กระบวนการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมตามโรงงานแทบทุกพื้นของอุตสาหกรรมในประเทศไทยต้องมีการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้มาตฐานตามความต้องการของทางลูกค้า การใช้งานของ Torque Meter แต่ละ ยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะมี Max Range ของเครื่องมือบอกอยู่แล้วว่าสามารถใช้งานได้ที่เท่าไหร่ ดังนั้นเวลาใช้งานก็ไม่ควรใช้เกิน Max Range ของตัวเครื่องมือการส่งเครื่องมือวัดเข้ามาสอบเทียบเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ และเที่ยงตรงในการใช้งานของแต่ละ Max Range
ดังนั้น การกำหนดความถี่ในการสอบเทียบที่เหมาะสมจึงไม่ใช่เพียงยึดตามกรอบเวลาอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับรูปแบบการใช้งานจริง โดยเฉพาะการใช้งานใกล้หรือเกิน Max Range ที่จะเร่งให้เครื่องมือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และจำเป็นต้องสอบเทียบถี่กว่าปกติ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจกระทบต่อคุณภาพของงานและความปลอดภัยในการผลิต
ไม่ควรใช้น้ำมัน หรือ สารหล่อลื่นเช็ดทำความสะอาดตัว Torque Meter หลังจากใช้งานควรเช็ดและทำความสะอาดโดยทั่วไปและควรหาผ้ามาคลุ่ม หรือ กล่องเก็บ หลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง
ไม่ควรตั้ง หรือ วาง ตัว Torque Meter ในบริเวณพื้นที่ที่มีความชื้น และเปียก
ทุกครั้งที่ใช้งานตัว Torque Meter เสร็จควรคลายค่า Torque กลับสู่ค่าต่ำสุดของตัวเครื่องด้วยทุกครั้งหลังจากเลิกใช้งานเพื่อที่จะถนอมสปริงของแรงบิดในตัวเครื่องและถนอมตัวเครื่องให้ใช้งานได้นานๆ
ทุกครั้งที่มีการชาร์ทไฟเข้าตัวเครื่อง Torque Meter ควรใช้ Adapter ของเครื่องตัวมันเองเท่านั้นเพราะถ้าเกิดใช้ Adapter ที่ไม่ใช่ของที่มากับตัวเครื่อง เครื่องมืออาจชำรุดเสียหายได้เพราะไฟอาจจะเข้าเครื่อง Torque Meter เกินที่ตัวเครื่องมือจะรับได้
ควรส่ง Torque Meter สอบเทียบอยู่บ่อยๆ ตามรอบ Due หรือตามความเหมาะสม ถ้าลูกค้าใช้งานบ่อยมากกลัวว่าค่าที่ได้อาจมีปัญหาก่อนจะถึงรอบ Due ลูกค้าก็ควรส่งเครื่องมือเข้าสอบเทียบบ่อยมากกว่า 1 ครั้ง/ปี
Standard Plate สามารถเอามาใช้งานได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับทางผู้ใช้งานที่จะสร้างชิ้นงาน Standard Plate ขึ้นมาเพื่ออะไร เช่น เป็นมาสเตอร์ (Standard) ที่เอาใช้กำหนดความยาวและความกว้างของเนื้องาน
Standard Plate เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำในการผลิตและการวัด เช่น
Standard Plate เป็นชิ้นงานที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษจากความต้องการของลูกค้า ฉะนั้นควรที่จะทำการส่งสอบเทียบเพื่อวัดค่าของชิ้นงานที่สร้างขึ้นมาเพราะจะได้รู้ว่าขนาด (Dimension) ของ Standard Plate ที่ใช้งานอยู่ได้ค่าตรงตามความต้องการหรือไม่
ประเภทของเครื่องมือ
แบ่งออกเป็นได้ 2 ประเภท ได้แก่
Standard Plate ที่มีขนาดใหญ่ไม่สามารถรับกลับมาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการได้ ต้องไป ONSITE ที่หน้างาน
Standard Plate ที่มีขนาดเล็กสามารถรับกลับเข้ามาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการได้และสามารถเอาขึ้นสอบเทียบกับเครื่อง Coordinate Measuring Machine (CMM) ได้
วิธีการสอบเทียบ Standard Plate ในห้องปฏิบัติการของ CLC เบื้องต้น
ใช้ Probe CMM ลากวัดระยะเพื่อหาค่าความยาวของตัวชิ้นงานในแต่ละช่วงที่แบ่งไว้ทั้ง 3 ตำแหน่ง การวัดจะทำให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของ Standard Plate
ตามรูปด้านล่าง
ลักษณะของ Standard Plate (สอบเทียบในห้องแลป)
ขนาดชิ้นงานที่มีความยาวไม่เกิน 1000 mm. เพราะถ้าเกิน 1000 mm. จะไม่สามารถนำขึ้นสอบเทียบบนเครื่อง CMM ได้และตัวเครื่องมือสามารถที่จะเคลื่อนย้ายนำกลับมาสอบเทียบภายในห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ในรูปจะเป็น Standard Plate ขนาด 200 mm , 600 mm
ขนาดชิ้นงานจะมีความยาวตั้งแต่ 1000 mm. ขึ้นไปเคลื่อนย้ายในการสอบเทียบจะค่อนข้างลำบากเพราะมีขนาดใหญ่ไม่ควรที่จะส่งเข้ามาสอบเทียบภายในห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ในรูปด้านล่างจะเป็น Standard Plate ขนาด 2000 mm , 2500 mm , 3500 mm
Standard ที่ใช้ในการสอบเทียบ Standard Plate ในแบบประเภท (ON SITE)
ตัวอย่างเครื่อง Laser Tracker, Faro Model Vantage ของบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด
การสอบเทียบแบบ Onsite สำหรับเครื่องมือวัด Plate Standard
สิ่งที่จำเป็นคือการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในการสอบเทียบ (ON SITE) ให้อยู่ที่
สามารถออก ACCREDITED ANAB ในส่วนของ ON SITE จะใช้ SCOPE [CLC-CPCMM-04]
สามารถออก ACCREDITED ANAB ในส่วนของสอบเทียบในห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (In Lab) จะใช้ SCOPE [CLC-CPCMM-01]
CLC สามารถสอบเทียบอะไรให้ลูกค้าได้บ้าง
วัดระยะหาค่าความยาวของตัวเครื่องมือแต่ละ Range ที่ลูกค้ากำหนดมาที่ตัวชิ้นงานหน่วยการวัดจะออกมาเป็นหน่วย mm (มิลลิเมตร)
ลักษณะการใช้งานของ Standard Plate
ตัวชิ้นงานในรูปจะเป็น Standard Plate ที่นำเอามาใช้งานในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ประเภทยางรถยนต์ ซึ่งขนาดของยางจะมีไม่เท่ากันมีทั้งใหญ่และเล็ก ทางกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมยางเลยมี Standard Plate อยู่หลายขนาดขึ้นอยู่กับการผลิตของแต่ละขนาดแตกต่างกันออกไป Standard Plate จะถูกนำมา Set และใช้ Laser ยิงระยะไปที่ตัว Standard Plate เพื่อให้ได้ค่าที่ Set ไว้ของแต่ละขนาดออกมาได้มาตรฐานการผลิตที่กำหนด
งานอุตสาหกรรม วิศวกรรม หรือแม้กระทั่งงานออกแบบชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัตถุทรงกระบอก ไม่ว่าจะเป็นท่อ เพลา หรือถัง กลุ่มคำว่า OD และ ID มักถูกพูดถึงและใช้งานอยู่เสมอ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมาย และความแตกต่างที่ชัดเจนของทั้งสองคำนี้ บทความนี้จะช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้งานได้ถูกต้องและเหมาะสมกับงานจริง
OD คืออะไร?
OD หรือ Outer Diameter หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก ของวัตถุทรงกระบอก ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างขอบด้านนอกฝั่งหนึ่งถึงขอบด้านนอกฝั่งตรงข้าม ผ่านจุดศูนย์กลางของวัตถุ การวัด OD เป็นสิ่งสำคัญเพื่อกำหนดขนาดภายนอกของชิ้นงาน และมักใช้สำหรับการออกแบบพื้นที่การติดตั้ง การประกอบชิ้นส่วน หรือการเลือกอุปกรณ์ที่ต้องพอดีกับชิ้นงานนั้นๆ
ID คืออะไร?
ID หรือ Inner Diameter หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน ของวัตถุทรงกระบอก เป็นระยะห่างระหว่างขอบด้านในฝั่งหนึ่งถึงขอบด้านในฝั่งตรงข้าม ผ่านจุดศูนย์กลาง การวัด ID สำคัญในการออกแบบและควบคุมคุณภาพชิ้นงานที่มีลักษณะกลวง เช่น ท่อ กระบอกสูบหรือถัง ที่ต้องการขนาดภายในเพื่อคำนวณปริมาตร หรือการไหลของของเหลว
ทำไมต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่าง OD และ ID?
ในงานอุตสาหกรรม วิศวกรรม หรือแม้แต่การใช้งานทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนทรงกระบอก เช่น ท่อ เพลาหรือถัง เรามักได้ยินคำว่า OD (Outer Diameter) และ ID (Inner Diameter) ซึ่งเป็นขนาดที่สำคัญและจำเป็นต้องเข้าใจให้ชัดเจน แต่ทำไมเราถึงต้องรู้และเข้าใจความแตกต่างระหว่าง OD และ ID?
1. เพื่อการเลือกใช้ชิ้นส่วนที่เหมาะสม
การเลือกชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในระบบท่อ ระบบเครื่องจักร หรือระบบประกอบอื่น ๆ จำเป็นต้องรู้ขนาด OD และ ID อย่างแม่นยำ เพื่อให้ชิ้นส่วนที่นำมาใช้มีขนาดพอดี ไม่หลวมจนทำให้เกิดการรั่วซึมหรือเสียความแข็งแรง และไม่แน่นเกินไปจนประกอบไม่ได้
2. เพื่อการออกแบบและคำนวณที่ถูกต้อง
OD (Outer Diameter) และ ID (Inner Diameter) มีผลโดยตรงต่อการคำนวณปริมาตร น้ำหนัก หรือแรงดันในระบบ เช่น ID จะใช้ในการคำนวณพื้นที่หน้าตัดสำหรับของไหลที่ไหลผ่านในท่อ OD จะใช้ในการคำนวณความหนาของผนังท่อและความแข็งแรงของวัสดุ หากไม่เข้าใจความแตกต่าง อาจส่งผลให้คำนวณผิดพลาดและเกิดปัญหาตามมา
3. เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ขนาดที่ไม่เหมาะสม เช่น ท่อที่มี ID (Inner Diameter) เล็กเกินไป อาจทำให้เกิดแรงดันสะสมจนระเบิด หรือ OD (Outer Diameter) ที่ไม่พอดีกับอุปกรณ์อื่นอาจทำให้เกิดการรั่วซึม ทำงานผิดปกติหรือเกิดอุบัติเหตุได้
4. เพื่อการควบคุมคุณภาพและตรวจสอบงาน
ในการผลิตหรือซ่อมบำรุง จำเป็นต้องวัด OD (Outer Diameter) และ ID (Inner Diameter) อย่างแม่นยำเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า หรือชิ้นส่วนผ่านมาตรฐานที่กำหนด การวัดผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ต้องเสียเวลาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
We use cookies on our website to give you the most relevant experience by remembering your preferences and repeat visits. By clicking “Accept All”, you consent to the use of ALL the cookies. However, you may visit "Cookie Settings" to provide a controlled consent. อ่านเพิ่มเติม
This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functional
11 months
The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessary
11 months
This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-others
11 months
This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performance
11 months
This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policy
11 months
The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
Used to distinguish users and sessions. The cookie is created when the javascript library executes and no existing __utma cookies exists. The cookie is updated every time data is sent to Google Analytics.
__utmb
30 mins
Used to determine new sessions/visits. The cookie is created when the javascript library executes and no existing __utmb cookies exists. The cookie is updated every time data is sent to Google Analytics.
__utmc
End of browser session
Using by Google Analytics. Not used in ga.js. Set for interoperability with urchin.js. Historically, this cookie operated in conjunction with the __utmb cookie to determine whether the user was in a new session/visit.
__utmv
2 years
Used to store visitor-level custom variable data. This cookie is created when a developer uses the _setCustomVar method with a visitor level custom variable. This cookie was also used for the deprecated _setVar method. The cookie is updated every time data is sent to Google Analytics.
__utmz
6 months
Stores the traffic source or campaign that explains how the user reached your site. The cookie is created when the javascript library executes and is updated every time data is sent to Google Analytics.
message
-
This cookie is used to identify a website visitor that logged in or not. It contains a token that is used to know the website visitor status.