษณะพื้นผิวเป็นโค้งกลม อาศัยหลักการทำงานของ Anvil ทั้ง 3 ขา (จึงเรียกว่า Three Point Internal Micrometer) จะทำหน้าที่หุบเข้าหรือกางออกพร้อมกันด้วยมาตราส่วน ABSOLUTE (ABS) ในตัวที่มีต้นกำเนิดที่แน่นอนจึงไม่จำเป็นต้องทำการจัดตำแหน่งทุกครั้งก่อนการวัดเพื่อลดข้อผิดพลาด Overspeed ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการวัด ซึ่งจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด ป้องกันไม่ให้เกิดค่าผิดพลาดจากการวัดนี้ด้วย

 

Digimatic Holtest

มีหลักการทำงานและลักษณะการใช้งานเหมือนกับ Borematic Gauge แตกต่างกันตรงที่ลักษณะการใช้งานของ เครื่องมือวัด Borematic Gauge จะมีลักษณะเป็นก้านโยกควบคุม Anvil ทั้ง  3 ขา แทนการหมุนสเกล ทำให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วในการวัดฃิ้นงาน แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความแม่นยำในการวัดที่น้อยกว่า ดังนั้นหากจะต้อง วัดชิ้นงาน ที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูงๆ อาจต้องเลือกใช้ Digimatic Holtest แทน

ส่วนประกอบต่างๆ ของ Digimatic Holtest มีดังนี้

 

  • Ratchet คือปุ่มปรับสเกลละเอียด
  • Thimble คือปลอกหมุนปรับสเกลหยาบ
  • Sleeve คือด้ามจับ
  • Battery Cap คือฝาปิดรางถ่าน
    (ระวังการกระเเทกหรือการเปิด-ปิดแรงเกินไปอาจทำให้ฝาปิดรางถ่านชำรุดได้ หากฝาปิดรางถ่านชำรุดหน้าจอจะติดๆดับระหว่างใช้งาน)
  • Output Connector Cover ใช้สำหรับเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์
  • Measuring Head คือหัววัดของ Micrometer (บางรุ่นสามารถถอดเปลี่ยนขนาดหัววัดได้)
  • Anvil คือ ก้านวัด โดยปกติจะหุบเข้าหรือกางออกพร้อมๆกันทั้ง 3 ก้าน

 

 

 

 

 

 

วิธีการใช้และการอ่านค่าของ เครื่องมือวัด ที่ถูกต้อง มีวิธีการ ดังนี้

ก่อนการใช้งาน

  1. เช็ดทำความสะอาดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกจากบริเวณผิวสัมผัส
  2. ตรวจสอบปลอกหมุน (Thimble) ว่าสามารถเคลื่อนที่ได้ปกติหรือมีอาการติดขัดหรือสะดุดหรือไม่ โดยทำการหมุน Thimble ตลอดช่วงใช้งาน รวมถึง Anvil ว่าสามารถเคลื่อนที่ได้คล่องตัว ไม่สะดุด
  3. ทำการตั้งค่าเริ่มต้นโดยเทียบกับ Ring Gauge มาตรฐานที่ผ่านการสอบเทียบแล้ว
  4. หากมีการเปลี่ยนแปลงหัววัด ค่าความแม่นยำอาจเปลี่ยนแปลงจากที่ถูกระบุไว้ได้
  5. เมื่อมีสัญลักษณ์ Low Battery ขึ้นที่หน้าจอให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยก่อนการใช้งาน
  6. กำหนดค่าตั้งต้น (ค่าที่สอบเทียบได้ของ Ring Gauge) ในกรณีที่ทำการวัดแบบ Absolute ดังรูป

ระหว่างการใช้งาน

  1. ในการใช้แรงหมุน Thimble ค่อยๆหมุนปรับให้ผิวสัมผัสชนกับผิวชิ้นงานเบาๆ และค้างไว้ จากนั้นหมุน Ratchet ตัดแรง 5-6 ครั้ง เพื่อให้แรงคงที่
  2. ระวังไม่ให้มีการกระเทกที่ผิวข้างของก้านวัด
  3. หากหน้าจอแสดงผลขึ้น Error หรือมีการอ่านค่าผิดปกติ ให้ถอดแบตเตอรี่ออกและใส่กลับเช้าไปใหม่อีกครั้ง

หลังการใช้งาน

  1. ตรวจสอบความเสียหายของ เครื่องมือวัด และหากพบให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ จากนั้นทำความสะอาดเครื่องมือวัดให้เรียบร้อยก่อนเก็บเข้าที่
  2. จัดเก็บเครื่องมือวัดในห้องที่ไม่มีความร้อนและความชื้นสูง รวมถึงหลีกเลี่ยงฝุ่นและละอองน้ำมัน
  3. เมื่อต้องจัดเก็บเครื่องมือวัดเป็นระยะเวลานานให้ใช้น้ำมันที่ใช้สำหรับไมโครมิเตอร์ทาที่ก้านวัดและหน้าสัมผัสเพื่อป้องกันสนิม และถอดแบตเตอรี่ออก

บริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัด ได้และได้รับการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ

ISO/IEC 17025:2017 จาก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และ  ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม โดยขอบข่ายการวัดสามารถสอบเทียบด้วยวิธีการ Comparison with Setting Ring Gauge Range การสอบเทียบตั้งแต่ 2-225 mm. ดังแสดงในรูปด้านล่าง

รูปตัวอย่าง Setting Ring Gauge

 

ผู้เขียน แก้ว VIP

 

 

เกจวัดเกลียว Thread Plug Gauge มีลักษณะเป็นอย่างไร แบ่งตามมาตรฐานได้ด้วยหรือ

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

Range สอบเทียบเครื่องมือวัด Digital Pressure Gauge ดูได้ตรงไหน?

Digital Pressure Gauge เกจวัดความดันดิจิตอล

เป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้วัดค่าของ Pressure ที่แสดงค่าของ Pressure ที่วัดได้ออกมาเป็นตัวเลข Digital แตกต่างกับการอ่านค่าจาก เพรสเชอร์เกจ แบบเข็ม โดยที่ Digital Pressure Gauge จะมีข้อแตกต่างจาก Pressure Gauge อยู่หลายประการ จะขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

  • มีการแสดงค่าของ Pressure เป็นตัวเลข Digital
  • การอ่านค่า Pressure ได้จากตัวเลขที่แสดงอยู่ที่หน้าจอแสดงผล สามารถอ่านค่า pressure gauge ได้ง่ายเมื่ออยู่ในระยะสายตาการมองเห็น
  • ต้องมีระบบไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่จ่ายพลังงานเพื่อเปิดใช้งาน

Pressure Gauge

  • มีการแสดงค่าของ pressure gauge เป็นแบบเข็ม เคลื่อนที่บน Scale หน้าปัด
  • ไม่ต้องมีระบบไฟฟ้าเพื่อเปิดใช้งาน
  • การอ่านค่าของ Pressure ที่วัดได้จะต้องดูการเคลื่อนที่ของเข็ม ตาม Scale บนหน้าปัด และจะต้องอยู่ในระนาบเดียวกันในระดับสายตา

หลักเกณฑ์ในการพิจารณาวิธีการสอบเทียบนั้น จะมีความคล้ายคลึงกับของ Pressure Gauge ทั่วไป ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • Max Range ของเครื่องมือ
  • Media ที่ใช้สอบเทียบ (Air, Oil, Nitrogen, Water)
  • ค่าความถูกต้องแม่นยำในการวัดค่าของเครื่องมือ (Accuracy) หรือ ค่าเกณฑ์การยอมรับที่ลูกค้ากำหนด MPE (Maximin Permisible Error)

ค่า Max Range สามารถดูได้ที่ตัว เครื่องมือวัด โดยจะเป็นรายละเอียดบอกว่าเครื่องมือนั้น มี Max Range อยู่ที่เท่าไร ตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างในการสังเกตเบื้องต้น ในส่วนของ Range ที่เครื่องมือตัวดังกล่าวสามารถ สอบเทียบเครื่องมือวัดได้ จะสามารถดูได้โดยตรงที่ตัวเครื่องมือ อีกวิธีการที่สามารถใช้ดู Range ของเครื่องมือ เกจวัดความดันดิจิตอล คือ การดูจากเอกสารที่มากับเครื่องมือหรือคู่มือของเครื่องมือที่ผู้ผลิตกำหนด โดยส่วนมากแล้วจะอยู่ในส่วนที่เป็น Spec ของเครื่องมือตามรูปตัวอย่าง

แต่ในบางกรณีที่ตัวเครื่องมืออาจไม่มี Range บอกแต่สามารถตรวจสอบได้โดยการทดลองเปิดเครื่องมือตัวดังกล่าวขึ้นมาเพื่อที่จะตรวจสอบ Range ของเครื่องมือได้ ซึ่งในแต่ละเครื่องมือจะมีความแตกต่างกันออกไปตามที่ผู้ผลิตเครื่องมือดังกล่าวเป็นผู้กำหนด จึงต้องศึกษาจากคู่มือถึงการใช้งานในหัวข้อต่างๆก่อนการสอบเทียบ

การกำหนด จุดสอบเทียบเครื่องมือวัด เกจวัดความดันดิจิตอล

            การสอบเทียบ สามารถกำหนดได้จาก Max Range ของเครื่องมือและจะมี Point สอบเทียบที่ไม่น้อยไปกว่า 5 Point หรือมากกว่าได้โดยที่รวม Point ที่ศูนย์ (Zero) โดยจะเป็นการกำหนดตามมาตรฐาน DKD-R6-1:Guideline Calibration of Pressure หรือ Class ของ Accuracy เช่น

  • เครื่องมือวัด Range 0-40 bar สามารถกำหนดจุดสอบเทียบ ได้ตาม Range ที่เครื่องมือ แต่ไม่สามารถสอบเทียบเกิน Range ของเครื่องมือ เช่น 0,10,20,30,40 bar หรือ 0,5,10,15,20,25,30,35,40 bar แต่สามารถทำการสอบเทียบเครื่องมือวัด ใน Point ที่ลูกค้าต้องการเป็นพิเศษ โดยสามารถแจ้งกับทางบริษัทได้ โดยทางห้องปฏิบัติการจะสอบเทียบเพิ่มเติมซึ่งจะรวมอยู่ใน Range 0-40 bar

 

การเลือกใช้ Media ที่ใช้สอบเทียบ

                Media ที่ใช้สอบเทียบลูกค้าจะต้องแจ้งตามที่ใช้งานจริง เช่น ลม, ไนโตรเจน, น้ำมัน, น้ำ โดยจะต้องตรวจสอบดูจากคู่มือการใช้งานหรือสามารถสังเกตเบื้องต้นได้ โดยดูที่ตัวเครื่องมือใช้กับ media ชนิดไหนมา ตัวอย่างเช่น ถ้าหากมีคราบน้ำมันที่บริเวณข้อต่อที่ตัวเครื่องมือก็สามารถสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า ตัวเครื่องมือนี้ใช้กับน้ำมันมาก่อน หรือ ถ้าตรงบริเวณข้อต่อไม่มีคราบน้ำมันและแห้ง ก็สามารถสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าเครื่องมือตัวดังกล่าวใช้กับลมได้เช่นกัน การสอบเทียบเครื่องมือวัด ที่เลือก Media ผิดไปจากการใช้งานจริง อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องมือเกจวัดความดันดิจิตอล

Accuracy and MPE

ค่าความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) ของตัวเครื่องมือนั้นสามารถดูได้ที่ตัวเครื่องมือวัดหรือดูจากคู่มือที่มาจากผู้ผลิตหรืออีกวิธีการหนึ่งที่สามารถใช้ดู Accuracy ของเครื่องมือ เกจวัดความดันดิจิตอล ได้ คือ การดูจากเอกสารที่มากับเครื่องมือหรือคู่มือของเครื่องมือที่ผู้ผลิตกำหนด โดยส่วนมากแล้วมักจะอยู่ในส่วนที่เป็น Spec ของเครื่องมือ

ผู้เขียน L1 Pressure

 

 

 

ควรอ่าน!! รู้ครบ จบเรื่องเกจวัดความดัน ที่นี่เท่านั้น

บริการสอบเทียบความดันและสุญญากาศ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

เกจวัดเกลียว Thread Plug Gauge มีลักษณะเป็นอย่างไร แบ่งตามมาตรฐานได้ด้วยหรือ

Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว)  

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึง Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว)  กันนะคะ รู้หรือไม่ว่าการเลือก Class ของ Thread Plug Gauge ในการใช้งานนั้นมีความหมายอย่างไร

Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว) มีหน้าที่ตรวจสอบระยะพิทช์ของเกลียวชิ้นงานที่เราสั่งผลิตค่ะ เพื่อตรวจสอบชิ้นงานของเราว่าชิ้นงานนั้นอยู่ในมาตรฐานการควบคุมหรือไม่ ซึ่งจะมาพูดถึง

มาตรฐานการวัด 2 แบบ ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในเอเชีย

ดังนี้ค่ะ  JIS (Japanese Industrial Standards) และ   ISO (International Organization for Standardization)

1.JIS (Japanese Industrial Standards) หมายถึง มาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น

ระบบการตรวจสอบเกลียว  สำหรับปลั๊กเกจ (Plug Gauge)

GP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน GO)

WP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับการตรวจสอบหน้างานในไลน์ผลิต)

IP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับเจ้าหน้าที่ QA, QC ในการตรวจสอบ)

จะมี Class ให้เลือกใช้ค่ะ มี Class 1, 2, 3

(CLASS 1 เกลียวฟิต, CLASS 2 เกลียวสวมพอดี, CLASS 3 เกลียวหลวม)

JIS (Japanese Industrial Standards)  มี 2 ชนิดค่ะ มีเกลียวเมตริก และ เกลียวนิ้ว

1.1 ชนิด เกลียวเมตริก 


ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น M2.5X0.45 GPII  IPII

M            คือ ประเภทของเกลียว เมตริก

2.5           คือ ขนาด DIAMETER

X 0.45     คือ ระยะ Pitch = 0.45  ม))

II             คือ CLASS 2

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

IP            คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO 

 

1.2 ชนิด เกลียวนิ้ว 

ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น 3/4-10UNC-2B GPIP  

UNC       คือ ประเภทของเกลียว นิ้ว

3/4           คือ ขนาด DIAMETER

10            คือ จำนวนเกลียวต่อ 1 นิ้ว  (Thread per Inch),, TPI ) ม))

2B           คือ CLASS 2B

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

IP            คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO 

 2. ISO (International Organization for Standardization)

คือ องค์การมาตรฐานสากล เป็นองค์กรที่ออกมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและอุตสาหกรรม

สำหรับปลั๊กเกจ (Plug Gauge)

GP เป็น ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน GO)

NP เป็น ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน NO GO)

จะมี Class ให้เลือกใช้ค่ะ มี  4H, 5H, 6H, 7H

(CLASS 4H, 5H  เกลียวฟิต, CLASS  6H เกลียวสวมพอดี,  CLASS 7H เกลียวหลวม )

ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น M5X0.8 6H GPNP

M            คือ ประเภทของเกลียว เมตริก

5              คือ ขนาด DIAMETER

X 0.8       คือ ระยะ Pitch = 0.8))

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

NP        คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO

6H           คือ CLASS 6H

       

   รู้หรือไม่ว่า การเลือก Class ของ Thread Plug Gauge ในการใช้งานนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากค่ะ ดังนั้นผู้ใช้งานควรมีความรู้และทำความเข้าใจก่อนจะเลือกใช้งาน และทาง บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ได้ทำการจัดจำหน่ายและ สอบเทียบ Thread Plug Gauge ซึ่งสินค้าที่เราจำหน่ายเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ รวมทั้งงานสั่งผลิตเราก็ยังมีจำหน่ายอีกเช่นกันค่ะ สามารถเข้าเลือกชมสินค้าได้ที่ www.cal-laboratory.com  หรือหากสนใจสินค้าสามารถส่งอีเมลล์เพื่อขอใบเสนอราคาได้เลยค่ะ info@cal-laboratory.com

 

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

เครื่อง CMM คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

 

 

Linear Gauge คืออะไร และการติดตั้งของ Linear Scale

Linear Gauge

Linear Gauge (ลิเนียร์สเกล), Linear Scale หรือ Linear Position Transducer คือ อุปกรณ์วัดระยะทางการเคลื่อนที่หรือตำแหน่งในแนวเส้นตรง (Stroke) ที่มีความละเอียดสูง สามารถวัดชิ้นที่มีความละเอียดสูงถึง 0.001 mm มีหน่วยในการวัดระยะทางเป็นเมตร (m) หรือ มิลลิเมตร (mm) โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่เชิงเส้นไปเป็นค่าความต้านทาน (Resistance) ทางด้านเอาต์พุต (Output) หรือจะเป็นสัญญาณเอาต์พุตอื่น ได้แก่ สัญญาณพัลส์ (Push-Pull), สัญญาณกิโลโอห์ม (kΩ) ขึ้นอยู่กับลิเนียร์สเกล ของแต่ละรุ่น โดยสัญญาณเอาต์พุตจะถูกส่งต่อไปยังหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลที่ติดตั้งอยู่หน้าเครื่องจักร CNC เช่น เครื่องกลึง เครื่องมิลลิ่ง เครื่องเจียระไน เป็นต้น ในการแสดงผลและควบคุมการบ่งบอกตำแหน่งในการ ตัด กัด เจาะ กลึง ที่ถูกต้อง เพื่อลดความผิดพลาดของชิ้นงาน

ลักษณะการติดตั้งของ Linear Scale มี 2 แบบ ดังนี้

1.ไม่สามารถถอดประกอบได้ (Non-Interchangeable) เป็นรางสไลด์ที่ไม่สามารถซื้อราง (Rail) และสไลด์บล๊อค (Slide block) แยกชิ้นกันได้ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างๆ คือ

ข้อดี 

  • มีค่าความแม่นยำให้เลือก หลายระดับ

ข้อเสีย  

  • เมื่อรางเกิดความเสียหายจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งรางและสไลด์บล๊อค
  • เมื่อถอดสไลด์บล๊อคออกมา เม็ดลูกปืนจะหลุดออกมาด้วย ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการสูญหายได้ นอกจากนั้นมีโอกาสที่จะมีสิ่งสกปรกเข้าไปติดอยู่บนผิวของเม็ดลูกปืน
  • ในบางครั้งการติดตั้งทำได้ยากหากมีพื้นที่จำกัด

 

2. สามารถถอดประกอบได้ (Non-Interchangeable) เป็นรางสไลด์ที่สามารถซื้อราง(Rail) และสไลด์บล๊อค (Slide block) แยกชิ้นกันได้

ข้อดี 

  • สามารถเปลี่ยนชิ้นอุปกรณ์ที่เกิดความเสียหายได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด 
  • สะดวกต่อการประกอบและซ่อมบำรุง

ข้อเสีย 

  • มีค่าความแม่นยำให้เลือกค่อนข้างจำกัด

ส่วนประกอบของ Linear Gauge

  1. ราง (Rail) : ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่ของสไลด์บล๊อค (Slide Block)
  2. สไลด์บล๊อค (Slide Block) : ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดการเคลื่อนที่ของของส่วนประกอบที่ติดตั้งอยู่บนสไลด์บล๊อค ให้เคลื่อนที่ไปตามแนวราง
  3. เม็ดลูกปืน (Ball bearing) :  ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเคลื่อนที่ระหว่างสไลด์บล็อคและราง โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานความเสียดทานต่ำ มีให้เลือกทั้งแบบเม็ดลูกปืนทรงกลม (Ball) และ เม็ดลูกปืนทรงกระบอก (Roller)
  4. ร่องลูกปืน (Ball groove) :  ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้เม็ดลูกปืนไหลเวียนไปได้ตลอดการเคลื่อนที่
  5. ซีล (Seal) : เป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอม เข้าไปยังสไลด์บล๊อค (Slide Block) และยังสามารถป้องกันการรั่วไหลของสารหล่อลื่น เช่น จารบีออกจากสไลด์
  6. หัวอัดจารบี (Grease nipple) : เปรียบเสมือนเป็นประตูทางผ่านของสารหล่อลื่น เพื่อลดการเสียดสี และการสึกกร่อนของลูกปืนภายใน

ข้อแนะนำในการเลือกใช้งาน ลิเนียร์สเกล
     • เครื่องมือวัด Linear Gauge ควรเลือกใช้ตามย่านการวัดชิ้นงาน  (Measurement Stroke) และระยะการเคลื่อนที่ (Stroke)
     • สัญญาณเอาต์พุตของ Linear Scale มีหลายแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน เช่น แบบอนาล็อก, แบบดิจิตอล โดยส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้แบบอนาล็อกเนื่องจากเป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง สามารถเดินสายได้ไกลและลดสัญญาณรบกวนในระบบได้
     • ความแม่นยำในการวัด (Accuracy) ผู้ใช้งานควรทราบว่าอุปกรณ์ที่เราเลือกใช้นั้นมีค่าความละเอียดในการวัด (Resolution) และความเที่ยงตรง (Accuracy)ในการวัดมากน้อยเพียงใด
     • ขนาดของอุปกรณ์ (Dimension) และพื้นที่ในการติดตั้ง (Installation) ควรทราบขนาดของอุปกรณ์และพื้นที่ในการติดตั้ง เนื่องจากต้องทำการเลือกรุ่นของ Linear Scale ขนาดที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะทำการติดตั้ง

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบ Linear Gauge และได้รับการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI) และจาก  ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งแบบนำกลับมาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการและแบบ Onsite หน้างานเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม โดยขอบข่ายการวัดสามารถสอบเทียบได้ถึง 12000 mm. ด้วยวิธีการ Direct Measurement with Laser Interferometer

ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI)

ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 1จาก ANSI National Accredit Board (ANAB)

 

ผู้เขียน Keaw VIP

 

 

เครื่อง CMM คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

สายวัด?! มีการสอบเทียบด้วยหรือ แล้วจำเป็นต้องสอบเทียบหรือไม่

Textile Tape (เทปวัดระยะ, สายวัด)

คือ เครื่องมือวัด ทางด้านมิติ (Dimension) ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบ วัดขนาดของชิ้นงานในการประกอบชิ้นส่วน เพื่อหาค่าความถูกต้องและ ค่าของความผิดพลาดของขนาดชิ้นงานที่ทำการผลิตหรือประกอบขึ้น ถ้าเครื่องมือวัดดังกล่าวที่ใช้งานอยู่เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้น ย่อมจะส่งผลเสียหาย ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาไม่มีคุณภาพตามข้อกำหนด ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ”อย่างมาก” โดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว และเพื่อยืนยันระบบการผลิตที่มีคุณภาพ อย่างคงเส้นคงวา กระบวนการยืนยันความถูกต้องของเครื่องวัดที่เรียกว่า การสอบเทียบเครื่องมือวัด (Calibration) จึงมีความสำคัญมาก ซึ่งยังมีผู้ใช้ สายวัด จำนวนไม่น้อยที่ต้องการจะสอบเทียบเครื่องวัดดังกล่าวเอง แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจวิธีการสอบเทียบที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล

Textile Tape มักได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานหรือการค้าโดยเฉพาะ เทปวัด อาจทำจากวัสดุที่แตกต่างกันและมีความยาวต่างกันขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับเทปที่มีไว้ในการใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าทำจากผ้าหรือพลาสติกที่ยืดหยุ่นได้ เทปสายวัด ที่ดีควรทำด้วยวัสดุไม่ยืด  ไม่หด  สามารถใช้ได้ทั้งหน่วยนิ้วและหน่วยเซนติเมตร ซึ่งพวกเขามีชื่อว่า “สายวัด สำหรับเย็บผ้า” เทปวัด ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการวัดเส้นรอบเอวของผู้รับการทดสอบ ทุกวันนี้ เทปวัดสำหรับเย็บผ้า ทำจากไฟเบอร์กลาส,พลาสติกซึ่งไม่ฉีกขาดหรือยืดได้ง่าย เทปวัดแบบทำเครื่องหมายเองช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดด้วยมือเดียวได้อย่างแม่นยำ มีการแบ่งช่องอย่างชัดเจน  ในการวัดตัวหน่วยเซนติเมตรจะมีความละเอียดกว่าหน่วยนิ้ว  ซึ่งการเย็บผ้าสตรีส่วนใหญ่นิยมใช้หน่วยเซนติเมตร (สายวัดจะมีความยาว  60  นิ้ว  หรือ  150  เซนติเมตร)

แผนภาพแสดงเศษส่วนของนิ้วบนเทปวัดมาตรฐานที่สิบหก

 

วิธีการอ่านเศษส่วนของนิ้วบน Textile Tape (สายวัด) มาตรฐานที่สิบหก

ใช้วัดตัวเพื่อทราบขนาดสัดส่วนของบุคคลและสร้างแบบเสื้อผ้า  การอ่านสายวัดหลักนิ้ว  แบ่งเป็น  8  ช่อง นิยมอ่านเป็นเศษส่วน  ดังนั้น  1  ช่อง  อ่านว่า เศษ  1  ส่วน  8

2 ช่อง อ่านว่า เศษ 1 ส่วน 4  และ 3 ช่อง อ่านว่า เศษ 3 ส่วน 8  

การอ่าน    สายวัดหน่วยเซนติเมตร  แบ่งเป็น  10  ช่อง  นิยมอ่านเป็นทศนิยม  ดังนี้ 

  1. ช่อง อ่านว่า  1
  2. ช่อง อ่านว่า  2
  3. ช่อง อ่านว่า  3
  4. ช่อง อ่านว่า  4
  5. ช่อง อ่านว่า  5 

การเก็บดูแลรักษา เทปวัด

  1. ห้ามใช้ Textile Tape แทนเชือกผูกเอว เพราะจะทำให้สายวัดบิดเบี้ยว  เสียรูป
  2. ควรเก็บรักษาโดยวิธีการแขวน เพราะจะทำให้สายวัดอยู่ในสภาพเดิมไม่เสียรูป สะดวกต่อการใช้งาน
  3. ระวังการใช้สายวัดกับของมีคม อาจทำให้สายวัดขาดได้
  4. ระวังไม่ให้สเกล Textile Tape จาง อาจทำให้ผลการวัดคลาดเคลื่อน
  5. ควร สอบเทียบเครื่องมือวัด Textile Tape อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่ามาตรฐานเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการวัด

มาตรฐาน สายวัด

สัญลักษณ์การจำแนกประเภท EC สีแดงที่พิมพ์บน สายวัด แบบยืดหดได้ ความแม่นยำของ Textile Tape วัดขึ้นอยู่กับปลายเทปและเครื่องหมายที่พิมพ์ลงบนเทป ความแม่นยำในการสิ้นสุดของเทปวัดแบบยืดหดได้นั้นขึ้นอยู่กับกลไกการเลื่อนและความหนาของตะขอ

หาก Textile Tape ได้รับการรับรองแล้วจะมีการพิมพ์ระดับคลาสลงบนเทปควบคู่ไปกับสัญลักษณ์อื่น ๆ รวมทั้งความยาวเล็กน้อยของเทปปีที่ผลิตประเทศที่ผลิตและชื่อของผู้ผลิต สำหรับเทปพับเก็บได้ Class I มีความแม่นยำที่สุดและมีแนวโน้มที่จะมีราคาแพงที่สุด ในขณะที่เทป Class II เป็นคลาสที่พบได้บ่อยที่สุด 

โดยทาง Calibration laboratory (CLC)มีบริการรับ สอบเทียบเครื่องมือวัด ได้และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) (ตามรูปที่ 1) และ ISO/IEC 17025:2017 จากหน่วยงาน ANSI National Accreditation Board | ANAB (ตามรูปที่ 2) อีกด้วย

รูปที่1 มาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

รูปที่ มาตรฐาน ISO/IEC 17025 จากหน่วยงาน ANSI National Accreditation Board (ANAB)

อย่าลืมว่าในการวัดระยะหรือขนาดทุกชนิดจำเป็นต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการผิดพลาดในการวัด การเตรียมชิ้นงาน และการผลิต

                                                                                     

ผู้เขียน PAEMY LITTLE

 

 

 

เคล็ดลับ วิธีการดูแลรักษาตลับเมตร (​ Steel Tape )

บริการสอบเทียบด้านมิติ ดูสินค้าด้าน Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

ไมโครมิเตอร์ปากรูปตัว v เหมาะกับการวัดเครื่องมือประเภทใด และมีการใช้งานอย่างไร

ไมโครมิเตอร์ปากรูปตัว V (V-Anvil Micrometer)

เครื่องมือวัด V-Anvil Micrometer คืออะไร

            เครื่องมือ ไมโครมิเตอร์ปากรูปตัว V (V-Anvil Micrometer) คือ เครื่องมือวัด ที่มีการออกแบบปลายสัมผัส ให้เป็นรูปตัว V  เพื่อใช้วัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของเครื่องมือตัดเจาะ

การใช้งานของเครื่องมือ V-Anvil Micrometer

            เครื่องมือ V-Anvil Micrometer เป็นเครื่องมือเหมาะสำหรับ วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก ของเครื่องมือตัด เช่น ดอกต๊าป,ดอกรีมเมอร์ และดอกเอ็นมิล เพื่อหาความหนาและระยะของชิ้นงาน เหมาะสำหรับการวัด Pitch Diameter

วิธีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด V-Anvil Micrometer มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

  1. เตรียม เครื่องมือวัด V-Anvil Micrometer ที่จะทำการ สอบเทียบเครื่องมือ โดยการตรวจเช็คสภาพเครื่องมือวัด ว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมที่จะสอบเทียบ
  2. ทำความสะอาดเครื่องมือและทำความสะอาดบริเวณปากวัดของเครื่องมือ V-Anvil Micrometer พร้อมตรวจเช็คปาดวัดว่ามีรอยสึกหรือรอยแตกหรือไม่
  3. Set ค่าของ ไมโครมิเตอร์ โดยตัว setting ที่มาพร้อมกับ เครื่องมือวัด
  4. ตรวจเช็คมุมของปากวัด ด้วยเครื่อง Vision Auto Measuring Instrument
  5. ตรวจเช็คความถูกต้องของ เครื่องมือวัด ตาม Point และ Range ของเครื่องมือ โดยใช้ Standard เป็น Gauge Block Set
  6. จดบันทึกผลของการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่สามารถสอบเทียบได้

 

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สอบเทียบเครื่องมือวัด V-Anvil Micrometer อะไรบ้าง?

  1. สอบเทียบ Length of Measurement  ตาม Range ของ V-Anvil Micrometer  ได้ที่ Range 0-85 mm
  2. สอบเทียบ Angle ของปากวัด

วิธีการเก็บรักษา ไมโครมิเตอร์ V-Anvil Micrometer

  1. ทำความสะอาด เครื่องมือวัด ทุกครั้งหลังใช้งาน โดยใช้ผ้านุ่มและแห้ง
  2. เก็บเครื่องมือเข้ากล่องใส่เครื่องมือทุกครั้งหลังใช้งาน ไม่ควรเก็บหรือวางเครื่องมือรวมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและความชื้น
  3. ระวังอย่าให้เครื่องมือตกกระแทก
  4. ไม่วาง ไมโครมิเตอร์ ไว้ในที่แสงแดดส่องถึงโดยตรง
  5. อย่าปล่อยให้เครื่องมือสกปรกขาดการหล่อลื่น และปล่อยให้แกนหมุนวัดฝืดหรือหลวมเกินไป
  6. หากต้องการเก็บเครื่องมือเป็นเวลานานๆควรชโลมน้ำมันเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
  7. ทำความสะอาดผิวปากวัดทั้งปากรับและปากวัดทุกครั้ง ก่อนและหลังการใช้งาน
  8. เมื่อต้องการให้แกนวัดเลื่อนเข้าออกอย่างรวดเร็วให้เลื่อนกับฝ่ามือ
  9. ใช้ปอกหมุนกระทบเลื่อนขณะวัดชิ้นงานทุกครั้ง

ข้อควรระวังในการใช้เครื่องมือ ไมโครมิเตอร์ปากรูปตัว V

  1. ระวังอย่าใช้เครื่องมือวัดชิ้นงานที่มีผิวดิบและหยาบเกินไป
  2. อย่าวัดชิ้นงานที่กำลังเคลื่อนที่
  3. อย่าวัดชิ้นงานที่ร้อนอยู่

ถ้าต้องการส่ง เครื่องมือสอบเทียบ ที่ บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ควรทำอย่างไร

  1. ส่งรายละเอียดแบรนด์ โมเดล และ Range ของเครื่องมือ เพื่อตรวจเช็คว่าสอบเทียบได้หรือไม่
  2. เมื่อจะส่งเครื่องมือมาสอบเทียบทุกครั้ง ต้องส่งตัว Setting มาด้วย เพื่อใช้ Set ค่าของ ไมโครมิเตอร์

 

 

ผู้เขียน Leader ลูกคิด

 

 

 

ประเภท ข้อควรระวัง และการสอบเทียบไมโครมิเตอร์วัดภายนอก (Outside micrometer)

บริการสอบเทียบด้านมิติ  สินค้าด้าน Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ข้อที่คนใช้ Torque Wrench เท่านั้นที่ควรเข้าใจ Torque Wrench lbf•in & lbf•ft unit version’s

Torque Wrench  lbf•in & lbf•ft unit verson’s  ยี่ห้อ TONE

 

รูป Torque Wrench  lbf•in & lbf•ft unit version’s 

สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราได้เขียนบทความเรื่อง Torque Wrench TMN-Series หน่วย N.m มาแล้วนะคะ วันนี้เราจะมาเขียนบทความหน่วยวัดอื่นๆกันบ้างนะคะ ประแจปอนด์ หรือ Torque Wrench มีหน่วยวัดหลากหลายค่ะ   นอกจาก N.m แล้วยังมีหน่วย lbf•in (ปอนด์นิ้ว) & lbf•ft (ปอนฟุต) ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง Torque Wrench ยี่ห้อ TONE  lbf•in & lbf•ft unit version’s   กันค่ะ เป็นสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นนะคะ สำหรับการใช้งานจะเหมือนกัน กับรุ่น TMN-Series ต่างกันที่หน่วยเท่านั้นค่ะ Torque Wrench ยี่ห้อ TONE  lbf•in & lbf•ft unit version’s   จะมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

ซึ่ง ในหน่วย lbf•in  มีทั้งหมด 13 รุ่น เริ่มที่ 10 lbf•in  ถึง 2500 lbf•in  ดังนี้ค่ะ

 

รูป  Torque Wrench  10 lbf•in  ถึง 2500  lbf•in  หน่วย lbf•ft
มีทั้งหมด 5 รุ่น เริ่มที่ 15 lbf•ft  ถึง 250 lbf•ft ดังนี้ค่ะ

รูป ประแจปอนด์  15 lbf•ft  ถึง 250 lbf•ft

สำหรับการใช้งาน จะเป็นประเภทตั้งค่าไว้ล่วงหน้า (Preset type) ค่ะ มาพร้อมกับมีจอแสดงผล (Digital Reading) แบบตัวเลข
ในการใช้งานเราสามารถมองเห็นตัวเลขได้ชัดเจนค่ะ (Visible Indicator) ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงการตั้งค่าที่แม่นยำ  โดยผู้ใช้งานจะสามารถตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายได้ด้วยตัวเองตามแรงบิดที่ผู้ใช้งานต้องการ คือ เป็นแบบตั้งค่าล่วงหน้า (Preset Type)  เมื่อให้แรงไป Torque Wrench  จะทำการ “Click” และถอยหลังกลับเมื่อถึงแรงบิดที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า

ประแจปอนด์ ยี่ห้อ TONE   lbf•in & lbf•ft unit version’s   นี้  สามารถใช้งานได้ 1 ทิศทางนะคะ คือ ได้เฉพาะการขันเข้า(ขันแน่น) ทิศทางตามเข็มนาฬิกาเท่านั้นนะคะ(CW)  ซึ่งมีค่าความแม่นยำ (Accuracy)  ± 3% of Reading ในกล่องมาพร้อมกับ Plastic Case สีดำ ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการใช้งานมีวิธีการไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมคะ

รูปแสดง จอแสดงผลตัวเลขที่ด้าม ประแจทอร์ค  (Visible Indicator)

Torque Wrench ยี่ห้อ TONE  lbf•in & lbf•ft unit version’s  หน้าที่ของเครื่องมือคือเหมาะกับงานอุตสาหกรรมทุกประเภทค่ะ  ใช้นำมาขันชิ้นงานให้มีความแน่นตามที่ต้องการค่ะ เช่น ได้แก่ งานประเภท  Automotive(ยานยนต์)  , Construction (การก่อสร้าง), ท่อก๊าซอุตสาหกรรม, ทางรถไฟ, แผงโซล่าเซลล์, Condensing unit ( คอมแอร์ ) และงานอื่นๆ ที่มีการขันให้แรงบิด เป็นต้น

รูปแสดง การหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ ประแจปอนด์

ข้อควรระวังการใช้งาน ประแจปอนด์

ประแจทอร์ค ยี่ห้อ TONE   lbf•in & lbf•ft unit version’s นี้คือ การใช้งานเหมือนกันกับ Torque Wrench TMN-Series  ที่เราได้เขียนบทความไปแล้วก่อนหน้านี้ค่ะ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าแรงบิดเป้าหมาย โดยหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับได้เอง ต้องทำความรู้ความเข้าใจในก่อนใช้งานนะคะ หากใช้งานผิด เครื่องมืออาจเสียหายได้ค่ะ เช่น ไม่ควรหมุนตั้งค่าแรงบิดเกินช่วงการใช้งานที่กำหนด อาจทำให้ Scale ตัวเลขที่ปลายด้ามประแจปอนด์หมุนค้างได้ค่ะ และหากหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับแล้วให้ทำการล็อคค่าที่ปลายด้ามจับพอตึงมือ ค่ะ

การดูแลรักษามีข้อควรปฏิบัติตามนี้

  1. ก่อนและหลังใช้งานให้ทำความสะอาดน็อต และโบล์ท
  2. ควรปรับขนาดแรงให้เหมาะสม ตามการใช้งาน
  3. การเก็บเครื่องมือวัด ให้ปรับแรงกลับมาที่จุดต่ำสุดเพื่อคลาย เนื่องจากอาจมีผลกับกลไกภายใน
  4. ห้ามนำ เครื่องมือวัด ไปขันคลายน็อต เนื่องจากใช้สำหรับขันแน่น ใช้ได้ทิศทางเดียวตามเข็มนาฬิกา
  5. ห้ามทำเครื่องมือ ตกหล่น อาจทำให้ค่า Torque Wrench ค่าคลาดเคลื่อน
  6. ควรมีการส่งสอบเทียบ อย่างน้อยทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าค่ายังปกติ หากไม่ปกติควรส่งซ่อม และปรับค่า ก่อนนำมาใช้งานค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับเรื่อง Torque Wrench lbf•in & lbf•ft unit version’s  มีการใช้งานไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมคะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้เข้ามาอ่านกันนะคะ ใบบทความครั้งต่อไปหากมีสินค้าตัวไหนที่น่าสนใจจะมาเขียนให้อ่านกันอีกแน่นอนค่ะ สำหรับบทความนี้ขอจบการเขียนเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

เครื่อง CMM คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา