ความรู้เพิ่มเติม และที่มาของอุณหภูมิที่ ตัววัดอุณหภูมิและความชื้น Thermo-Hygrometer
อุณหภูมิและความชื้นที่ตัวความชื้นของอากาศ มาจากไอน้ำเป็นส่วนใหญ่จะอยู่ทั่วไปในอากาศเลยทำให้ชั้นบรรยากาศเกิดความชื้น ซึ่งตัววัดอุณหภูมิและความชื้นมีความสำคัญต่อ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และ บริษัท ทั่วๆไป ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง เครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้น จึงจัดให้อยู่ในประเภท เครื่องมือวัด ที่ไว้ตรวจเช็คอุณหภูมิสภาพอากาศในบริเวณนั้นๆ เครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้น มีความสำคัญในการใช้งานในห้องปฏิบัติการที่ต้องการการควบคุม หรือหากในพื้นที่ตรงส่วนนั้นต้องการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น หากอากาศมีความชื้นสูงหมายถึงอากาศมีไอน้ำอยู่เป็นปริมาณมาก หากอากาศมีความชื้นต่ำหมายถึง อากาศมีปริมาณไอน้ำอยู่เป็นจำนวนน้อย ตัววัดอุณหภูมิและความชื้นเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความชื้นหรือช่วยวัดปริมาณไอน้ำในอากาศได้ค่อนข้างดี สำหรับผู้ใช้งานที่จำเป็นต้องรู้ว่าอุณหภูมิของอากาศและอุณหภูมิของความชื้นในสภาพอากาศบริเวณนั้นๆเครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้น จึงเป็น เครื่องมือวัด ที่จะช่วยให้เราควบคุมและดูวิเคราะห์พิจารณาสภาพอากาศว่าจะลดความชื้นหรือไม่ ไอน้ำในอากาศมีระดับสูงมากเกินไปมากไหม เราจะได้ควบคุมอุณหภูมิสภาพอากาศได้ถูกต้อง
อะไรที่ทำให้เกิดอุณภูมิในอากาศ
อากาศร้อนมีความหนาแน่นต่ำกว่าอากาศเย็นและเมื่ออากาศร้อนปะทะกับอากาศเย็น อากาศร้อนจะยกตัวขึ้นทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงจนถึงระดับที่สามารถทำให้เกิดความควบแน่นจึ งทำให้เกิดเมฆและฝนขึ้น และเมื่ออากาศเกิดการบีบตัวเกิดขึ้นเมื่อกระแสลมพัดมาปะทะกัน อากาศจะยกตัวขึ้นและทำให้อุณหภูมิของอากาศลดต่ำลงจนเกิดอากาศอิ่มตัวจึงทำให้เกิดไอน้ำในอากาศควบแน่นเป็นหยดน้ำในก้อนเมฆ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น อากาศจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมากสุดในช่วงเที่ยงและช่วงบ่าย เลยช่วงเวลานี้อุณหภูมิก็จะค่อยๆลดลงจนต่ำสุดในช่วงเวลาเช้าเราสามารถวัดอุณหภูมิสภาพของอากาศได้จาก Thermometer หรือ เครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้น อากาศในแต่ละพื้นที่แต่ละจุดจะเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆก็ต่อเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มขึ้นและถ้าระดับความสูงของพื้นที่ สูงขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิของอากาศก็จะลดต่ำลง ปริมาณของก้อนเมฆ ก็มีผลต่อสภาพอากาศในแต่ละวันด้วยเพราะวันที่ท้องฟ้ามีปริมาณเมฆมาก อากาศมีอุณหภูมิต่ำกว่าวันที่ท้องฟ้ามีปริมาณเมฆน้อยเพราะเมฆทำหน้าที่สะท้อนและดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์ไว้ จึงทำให้ผิวโลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์น้อยลงเมฆช่วยลดอุณหภูมิอากาศในตอนกลางวันและช่วยเพิ่มอุณหภูมิอากาศในตอนกลางคืน
ที่มาของอุณหภูมิในอากาศ
เวลากลางวันพื้นโลกได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอากาศจะได้รับพลังงานความร้อนที่พื้นโลกคายออกมา ทำให้อุณหภูมิของอากาศบริเวณนั้นสูง ส่วนในเวลากลางคืนพื้นโลกไม่ได้รับพลังงานจากแสงแดดของดวงอาทิตย์ อุณหภูมิของอากาศเวลากลางคืนจึงต่ำกว่าเวลาในกลางวัน เป็นที่มาของความกดอากาศต่ำลงทำให้เกิดความเย็นขึ้น
ที่มาของความชื้นในอากาศ
จากที่กล่าวมา ความชื้นในอากาศเกิดขึ้นได้จาก 3 ประการ
การระเหยของน้ำ
เมื่อดวงอาทิตย์แผ่ความร้อนโดนผิวน้ำ (ทะเล, แม่น้ำ หรือพื้นดินที่มีความชื้น) ทำให้น้ำเกิดการระเหยกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นสู่บรรยากาศ จากการที่อุณหภูมิสูงขึ้น (ช่วงกลางวัน) ทำให้มีการเพิ่มอัตราการระเหย และลมช่วยพาไอน้ำกระจายไปในอากาศ
การควบแน่นจากอากาศที่มีอุณหภูมิสูงเจออากาศอุณหภูมิต่ำ
อากาศที่มีอุณหภูมิสูง (ความหนาแน่นต่ำ) พุ่งขึ้นข้างบนเมื่อเจอกับอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ ทำให้เมื่อขึ้นสูง อุณหภูมิจะลดลงจนถึงจุดน้ำค้าง (Dew Point) ไอน้ำในอากาศควบแน่นเลยกลายเป็นเมฆ (กลุ่มหยดน้ำเล็กๆ) และหากหยดน้ำในเมฆรวมตัวกันใหญ่พอ จะส่งผลให้กลายเป็นฝนทำให้ความชื้นสัมพัทธ์ (RH) ในบริเวณนั้นสูงขึ้น
การบีบตัวของอากาศ
เมื่อลมปะทะกันหรือถูกบีบให้ยกตัวขึ้น (เช่น พัดเข้าหาภูเขา) อากาศจะเกิดการขยายตัวและอุณหภูมิลดต่ำลงและหากอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆจนอิ่มตัว จะทำให้ไอน้ำควบแน่นเป็นเมฆ หรือเกิดฝนตกได้
ความชื้นของอากาศถูกแบ่งออกเป็นอยู่ 2 หัวข้อหลักๆ
-
ความชื้นสัมบูรณ์ (Absolute Humidity)
หมายถึง อัตราส่วนระหว่างมวลของไอน้ำในอากาศกับปริมาตรของอากาศ ณ อุณหภูมิเดียวกัน โดยหน่วยที่ใช้วัดมักเป็นกรัมต่อปริมาตรอากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร (g/m³) เป็นค่าที่ไม่ขึ้นกับอุณหภูมิ บอกปริมาณไอน้ำจริงในอากาศ มักใช้ในงานวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม (เช่น ควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องคลีนรูม)
2. ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)
หมายถึง สัดส่วนของปริมาณไอน้ำที่มียู่จริงในอากาศขณะนั้นต่อปริมาณไอน้ำอิ่มตัว แสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) หากความชื้นสัมพัทธ์เท่ากับ 100% แสดงว่าอากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ และอาจจะเกิดการควบแน่นเป็นหยดน้ำได้ เป็นค่าที่ขึ้นกับอุณหภูมิ (ยิ่งอากาศร้อน ยิ่งเก็บไอน้ำได้มาก)ส่งผลต่อความรู้สึกสบาย
ความชื้นทั้งสองประเภทมีความสัมพันธ์กันเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ความชื้นสัมบูรณ์ อาจจะมีค่าคงที่ (หากไม่มีไอน้ำเพิ่ม) แต่ความชื้นสัมพัทธ์ จะมีค่าลดลง เพราะเมื่ออากาศร้อนจะเก็บไอน้ำได้มากขึ้น ในขณะที่เมื่ออุณหภูมิลดลง (เช่น ตอนกลางคืน) ความชื้นสัมพัทธ์จะมีค่าเพิ่มขึ้น อาจถึงจุดน้ำค้าง (Dew Point) ทำให้เกิดเป็นหมอกหรือหยดน้ำได้
ลักษณะรูปแบบของ Thermo-Hygrometer
Thermo-Hygrometer รุ่นแรก ๆ ยังเป็นแบบ Analog ใช้เข็มหมุนและหน้าปัดที่ต้องอ่านค่าเอง ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเซ็นเซอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็ทำให้สามารถออกแบบเครื่องที่แสดงผลเป็นตัวเลขดิจิทัลได้อย่างแม่นยำและใช้งานง่าย
เครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบ Analog
เครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบ DIGITAL
ประโยชน์ในปัจจุบัน
เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์ ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายวงการ
- การแพทย์ ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นในห้องผ่าตัดหรือห้องแล็บ
- อุตสาหกรรมต่างๆ ควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงงานผลิตอาหาร ยา ห้องคลีนรูม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- การเกษตร ใช้ตรวจสอบความชื้นและอุณหภูมิในโรงเรือนเพาะชำ ห้องปลูกพืชไร้ดิน (Hydroponics)
- การใช้ในบ้านหรืออาคารสำนักงาน เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะสถานที่ที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
- งานวิจัยทางการพยากรณ์อากาศ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการเก็บข้อมูลสภาพอากาศ ใช้ในสถานีตรวจอากาศแบบพกพา
แบรนด์และรุ่นยอดนิยม
- แบบพกพา OMEGA, Testo, Fluke, DIGICON
- แบบตั้งโต๊ะ Vaisala, Rotronic
- สมาร์ทเซ็นเซอร์ Govee, SensorPush (เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน via Bluetooth/Wi-Fi)
ซึ่งทางบริษัท Calibration Laboratory มีจัดจำหน่ายและบริการสอบเทียบเครื่องมือวัด สำหรับ สามารถดูได้จากลิงก์ด้านล่าง หรืออ่านรีวิว TESTO รุ่น 608-H1 ได้ค่ะ
ผู้เขียน Gaem Yui
ประเภทของเครื่องมือวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ หรือ Dry-Wet Bulb
—
บริการ สอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น