Power Meter คืออะไร สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งาน Power Meter

Power Meter เครื่องมือวัด สอบเทียบเครื่องมือวัด อิเล็กทรอนิกส์

Power Meter (พาวเวอร์มิเตอร์) หรือที่เรียกว่า “เครื่องวัดกำลังไฟฟ้า” คือ เครื่องมือที่ใช้วัดและแสดงค่าพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า สามารถใช้สำหรับวัดแรงดันไฟฟ้า(V) กระแสไฟฟ้า (I) กําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ (Reactive Power) กำลังไฟฟ้าจริง และ Harmonic และสามารถแสดงค่าเป็นพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้า เครื่องมือนี้มีความสำคัญมากในโรงงานอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่จะนำตัว Power Meter ไปใช้วัดค่าไฟฟ้าในขบวนการผลิตเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดและยังสามารถช่วยจัดการด้านพลังงานไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อได้ข้อมูลสำหรับใช้ควบคุมหรือนำไปปรังปรุงการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด ช่วยประหยัดไฟ ลดต้นทุน และดูแลระบบให้ปลอดภัย ที่สำคัญคือเครื่องมือนี้จำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด อย่างสม่ำเสมอเพื่อความเที่ยงตรงของการวัด  เพราะช่วยให้รู้ว่ามีการใช้พลังงานเท่าไร อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดีขึ้นอย่างเห็นผลได้จริง  

เครื่องมือวัด Power Meter (พาวเวอร์มิเตอร์) หรือที่เรียกว่า “เครื่องวัดกำลังไฟฟ้า” สอบเทียบเครื่องมือวัด อิเล็กทรอนิกส์

Power Meter เปรียบเสมือน การรวมเครื่องมือวัด Multimeter กับ Clamp Meter เข้าด้วยกันจึงสามารถวัดได้ทั้ง แรงดันไฟฟ้า (V), กระแสไฟฟ้า (I), ความต้านทาน (Ω) และฟังชั่นอื่นๆ ของเครื่องมือทั้ง 2 ประเภทนี้อีกด้วย

Power meter จะใช้วิเคราะห์กำลังไฟฟ้าหลักๆ 3 ประเภทดังนี้

  1. Active Power (P) คือกำลังไฟฟ้าที่ใช้จริง ซึ่งเกิดการโหลดจากการต้านทาน จะมีหน่วยวัดเป็นวัตต์(W) หรือกิโลวัตต์(kW) ซึ่งจะมีวิธีคำนวณได้จากสมการ P= V x 1 x Cos(zeta)
  2. Reactive Power (Q) คือ กำลังไฟฟ้าที่ศูนย์เสียไปหลังจากการเกิดการโหลดตัวเหนี่ยวนำ และตัวเก็บประจุซึ่งมีหน่วยเป็นวาร์(VAR) หรือ กิโลวาร์(kVAR) ซึ่งจะคำนวณได้จากสมการ  Q=V x Ax Sin (zeta)
  3. Apparent Power (A) คือกำลังไฟฟ้าที่ปรากฏ(Input) หรือผลรวมทางเวกเตอร์ของไฟฟ้าจริง และกำลังไฟฟ้าที่ศูนย์เสีย จะมีหน่วยเป็นโวลต์ แอมแปร์ (VA) หรือกิโลโวลต์ แอมแปร์ (kVA) ซึ่งจะคำนวณได้ตามสมการ Q= Vx A x Sin(zeta)

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งานพาวเวอร์มิเตอร์

  1. เราควรทราบข้อมูลด้านเทคนิค และศึกษารายละเอียด เพื่อที่จะได้เห็นข้อจำกัดของใช้งาน เช่น Input , Output ช่วงที่ต้องการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ รวมถึงอุณหภูมิ และความชื้น เป็นต้น
  2. วิธีการติดตั้งอุปกรณ์ ควรศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดก่อนติดตั้ง ว่ามีอุปกรณ์เสริม หรือมีการต่อสายอย่างไร เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาหลังจากการติดตั้ง
  3. ความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆบนหน้าจอ และวิธีการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อการใช้งานได้ตรงตามความต้องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  4. เพื่อความถูกต้องและแม่นยำในการใช้วัดค่าต่างๆ ควรตรวจสอบเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน และควรนำเครื่องมือวัด เข้ารับการแคลิเบรท (Calibrate) หรือ การสอบเทียบเครื่องมือวัดซ้ำอีกครั้ง กับห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน อย่างน้อยไม่ควรเกิน 1,000 ชม

การสอบเทียบและการรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการ

เพื่อให้ค่าที่วัดได้จากเครื่องวัดกำลังไฟฟ้าน่าเชื่อถือและตรวจสอบย้อนกลับได้ ควรส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 โดยตรวจดูว่าใน Scope of Accreditation ของห้องปฏิบัติการครอบคลุมพารามิเตอร์และช่วงวัดที่เราต้องใช้จริง (แรงดัน/กระแส/กำลัง/เพาเวอร์แฟกเตอร์/ฮาร์มอนิก) และแสดง CMC (Calibration & Measurement Capability) ชัดเจน การสอบเทียบสามารถทำแบบจำลองกำลังโดยใช้ Multifunction Calibrator ที่จ่ายแรงดันและกระแพร่พร้อมควบคุมมุมเฟส เพื่อทวนสอบค่าที่พาวเวอร์มิเตอร์ในแนวทางนี้เป็นแนวปฏิบัติที่ผู้ผลิตอุปกรณ์สอบเทียบแนะนำอย่างเป็นทางการ

หากทางลูกค้าต้องการสอบเทียบเครื่องมืดวัด Power Meter (พาวเวอร์มิเตอร์) แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ชนิดนี้ โดยใช้วิธีการสอบเทียบ Direct Measurement with Multifunction Calibrator และยังได้การรับรอง ISO/IEC 17025 จากสถาบัน สมอ. (TISI) อยู่ใน Scopeหน้าที่ 70,71และจากสถาบัน ANAB อยู่ใน Scope หน้าที่ 10,11 (ดูใบรับรอง)

การดูแลรักษาและการใช้งานอย่างถูกวิธี

การใช้เครื่องวัดกำลังไฟฟ้าอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้มาก การติดตั้งควรติดในจุดที่ไม่มีความชื้นหรือความร้อนสูงเกินไป หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีการสั่นสะเทือนมาก ก่อนต่อสายควรตรวจสอบว่าปิดเบรกเกอร์แล้วทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

หลังจากใช้งาน เครื่องมือวัด เสร็จควรถอดสายและทำความสะอาดเครื่องด้วยผ้าแห้ง ไม่ควรใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และควรส่งเครื่องเข้ารับการสอบเทียบตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น ปีละ 1 ครั้ง หรือเร็วกว่านั้นหากใช้งานบ่อยหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีสภาพไฟฟ้าไม่คงที่

สรุป

Power Meter เป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดและวิเคราะห์พลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม ช่วยให้เข้าใจรูปแบบการใช้ไฟฟ้า ตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องจักร และควบคุมการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากใช้อย่างถูกวิธี ดูแลรักษาสม่ำเสมอ และส่งสอบเทียบตามระยะ จะทำให้เครื่องมีความแม่นยำต่อเนื่องและช่วยให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และประหยัดที่สุด

Ref.

Fluke

IEEE Std.

 

ผู้เขียน THM Melo

 

 

 

สอบเทียบเครื่องมือ Electrical


ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

พูดคุยกับเรา