คลังเก็บหมวดหมู่: บทความ

การวัดสเกลขนาดรู ทำได้อย่างไร (TAPER GAUGE)

TAPER GAUGE คืออะไร

เมื่อกล่าวถึงโรงงานอุตสาหกรรมกับเครื่องมือวัดนั้น นับว่าเป็นของคู่กันเลยก็ว่าได้ เพราะขั้นตอนการผลิตชิ้นงานในอุตสาหกรรมนั้นต้องใช้ความละเอียดเพื่อให้ได้ค่าที่เป็นมาตราฐาน เครื่องมือวัดหลักๆ ใช้ในการวัดเพื่อให้ทราบระยะห่าง ความกว้าง ความยาว ความสูง และความลึก หรือขนาดในการกำหนดตำแหน่ง เครื่องมือวัด (Dimension) ในภาคอุตสาหกรรม ในขั้นตอนการผลิตจำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดที่มีความถูกต้องและความเที่ยงตรงซึ่งทำได้โดยการ สอบเทียบเครื่องมือวัด โดยเมื่อนำไปใช้งานในการวัดขนาดหรือค่าที่ต้องการ ค่าที่แสดงออกมาบนเครื่องมือวัดเหล่านี้ต้องมีความเชื่อถือได้ เพื่อรักษามาตรฐานของการผลิตเอาไว้ วันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องมือวัดความลึกชนิดหนึ่งที่ทางอุตสาหกรรมใช้กันนะคะ เครื่องมือชนิดนี้ก็คือ เกจวัดรู หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งว่า TAPER GAUGE นั้นเองคะ บางคนก็อาจจะยังไม่ค่อยรู้จักเพราะไม่เคยใช้หรือเคยได้ยินชื่อเครื่องมือตัวนี้มาก่อน ส่วนมากเป็นเครื่องมือวัดที่ใช้กันในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องบิน อุตสาหกรรมท่อ และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการจะนำไปวัดขนาดรู ซึ่งต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ชนิดนี้อยู่เป็นประจำค่ะ

TAPER GAUGE หรือเกจวัดรู ถ้าพูดถึงเฉยๆ คงนึกภาพไม่ออกถ้าอย่างนั้นเรามาดูลักษณะหน้าตากันก่อนนะคะว่ามีลักษณะอย่างไร ลักษณะของ TAPER GAUGE นั้นจะมีลักษณะรูปแบบเป็นเหมือนไม้บรรทัดรูปทรงสามเหลี่ยม คือด้านล่างจะแหลมเรียวยาวแล้วค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นไปทางด้านบน โดยขนาดจะเริ่มนับตั้งแต่ด้านล่างที่เล็กที่สุดคือจะเริ่มที่ขนาด 1 มิลลิเมตร(mm.) ไปจนถึงส่วนบนสุดจะมีขนาด 15 มิลลิเมตร (mm.) หรือจะมีขนาดที่มากกว่าตามแต่ลักษณะการใช้งานขนาดก็มีให้เลือกได้หลากหลายขนาดเช่นกัน นั่นก็ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานตามที่ต้องการจะวัดรูนั่นเองค่ะ

รูป TAPER GAUGE-1

 

TAPER GAUGE หรือเกจวัดรู

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดขนาดรูของชิ้นงาน ที่ต้องการมีความแม่นยำ เหมาะสำหรับตรวจสอบขนาดเส้นผ่านศูษย์กลางรู หรือ ขนาดช่องว่าง(Gap) มักใช้ในงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการวัดท่อ วัดความกว้างของหลุม วัดขนาดหลุม หรือวัดขนาดของแปลน เป็นต้น สำหรับ TAPER GAUGE หรือ เกจวัดรูนั้น มีหลายขนาดและหลากหลายแบบ มีทั้งเตเปอร์เกจแบบวัดลึกและไม้บรรทัด(STEEL RULER &TAPER GAUGE), แบบเตเปอร์เกจวัดเกลียวทรงกระบอก(CYLINDRICAL TAPER GAUGE) และเตเปอร์เกจแบบพลาสติก (PLASTIC TAPER GAUGE) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

รูป TAPER GAUGE &STEEL RULER -2

รูป CYLINDRICAL TAPER GAUGE-3

รูป TAPER GAUGE ขนาดต่างๆ – 4

สำหรับการใช้งานของเจ้าตัว TAPER GAUGE  หรือ เกจวัดรู ใช้สำหรับวัดขนาดรูหรือขนาดช่องว่างเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน ,วัดความกว้างของร่อง, รูรับแสง, การวัดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็กหลุมของชิ้นงานเพื่ออ่านค่าจากขีดแบ่งสเกลที่ไม่สามารถสอดเข้าไปได้และสำหรับการวัดส่วนต่างๆ ให้วางเกจไว้ด้านข้างที่มีส่วนต่างโดยวางขีดแบ่งสเกลในแนวนอนแล้วอ่านค่าที่ระดับความสูงเดียวกันเจ้าตัวนี้ผลิตจากสแตนเลสสตีลชุบแข็ง แถมเคลือบเงาด้าน (SATIN FINISH) ความแข็งนั้นเท่ากับ HV480 เลยทีเดียวคะ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีความทนทานมากเลยคะ

   

   

 รูปภาพแสดงการใช้งานของ TAPER GAUGE

ส่วนข้อดีของเจ้า TAPER GAUGE  หรือเกจวัดรู นั้นคือ สเกลแบบขั้นบันได ช่วยการอ่านค่าง่ายขึ้น โดยความยาวของขีดสเกลจะไม่เท่ากันเหมือนขั้นบันได โดยความยาวของแต่ละขีดจะเพิ่มขึ้น 0.1mm. ในระยะ 1mm. และทุกระยะ 0.2 mm. จะมีจุดมาร์คเพื่อง่ายต่อการอ่านอีกทั้งเก็บได้สะดวก ง่ายต่อการพกพาค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจเครื่องมือวัด TAPER GAUGE  หรือเกจวัดรู ตอนนี้ทาง CLC ของเรานั้น มีจำหน่ายของแบรนด์ SHINWA เป็น MODEL 700A พร้อมบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ทั้งของ สมอ.และ ANAB เพื่อให้ท่านเกิดความเชื่อมั่นในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยคะ

เป็นยังไงกันบ้างค่ะพอจะรู้จักเจ้า TAPER GAUGE ว่าคืออะไรกันบ้างไหมคะ หากใครพูดถึงชื่อนี้ก็คงจะทำให้เพื่อนๆ คิดนึกภาพเครื่องมือตัวนี้ออกบ้างนะคะ และหากผิดพลาดหรือตกหล่นประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ติดตามด้วยนะคะว่าเราจะเอาเครื่องมือวัดตัวไหนมาแนะนำเพื่อนๆได้รู้จัดกันอีกขอขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

ไม้บรรทัดเหล็ก (Steel Ruler) จำเป็นต้องดูแลรักษาและสอบเทียบเครื่องมือวัดจริงหรือ

การใช้งาน Thread Plug Gauge หรือเกจวัดเกลียวในนั้น มีวิธีอย่างไร และสามารถสอบเทียบอะไรได้บ้าง

 

 

ไม้บรรทัดเหล็ก (Steel Ruler) จำเป็นต้องดูแลรักษาและสอบเทียบเครื่องมือวัดจริงหรือ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ถ้าให้ย้อนไปในอดีตมีความทรงจำหรือเรื่องราวในวัยเรียนที่ต้องถูกคุณครูทำโทษด้วยไม้บรรทัดเหล็กกันบ้างไหมคะ คงต้องมีกันบ้างแหละ เพราะเป็นความทรงจำที่มิอาจลืมได้ลง สำหรับตัวไม้บรรทัดเหล็กที่แสนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเอาซะเลย วันนี้เราเลยจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับไม้บรรทัดเหล็กให้กับเพื่อนๆได้รับทราบรายละเอียดกันได้มากขึ้นตามไปอ่านกันเลยค่า
ไม้บรรทัดเหล็ก หรือ ฟุตเหล็ก หรือ Steel Ruler ที่เรียกแบบสากลทั่วไป เป็นอุปกรณ์ทางเรขาคณิตชนิดหนึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้งานในกลุ่มช่าง วิศวกรและกลุ่มน้องๆนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงพนักงานในโรงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการวัดชิ้นงาน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการใช้ ไม้บรรทัดเหล็กในการทำงาน
ไม้บรรทัดเหล็ก (Steel Ruler) มีหลากหลายรูปแบบ วัสดุที่ใช้คือจะทำมาจากเหล็กค่ะชุปด้วยโครเมี่ยม ซึ่งจะทนต่อการสึกหรอและทนต่อคราบน้ำมันค่ะ มีทั้งสเกลแบบหน่วยมิลลิเมตร(mm), เซนติเมตร(cm) และหน่วยนิ้ว(inch) ค่ะ ขึ้นอยู่กับรุ่นยี่ห้อของสินค้านะคะ ส่วนมากยี่ห้อที่นิยมใช้กันมากในท้องตลาดก็เช่นยี่ห้อ Shinwa, TRUSCO , ออร์ก้า, ไจแอ้นท์คิงคอง, SPOA และ อินคา และอาจมีอีกหลากหลายยี่ห้อที่ไม่ได้กล่าวไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งการใช้งานนั้นควรมีการส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่เป็นประจำ เพื่อความแม่นยำในการใช้วัดชิ้นงานค่ะ

รูปภาพ ไม้บรรทัดเหล็ก – 1

สำหรับการนำมาใช้งานนะคะ  จะใช้ในการวัดความยาว ความกว้าง ความสูง เป็นต้น ซึ่งจะเป็นงานที่ไม่ต้องการความแม่นยำมากนัก ใช้ในงานวัดแบบหยาบ เป็นเพียงแค่การวัดค่าเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อความสะดวกของการทำงานของผู้ใช้งานที่ต้องการวัดค่าคร่าวๆเท่านั้น  แล้วก็เลือกใช้หน่วยวัดตามที่ถนัด คือหน่วย  mm, cm และ inch ซึ่งขนาดคามยาวของไม้บรรทัดเหล็กหรือฟุตเหล็กจะมีตั้งแต่ 150 mm. ไปจนถึง 4000 mm เลยทีเดียวค่ะ

 

รูปภาพ ไม้บรรทัดเหล็ก – 2

การดูแลและการบำรุงรักษาไม้บรรทัดเหล็ก Steel Ruler

เนื่องจากฟุตเหล็กใช้ในงานวัดแบบหยาบ ไม่มีความแม่นยำมากนัก ดังนั้นผู้ใช้งานที่ทำงานในระบบ ISO  จึงจำเป็นต้องส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเครื่องมือไม้บรรทัดเหล็ก มีค่าความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้หรือไม่ (MPE) สำหรับการดูแลรักษา ควรเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป และควรเก็บในตู้เก็บอุปกรณ์ เพื่อป้องกันการขูดขีดหรือร่องรอยที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะทำให้มีผลต่อค่าของการวัดได้ เก็บให้พ้นสถานที่ที่ชื้น มีน้ำขัง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมค่ะ

สำหรับการใช้งานทั่วไป หากใช้งานบ่อยเกินไปอาจทำให้มีการยุบหรือบิ่น หรือเมื่อใช้ไปจนเป็นเวลานานแล้ว แนะนำให้ซื้อใหม่เนื่องจากไม้บรรทัดอาจมีการสึกได้ค่ะ  จะมีผลทำให้การวัดผิดพลาดไปมาก จนทำให้งานที่วัดออกกมาเสียหายได้  ซึ่ง ไม้บรรทัดเหล็กราคาไม่สูงมีทั้งหลักร้อยจนถึงหลักพัน หาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด

สำหรับการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าใครหรือผู้ใดที่จะนำไม้บรรทัดเหล็กเข้ามาจำหน่ายหรือขายให้กับผู้อื่น เครื่องมือวัดชนิดนี้จะถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะต้องเกี่ยวข้องกับส่วนของชั่งตวงวัด จะต้องทำการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจ และต้องมีการส่งไม้บรรทัดเหล็กไปตรวจรับรองที่ สำนักงานกลางชั่งตวงวัด โดยจะมีหมายเลขตรวจรับรองและมี Sticker ตราครุฑติดที่ไม้บรรทัดเหล็ก

*** ในทางกฎหมายการที่จะต้องติดตราครุฑนั้น ไม้บรรทัดเหล็ก จะต้องมีขนาด 1 เมตร (m) ขึ้นไปที่ต้องมีการส่งเข้าไปตรวจรับรอง***

 

 

มาถึงสุดท้ายตรงนี้แล้วเป็นยังไงกันบ้างค่ะกับข้อมูลรายละเอียดของไม้บรรทัดเหล็กที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรเลยพอจะดูมีอะไรกับเค้าขึ้นมาบ้างไหมคะ หากข้อมูลที่นำเสนอมานี้มีประโยชน์กับเพื่อนๆ ก็ขอฝากแชร์ข้อมูลให้ต่อด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

Coating Thickness Gauge (เครื่องวัดความหนาผิวเคลือบ) คืออะไร

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

 

 

 

 

ประเภทของเครื่องมือวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ หรือ Dry-Wet Bulb

Dry-Wet Bulb

Dry-Wet Bulb คือ เครื่องมือวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งบางคนเรียกว่า เครื่องมือวัดความชื้นในอากาศ หรือ เครื่องวัดอุณหภูมิกระเปาะเปียก-กระเปาะแห้ง เครื่องมือชนิดนี้ทำหน้าที่วัดค่าความชื้นในอากาศ ซึ่งความชื้นในอากาศมีผลต่อเราทั้งในชีวิตประจำวันหรือการใช้งานในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์สำหรับการวิเคราะห์ทางอุตุนิยมวิทยา, การวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์เพื่อควบคุมสภาวะต่างๆ ในการทำงาน, การอุณหภูมิของรอยเชื่อมของเครื่องเชื่อมเลเซอร์, ห้องสมุดหรือพิพิธภัณฑ์ ที่ความชื้นในอากาศจะส่งผลต่อหนังสือและวัตถุมีค่าที่ไวต่อความชื้น รวมถึง การขนส่งและคลังสินค้า การก่อสร้าง ซึ่งใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ ในการประเมินการวางแผนงานต่างๆ เป็นต้น

Dry-Wet Bulb มีส่วนประกอบหลักอะไรบ้าง

ใน Dry-Wet Bulb จะประกอบด้วยเครื่องมือวัด 2 ชนิด คือ

  1. Dry Bulb Temperature หรือ อุณหภูมิกระเปาะแห้ง ทำหน้าที่วัดอุณหภูมิทั่วไป ไม่ได้อยู่ภายใต้ผลกระทบของความชื้นในอากาศ
  2. Wet Blub Temperature หรือ อุณหภูมิกระเปาะเปียก ทำหน้าที่วัดอุณหภูมิเหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ Wet Blub Temperature จะถูกหุ้มด้วยผ้าเปียก เมื่อมีอากาศผ่านตัววัดอุณหภูมิที่ถูกคลุมด้วยผ้าเปียกน้ำก็จะระเหยออกไปพร้อมกับความร้อน
  •  หากในอากาศมีความชื้นต่ำ (อากาศแห้ง) น้ำในผ้าเปียกก็จะระเหยออกไปเร็วขึ้น ความร้อนก็ถูกระบายออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง
  • แต่ถ้าหากในอากาศมีความชื้นสูงเท่าไหร่ การระเหยก็จะเป็นไปได้ช้าลงเท่านั้น เมื่อระเหยช้าความร้อนกถูกระบายออกไปช้า อุณหภูมิก็จะสูงขึ้น

ซึ่งผลต่างของ อุณหภูมิกระเปาะแห้ง กับ อุณหภูมิกระเปาะเปียก ก็คือ ค่าความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity หรือ RH) ถ้าผลต่างน้อยก็หมายความว่าในอากาศมีปริมาณน้ำหรือความชื้นน้อย แต่ถ้าหาก อุณหภูมิกระเปาะแห้ง กับ อุณหภูมิกระเปาะเปียก มีค่าเท่ากัน ความชื้นสัมพัทธ์จะเท่ากับ 100% หมายความว่าในอากาศเต็มไปด้วยไอน้ำ จนไม่สามารถกักเก็บน้ำหรือไอน้ำได้อีก

Dry-Wet Bulb ที่ใช้งานกันโดยทั่วไปมีอยู่ 2 แบบ คือ

  1. Dry-Wet Bulb Thermometer [LIG]

เครื่องมือวัดความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ แบบเรียบง่าย มีข้อดีตรงที่มีราคาประหยัด ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ความคลาดเคลื่อนน้อย แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถบอกค้าได้อย่างละเอียดแม่นยำนัก และต้องใช้การอ่านค่าด้วยตนเอง จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรม หรืองานที่ต้องการความละเอียดแม่นยำ

รูป Dry-Wet Bulb แบบ THERMOMETER [LIG]

  1. .DIGITAL DRY-WET BULE THERMOMETER

เครื่องมือวัดความชื้นสัมพัทธ์ แบบดิจิตอล นิยมใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ข้อดีคือ มีหน้าจอ LCD ที่บอกค่าได้อย่างละเอียดแม่นยำ พร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลายตอบสนองต่อการใช้งาน แต่ข้อเสียคือ มีราคาพอสมควร และจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ในการอ่านค่าและการแสดงผล และจำเป็นต้องหมั่นดูแลทำความสะอาด และนำเครื่องเข้ารับการสอบเทียบเครื่องมือวัด หรือ Calibrate (แคลิเบรท) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

รูป Dry-Wet Bulb แบบ DIGITAL

ห้องปฏิบัติการของบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO., LTD หรือ CLC) สามารถ Calibrate (แคลิเบรท) หรือ สอบเทียบเครื่องมือวัด (ด้านอุณหภูมิและความชื้น) Dry-Wet Bulb ได้ที่อุณหภูมิ TEMP 15 – 45 ºC และความชื้น HUMIDITY 30 – 90 (% RH) โดย Standard ที่ใช้ในการสอบเทียบเครื่องมือวัด ได้แก่ CHILLED MIRROR HYGROMETER, TEMPERATURE & HUMIDITY CHAMBER, CALIBRATION BATH, PRECISION THERMOMETER

นอกจากนี้ ห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) ยังได้รับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI) และจาก ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถให้บริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ภายใต้การควบคุมดูแลของทีมงานสอบเทียบเครื่องมือวัดที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านในแต่ละสาขาการวัด เพื่อให้การสอบเทียบมีคุณภาพ

By Gaem Yui

 

Oven คืออะไร?? แล้วทำไมเราจึงต้องสอบเทียบ

บริการ สอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

เครื่องชั่งสาร (แบบคาน) เป็นยังไงกันนะ ใช้งานอะไรได้บ้าง

เครื่องชั่งเป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ทุกคนเคยเห็นกันอย่างชินตาไม่ว่าจะไปซื้อของที่ตลาดโรงพยาบาล หรือสถานที่ต่างๆ ก็มักจะเห็นกันอยู่ทั่วไป เครื่องชั่งสารมีอยู่หลายชนิด เป็นเครื่องมือใช้วัดน้ำหนักมนุษย์และสัตว์เพื่อตรวจมวลกระดูกหรือตรวจสุขภาพในโรงพยาบาล ตวงวัดส่วนผสมหรือสารต่างๆ ในการผลิตสินค้า ตวงวัดสิ่งของหรือสินค้าเวลาซื้อขายกัน หรือแม้กระทั่งการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ต้องใช้ปริมาตรในการวัด เป็นต้น  เครื่องชั่งในปัจจุบันนี้ มีวิวัฒนาการและมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นมาก ทำให้มีเครื่องชั่งหลากหลายประเภทและรูปแบบให้เลือกใช้งานกันตามความเหมาะสมและตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้งานและมีความละเอียดสูงแต่ก็มีบางประเภทที่ใช้งานเฉพาะด้าน ซึ่งในวันนี้ บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) จะพามาทำความรู้จักเครื่องชั่งอีกหนึ่งชนิดที่คนยังไม่ค่อยรู้จักกันดีเท่าไหร่นัก นั่นคือ!!!!

Beam Balance เครื่องชั่งสารแบบคานชั่ง

เครื่องชั่งสารแบบคาน (Beam Balance) เป็นเครื่องชั่งแบบกลชนิดหนึ่งที่นิยมใช้งานชั่งตวงวัดสารต่างๆ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ ซึ่งส่วนใหญการชั่งสารเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ(Quantitative Analysis) เปรียบเทียบกับสารมาตรฐานที่ต้องการทราบปริมาณหรือความเข้มข้นที่แน่นอน มีหน่วยการวัดคือหน่วย กรัม (g) ข้อดีคือมีราคาถูก เครื่องไม่ใหญ่มาก สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ใช้พื้นที่ในการเก็บน้อยและใช้งานง่าย แต่มีข้อเสียคือการตอบสนองช้า

เราสามารถแบ่ง เครื่องชั่งสารแบบคาน (Beam Balance) ออกเป็น 2 ประเภทคือ จานเดียว (Triple Beam Balance) และแบบจานคู่ (Equal-arm Balance)

เครื่องชั่งสารชนิดจานเดียว (Triple Beam Balance) เป็นเครื่องมือวัดที่มีลักษณะเป็นคาน จำนวนสามคานไว้สำหรับใส่ตุ้มน้ำหนักขนาดมาตรฐาน ขนาด 0-10กรัม, 10-100กรัม, 100-500กรัม ความละเอียด 0.1กรัม คานทั้งสามใช้เข็มชี้วัดอันเดียวกัน ฐานทำด้วยโลหะเคลือบสีกันสนิม เหมาะสำหรับการชั่งวัตถุหรือสารน้ำหนักขนาดปานกลาง มีจานชั่งวางอยู่บนคานชั่งอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือซึ่งสั้นกว่าด้านฝั่งขวา จำนวน 1 จาน สกรูปรับสมดุลซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของจานชั่ง 1อัน คานชั่งฝั่งขวามือด้านยาวมี 3 คาน แบ่งสเกลอ่านค่าน้ำหนักออกเป็นช่วงๆ ยกตัวอย่างเช่น 0-1 กรัม, 0-50 กรัม และ 0-100 กรัม มีตุ้มน้ำหนักมาตรฐานไว้สำหรับปรับค่าน้ำหนักที่อยู่บนคานชั่ง คานละ1 ก้อน รวมทั้งหมด 3ก้อน เข็มชี้อยู่ที่ปลายคานชั่งด้านยาว โดยจะชี้เลข 0 บนสเกล เมื่อคานชั่งสมดุลกันและขนานกับพื้นโลก

วิธีการใช้เครื่องชั่งสารชนิดจานเดียว (Triple Beam balance)

  • ตั้งเครื่องชั่งและปรับคานชั่งให้อยู่ในแนวระนาบเดียวกัน โดยหมุนปรับสกรูสมดุลให้เข็มชี้อยู่ตรงขีด 0
  • ใส่ตุ้มน้ำหนักไว้บนคานทั้งสามก้อน (1 ก้อน ต่อ 1 คาน ตามขนาด)
  • นำสารที่ใส่ในภาชนะแล้วไปวางไว้บนจานเครื่องชั่ง
  • เลื่อนปรับตุ้มน้ำหนักบนคานทั้งสามเพื่อปรับสมดุลที่สเกลให้เข็มชี้ตรงขีด 0
  • อ่านสเกลน้ำหนักบนคานเครื่องชั่ง แล้วบันทึกค่า
  • นำภาชนะบรรจุสารออกจากจานของเครื่องชั่งแล้วเลื่อนตุ้มน้ำหนักทุกอันที่อยู่บนคานให้อยู่ที่0
  • ทำความสะอาดเครื่องชั่ง และเก็บเข้าที่
  • ควรส่งเครื่องชั่งสารชนิดจานเดียว (Triple Beam balance)เข้ารับการสอบเทียบเครื่องมือวัด หรือ Calibrate (แคลิเบรท) เพื่อเช็คค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ

หมายเหตุ การหาน้ำหนักของสาร อาจหาน้ำหนักทั้งภาชนะบรรจุสารและสารรวมกันก่อนเลยก็ได้ แล้วค่อยชั่งภาชนะบรรจุสารอย่างเดียวทีหลัง ต่อจากนั้นก็เอาน้ำหนักทั้ง 2 ครั้งลบกัน ผลที่ได้จะเป็นน้ำหนักของสารที่ต้องการ เช่นการใช้เพื่อชั่งสารเคมี เป็นต้น

เครื่องชั่งสารชนิดจานคู่ (Equal-arm Balance) เป็นเครื่องมือวัดที่มีลักษณะเป็นคานเดียวยาวเท่ากันทั้งสองด้าน จานชั่งทำมาจากสแตนเลสมีอยู่สองจานชั่ง อยู่ฝั่งซ้ายกับฝั่งขวามือโครงสร้างและตัวฐานของเครื่องทำมาจากทำมาจากเหล็กมีเข็มสมดุล (เลข 0) วางอยู่บนคานตรงกลางระหว่างจานชั่งทั้งสอง จานด้านซ้ายใช้สำหรับวางสารหรือวัตถุที่จะชั่ง ส่วนด้านขวามือสำหรับวางตุ้มน้ำหนัก สิ่งที่จะวางบนจานชั่งทั้งสองข้าง ควรวางตรงบริเวณกึ่งกลางของจานชั่งเสมอ ความละเอียดของเครื่องชั่ง 0.1 กรัม มีสกรูหมุนสำหรับปรับสมดุลให้อยู่ในแนวขนานกับพื้นโลก โดยจะอยู่ตรงกลางของเครื่องชั่ง ตุ้มน้ำหนักจะมีเป็นชุดหลายขนาดรวมอยู่ในกล่องเดียวกัน เมื่อใช้เสร็จให้กดปุ่มหมุนลง ยกตุ้มน้ำหนักออกเก็บใส่กล่อง และนำวัตถุหรือสารที่ชั่งออกจากจานชั่ง เลื่อนตุ้มน้ำหนักบนคานกลับไปไว้ที่ตำแหน่ง 0 และทำความสะอาดเครื่องชั่ง

ข้อควรระวังและคำแนะนำในการใช้งาน

  • ไม่ควรชั่งวัตถุเกินขนาดหรือเกินขีดจำกัดของเครื่อง เพราะจะทำให้เครื่อง Overload หรือชำรุดได้
  • การเก็บรักษาเครื่องชั่งอย่างถูกวิธี จะทำให้เครื่องชั่งมีอายุการใช้งานได้นานขึ้น
  • การวางเครื่องชั่ง ควรวางไว้บนพื้นราบที่มีความแข็งแรงมั่นคง
  • ไม่ควรเคลื่อนย้ายเครื่องอยู่บ่อยๆ การเคลื่อนย้ายเครื่องชั่งบ่อยๆ อาจทำให้เครื่องชั่งชำรุดและทำให้การชั่งคลาดเคลื่อนได้
  • ควรใส่ถุงมือหรือใช้คีมหยิบตุ้มน้ำหนักทุกครั้ง ไม่ควรใช้มือเปล่าหยิบตุ้ม เพราะจะทำให้เกิดสนิมหรือมวลผิดค่าได้
  • หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน การตกกระทบหรือกระแทกเครื่องแรงๆ อาจทำให้เครื่องชั่งได้รับความเสียหายได้
  • วัตถุที่จะชั่งต้องไม่ร้อนหรือเปียกชื้น ถ้าเป็นสารเคมีต้องบรรจุในภาชนะ
  • ไม่ควรชั่งสารเคมีบนจานชั่งโดยตรง เพราะจะทำให้จานเปรอะเปื้อนและสารบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับวัสดุที่ทำจานชั่ง ทำให้เกิดการผุกร่อน ซึ่งส่งผลให้เครื่องชั่งคลาดเคลื่อนหรือชำรุดเสียหายได้
  • ไม่ควรแตะจานชั่งในขณะที่คานชั่งกำลังแกว่ง
  • ควรส่งเครื่องชั่งสารแบบคานชั่งเข้ารับการสอบเทียบเครื่องมือวัด หรือ Calibrate (แคลิเบรท) เพื่อเช็คค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง ห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) สามารถให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดประเภท เครื่องชั่งสารแบบคาน (Beam Balance) ที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง

การสอบเทียบเครื่องมือวัด

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO.,LTD หรือ CLC) มีห้องปฏิบัติการมวลและเครื่องชั่ง ที่สามารถให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดได้ทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องชั่งวิเคราะห์สำหรับงานละเอียดที่มีความถูกต้องแม่นยำสูง ไปจนถึงเครื่องชั่งอุตสาหกรรมทุกขนาด รวมถึงเครื่องชั่งสารแบบคาน (Beam Balance) ซึ่งรองรับได้ตั้งแต่ 0 จนถึง 2,500 Kg. การ calibrate เครื่องชั่ง เราสามารถให้บริการได้ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ พร้อมทีมช่างสอบเทียบผู้ชำนาญงานสอบเทียบเครื่องมือวัด โดยใช้ Standard Weight ในการสอบเทียบเครื่องมือวัด

Credited By Timnorton

 

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

Torque Wrench Checker เครื่องมือวัดค่าอะไร รุ่น TTC-60 ดีอย่างไร

เพื่อนๆ รู้จัก Torque Wrench Checker กันหรือไม่คะ ว่าเครื่องมือวัดชนิดนี้คืออะไร แล้ว Torque Wrench Checker ทำงานยังไง สามารถนำไปใช้กับอะไรได้บ้าง Calibration Laboratory (CLC) จะมาพูดถึงตัว Torque Wrench Checker กันสักรุ่นหนึ่งให้รู้จักกันเบื้องต้นนะคะ และสำหรับเครื่องมือที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ TORQUE WRENCH CHECKER, TTC-SERIES  จากยี่ห้อTONE รุ่น TTC-60 ค่ะ

รูป Torque Wrench Checker รุ่น TTC-60

เครื่องตรวจสอบค่าแรงบิด (Torque Wrench Checker) เป็นเครื่องมือวัดที่มีความสำคัญมากสำหรับโรงงานที่ผลิตหรือประกอบชิ้นงานต่างๆ ที่มีการใช้ประแจปอนด์(ประแจทอร์ค) Torque Wrench ในการทำงานค่ะ ในท้องตลาดโดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องมือวัด Torque Wrench Checker  ที่ได้ยินกันคุ้นหู ได้แก่ ยี่ห้อ TONE, TOHNICHI, CEDAR, HIOS, SUNDO, NEXTECH  เป็นต้น ซึ่งเราจะมาพูดถึงการใช้งาน Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-60 กันค่ะ

Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-60 นี้มีช่วงการใช้งานเริ่มที่ 2 – 60 N.m ค่ะ สามารถขันใช้งานได้ในทิศทางตามเข็มนาฬิกาเท่านั้น (CW) มีค่า Accuracy ± 1%RD  ซึ่งเหมาะสมที่จะนำมาเช็คค่า ประแจปอนด์ Torque Wrench เป็นอย่างมากเพราะมีความแม่นยำสูงมากค่ะ  สำหรับการใช้งานคือใช้สำหรับเช็คค่า ประแจทอร์ค เบื้องต้นก่อนนำไปขันใช้งานในโรงงาน ว่าเครื่องมือยังอยู่ใน Spec  หรือไม่ หากตรวจสอบค่าแล้วพบว่าไม่อยู่ใน Spec แล้ว ควรส่งเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อทำการสอบเทียบเครื่องมือวัดทันที เพื่อปรับค่าให้อยู่ใน Spec หรือทำการส่งซ่อมกับผู้ผลิตค่ะ

Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-60 จะเหมาะกับการใช้งานกับ ประแจปอนด์ Torque Wrench ขนาดเล็กประเภท Manual ค่ะ ที่มีขนาดแรงบิดไม่มากนัก ยกตัวอย่างเช่น รุ่น TTC-60 นี้ก็จะเช็คได้ในช่วง 2 – 60 N.m เท่านั้น หากแรงบิดมากว่านั้นต้องใช้ในรุ่นที่มีขนาดสูงเท่านั้น หากแรงบิดมากว่านั้นต้องใช้ในรุ่นที่มีขนาดสูงขึ้น ซึ่งเราจะมาเล่าให้ฟังอีกในครั้งหน้าค่ะ

รูป Torque Wrench Checker รุ่น TTC-60 พร้อมอุปกรณ์

สำหรับวิธีการใช้งานนั้นมีขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยาก ใช้ง่ายแม้ว่าจะเป็นผู้หญิง เพราะออกแรงไม่มาก ใช้แรงค่อนข้างน้อย ไม่เหมือนเครื่องมือวัดที่เป็นรุ่นใหญ่จะใช้การออกแรงมาก โดยการใช้งานมีขั้นตอนไม่มากนัก ดังนี้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มต้นจากการนำเครื่องมือวัด เครื่องตรวจสอบค่าแรงบิด (Torque Wrench Checker) รุ่น TTC-60 นำมายึดด้วยน็อตทั้ง 4 มุม ดังรูปที่ 1 เพื่อไม่ให้เครื่องมือเคลื่อนที่ขณะขัน ซึ่งจะมีอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องดังนี้ค่ะ

Accessories

  • Adapter: concave 6.35 mm x 12.7 mm, convex concave 9.5 mm x convex 12.7 mm
  • Convex Hexagon adapter: convex 19 mm x 12.7 mm, convex convex 27 mm x 12.7 mm convex
  • AC adapter: 100 ~ 240 V, 50 – 60 Hz
  • Fixing bolt:M10×40 cap bolts, including washers, nuts, 4

ขั้นตอนที่ 2  การเลือกโหมด ซึ่ง มีให้เลือก 3 Mode ค่ะ ดังนี้

  • Track mode  คือ ให้ค่า Real Time ตามแรงที่ Apply
  • Peak mode   คือ สามารถตั้งค่าให้แสดงที่หน้าจอได้นาน 2-8 วินาที แล้วตัวเครื่องจะกลับมา Set zero เอง
  • Peak hold     คือ ตัวเครื่องจะแสดงค่าค้างไว้ที่หน้าจอ ถ้าจะ Apply แรงใหม่ต้องกด Set zero ทุกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3  นำ Torque Wrench ที่ต้องการ Check ค่า ใส่กับ Adaptor ที่มากับเครื่อง ( ต้องแน่นพอดี ห้ามหลวม) พร้อมปรับค่าแรงที่ Torque Wrench ที่ต้องการเช็คค่ะ เช่น ต้องการเช็คที่ 10 m ก็ให้ปรับตั้งค่าไปที่ 10 N.m หรือตามที่ต้องการเช็คได้ตามใจเลยค่ะ แต่ต้องตั้งค่าไม่เกิน 60 N.m เพราะเครื่องมือรุ่นนี้สามารถเช็คได้แค่แรงเท่านี้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 4  เสียบหัว Torque Wrench  เข้ากับตัวเครื่อง TTC-60  แล้วให้แรง ตามเข็มนาฬิกา เท่านั้นนะคะ (ห้ามทวนเข็มนาฬิกา) เพราะเครื่องอาจเสียหายได้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 5  ทำการอ่านค่าที่หน้าจอแสดงผล ว่าค่าที่ตรวจสอบได้อยู่ในเกณฑ์การยอมรับ (MPE) ได้หรือไม่ โดยควรทำการตรวจสอบซ้ำ 2-3 ครั้งหรือมากกว่าค่ะ หากทำซ้ำแล้วค่าที่ตรวจสอบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่า Torque Wrench มีค่าจริง (DUC) ตามนั้น หากค่านั้นมีการ Out spec ควรส่งซ่อมเพื่อปรับตั้งค่าให้ตรง แล้วนำมาทวนสอบใหม่อีกครั้งค่ะ

ส่วนในเรื่องของข้อควรระวังในการใช้เครื่องมือวัด Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-60 นี้ จะเป็นเครื่องมือใช้สำหรับตรวจเช็คค่า ประแจทอร์ค Torque Wrench ที่เป็นประเภทแบบ Manual เท่านั้น   ห้ามนำ Torque ไฟฟ้า หรือ Toruqe ลม นำมาขันเช็คค่าเด็ดขาด เนื่องจากเครื่องมือ Torque Wrench Checker  ไม่มี Spring เพื่อรับแรงกระแทกในการใช้งาน และไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับ Torque ไฟฟ้า หรือ Toruqe ลมนะคะ  เพราะจะทำให้เครื่องมือ Torque Wrench Checker เสียหายได้ค่ะ ต้องระวังในส่วนนี้กันด้วยนะคะ

และสุดท้ายนี้ในเรื่องของการเก็บรักษานั้น

  • ไม่ควรเก็บในที่ชื้นหรืออากาศร้อนจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เครื่องมือเสื่อมสภาพได้ง่ายค่ะ
  • ควรมีกล่องเก็บอุปกรณ์ หรือตู้เก็บอุปกรณ์ในการจัดเก็บ
  • มีคู่มือการใช้งานให้ผู้ใช้งานได้อ่านศึกษาทำความเข้าใจก่อนใช้งาน เนื่องจาก Torque Wrench Checker เป็นเครื่องมือระดับ Standard  มีราคาค่อนข้างสูง จึงควรใช้งานให้ถูกต้องเพื่อป้องกันเครื่องมือเสียหายได้ค่ะ

ส่วนการส่งสอบเทียบเครื่องมือวัดประเภทนี้ ควรส่งสอบอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเครื่องมือ Torque Wrench Checker ยังอยู่ใน Spec

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น หวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะเข้าใจการในการทำงานการใช้งานเครื่องมือวัดประเภท Torque Wrench Checker  และสามารถนำไปใช้ประโยชน์กันได้บ้างนะคะ  หรือหากสนใจ ซื้อเครื่องมือวัด Torque Wrench Checker รุ่น TTC-500 สามารถคลิกที่นี่ได้เลยค่ะ ครั้งหน้าจะมีรุ่นที่เป็นรุ่นของ เครื่องตรวจสอบค่าแรงบิด  รุ่น TTC-500 ที่มีช่วงการใช้งานขนาดกลางมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะกับบทความต่อไป แล้วเจอกันอีกครั้งค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

 

 

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

  ซื้อเครื่องมือด้านแรงบิดและแรง   บริการสอบเทียบด้านแรงบิดและแรง

—————

VDO l รีวิวการทดลองใช้งาน l Torque Wrench Checker แบรนด์ TONE [รุ่น TTC-60]

VDO l รีวิววิธีการใช้ Torque Wrench [ แบรนด์ TONE ] l ใช้สำหรับชิ้นงานทั่วไปและ หัวประแจปากเลื่อน

ทำไมต้องใช้ เครื่องชั่ง Vibra SJ-12KCEN

ลือก เครื่องชั่งละเอียด ( Digital Balance )แบบไหนดีนะ? 

คงตอบไม่ถูกเหมือนกันถ้าเราไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่า เครื่องชั่งแบบไหนมีข้อดียังไง ซื้อเครื่องชั่ง แบบไหนดี วันนี้ Calibration Laboratory (CLC) มีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันมีเครื่องชั่งหลากหลายแบรนด์ที่มีการแข่งขันทางด้านการค้าอย่างมากทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ เช่น แบรนด์ SARTORIUS , METTLER TOLEDO, OHAUS , AND, JADEVER, CAS, SHIMADZU และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายหลากหลายให้เลือก นอกจากสินค้าที่ต้องมีคุณภาพจึงจะสามารถอยู่รอดในการแข่งขันธุรกิจ อุตสาหกรรมนั้นๆ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือความซื่อสัตย์ที่ต้องมีต่อลูกค้าทุกระดับในทุกทุกกิจการ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้อุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ สารเคมี อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมรถยนต์ งานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมเครื่องบิน ฯลฯ และเพื่อให้คุณสามารถทำการแข่งขันในตลาดได้อย่างไม่เป็นรองใครนั้น เครื่องชั่งที่ใช้ต้องมีคุณภาพสูง และต้องผ่านการ สอบเทียบเครื่องชั่ง อย่างเป็นประจำ เราจึงอยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับเครื่องชั่งอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพสูงคุณภาพดีอย่างแบรนด์ VIBRA รุ่น  SJ-12KCEN  

เรามาดูข้อมูลรายละเอียดของเครื่องชั่งรุ่น SJ-12KCEN นี้กันเลยว่าเป็นอย่างไร

SJ-12KCEN

เป็นเครื่องชั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของท่านได้ดีที่สุดด้วยหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ พร้อมแสงด้านหลังสีขาวช่วยให้การชั่งน้ำหนักทำได้ง่ายและสะดวกสบายแม้อยู่ในที่มืด สามารถปรับระดับขาของฐานเครื่องชั่ง พร้อมระดับน้ำสำหรับความสมดุลนอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานในรูปแบบการหักค่าภาชนะ (Tare) การอ่านค่าเป็นเปอร์เซนต์ (%) การนับชิ้นงาน (Count) รวมถึงการ Memory จดจำน้ำหนักของวัตถุที่ทำการชั่งได้ด้วย สำหรับ MODEL : SJ-12KCEN

ข้อดีของ SJ-12KCEN  นั้นก็มีด้วยกันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งานซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขนาดกระทัดรัด สามารถติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่ขนาดเล็ก มีความเที่ยงตรงและแม่นยำด้วยระบบ Stabilizationช่วยให้มั่นใจได้ถึงการชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องได้อย่างแม่นยำ มีการตอบสนองนั้นรวดเร็วในส่วนของปุ่มการใช้งานรูปแบบปุ่มเป็นปุ่มที่สามารถใช้งานเรียบง่ายไม่ซับซ้อนและมีหน้าจอเป็นแบบจอ LCD ที่มีขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจนสะดวกในการใช้งาน

พูดถึงข้อดีไปแล้วจะก็มาดูกันว่า SJ-12KCEN มีข้อเสียอะไรบ้างถ้าจะให้แยกข้อเสียจริงๆ ก็แทบจะไม่มีข้อเสียอะไรมากมายเลยจะมีบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราจะมาแยกให้ดูเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  1. หากมีแรงสั่นสะเทือน หรือมีกระแสลมมากจะส่งผลให้ตัวเลขแบบดิจิตอลอ่านค่าไม่นิ่ง
  2. วัสดุงานที่นำมาชั่งมีสิ่งสกปรก, ได้รับแรงกระแทกจากภายนอกหรือ ลูกตุ้มที่นำมาใช้ไม่ได้มาตราฐานพอนั้น จะส่งผลให้การอ่านค่าคำนวณเครื่องชั่งไม่ถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเครื่องมือหรือวัสดุที่เป็นส่วนประกอบที่จะนำมาชั่งไม่ได้มาตรฐานก็ย่อมมีผลต่อการชั่งทุกรูปแบบอยู่แล้ว
  3. วัสดุโครงสร้างนั้นไม่กันน้ำเนื่องจากเป็นรุ่นที่ไม่มี IP67

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเรื่อง เครื่องชั่งละเอียด MODEL : SJ-12KCEN ยี่ห้อ VIBRA แบบดิจิตอล( Digital Balance ) หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยสำหรับท่านที่สนใจเครื่องชั่งดิจิตอล MODEL : SJ-12KCEN ยี่ห้อ VIBRA

หากท่านกำลังมองหาเพื่อ ซื้อเครื่องชั่ง สักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เครื่องชั่ง SJ-12KCEN ตอบโจทย์การใช้งานของท่านแน่นอน

นอกจากนี้ CLC มีสินค้าจำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องชั่ง ตามมาตราฐาน OIML-R76-1 หลากหลายให้ท่านได้เลือกสรร อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมั่นในมาตรฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ  

ผู้เขียน BEW JJ

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

Temperature Indicator with Surface Sensor หรือ เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว คืออะไร การดูแลรักษาทำอย่างไร

Temperature Indicator with Surface Sensor (เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว)

Temperature Indicator with Surface Sensor หรือ เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว เป็นเครื่องมือวัดอีกชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยตามโรงงานอุตสาหกรรมบ้านเรา มีอีกชื่อที่นิยมเรียกกันคือ Temp with Surface Probe ซึ่งจะเรียกแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงให้ผู้ใช้งานเข้าใจก็พอแล้ว และจำเป็นต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือวัด เสมอเพื่อความแม่นยำในการใช้งานครับ

เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว นิยมใช้วัดอุณหภูมิของพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวชิ้นงาน, กระจก, ผนัง และอื่นๆที่มีพื้นผิวเรียบ และอุณภูมิอยู่ในช่วง 50 – 450 ºC รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาตามรูปตัวอย่างที่ 1

รูปที่ 1 Temperature Indicator with Surface Sensor

ซึ่งชนิด/ประเภทของ Surface Sensor หรือ Surface Probe มีหลายแบบขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นผิวที่ต้องการวัดอุณหภูมิ แต่ครั้งนี้จะขอยกตัวอย่างที่ทางผู้เขียนพบเจอบ่อยมาสักสองตัวอย่างครับ

  1. เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวแบบ Surface Type : ลักษณะตรง Probe จะเป็นหน้าสัมผัส เหมาะสำหรับการวัดอุณหภูมิพื้นผิวเรียบ ลดความผิดพลาดจากแรงกดที่ไม่เท่ากัน เพราะตรง Probe เป็นเซ็นเซอร์แบบแม่เหล็ก (ใช้งานร่วมกับตัวอ่าน หรือ Indicator) ดังตัวอย่างรูปที่ 1

รูป 1.1 Surface Type

 

  1. เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวแบบ Roller-Surface Type : ลักษณะ Probe จะเป็นหน้าสัมผัสคล้ายชนิดที่ 1 แต่จะมีล้อสำหรับหมุนตรงปลาย สามารถวัดอุณหภูมิพื้นผิว หรือ กลิ้งไปบนพื้นผิวเพื่อวัดอุณหภูมิได้ แต่ต้องพื้นผิวเรียบ โดยใช้งานร่วมกับตัวอ่าน หรือ Indicator ตัวอย่างรูปที่ 2

รูปที่ 1.2 Roller-Surface Type

เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวแบบหลักๆ ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายก็มีดังที่กล่าวมานี้ แต่จะแตกต่างกันออกไปตามการออกแบบของแต่ละยี่ห้อ จะเลือกแบบไหน ยี่ห้อไหน ก็ตามแต่ความเหมาะสม เรียกได้ว่า เอาที่สบายใจกันเลย (เลือกยี่ห้อที่ติดตลาดสักหน่อยก็ดีครับ)

การดูแลรักษาเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว

  • ก่อนใช้งานทุกครั้ง ต้องมั่นใจได้ว่าเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เช่น ปริมาณแบตเตอรี่, สายเซ็นเซอร์, Probe, Indicator ต้องอยู่ในสภาพปกติ
  • หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาด Probe ด้วยผ้าสะอาดชุบแอลกอฮอล์
  • ควรเก็บรักษาเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวไว้ในกล่องให้เรียบร้อย อย่าให้สาย Probe พับ,หัก

ข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว

  • ทุกครั้งที่นำเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวออกไปใช้งาน ควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง เพราะพื้นผิวที่เราไปวัดนั้น มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ถ้าเกิดพลาดไปโดนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ
  • ทุกครั้งที่นำเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวออกไปใช้งาน ต้องระมัดระวังไม่ให้ตัวเครื่องหรือส่วนใดๆ (นอกจาก Sensor,Probe) สัมผัสกับความร้อนจากพื้นผิวชิ้นงานโดยตรง เพราะจะทำให้เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวได้รับความเสียหายได้
  • ควรนำ Temp With Surface Probe เข้ารับการ Calibrate (แคลิเบรท) หรือสอบเทียบเครื่องมือวัดกับห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน และได้รับรอง ISO/IEC 17025 ตามแผนที่กำหนดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวของเรา ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เป็นปกติ และผลการสอบเทียบเครื่องมือวัดยังอยู่ใน MPE หรือ เกณฑ์การยอมรับ ที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ (เรามีบทความเรื่อง MPE ที่ลงก่อนหน้านี้ไปแล้ว ติดตามอ่านต่อได้เลยนะครับ)

 

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO., LTD หรือ CLC) มีบริการสอบเทียบ Temp With Surface Probe ในรูปแบบ Accredit 17025 (ANAB) ครอบคลุมอุณหภูมิ 50 ถึง 450 ºC และยังมีเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวจำหน่ายอีกด้วย ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามกันเข้ามาตามช่องทางการติดต่อทุกช่องทางของบริษัท CLC ได้เลยทางบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาทุกท่านโดยตรงครับ

อ่อ เกือบลืมครับ..ถ้าท่านสนใจนำเครื่องมือวัดมาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC)  ควรที่นำตัวอ่าน หรือ Indicator มาพร้อมด้วย เพราะวิธีการสอบเทียบเครื่องมือวัดของทางห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC)   ของเราจำเป็นจะต้องอ่านค่าเพื่อเทียบระหว่างเครื่องมือวัดที่เป็นเครื่องมือ Standard ของเรา (STD) เทียบกับตัวอ่าน หรือ Indicator ของเครื่องมือวัดของลูกค้า (DUC) ตามตัวอย่างรูปที่ 1.3

รูปที่ 1.3 การอ่านเทียบระหว่างเครื่องมือวัด Standard ของเรา (STD) เทียบกับ Indicator ของเครื่องมือวัดของลูกค้า (DUC)

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความเรื่อง Temp With Surface Probe (เครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิว) ที่นำมาฝากกันพอสังเขปในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่าน ไม่มากก็น้อยนะครับ ผิดพลาดขาดตกบกพร่องตรงไหน ก็คงต้องขออภัยกันไว้ ณ ที่นี้ด้วย..แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไปครับ และอย่าลืมว่าจำเป็นต้องส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด เป็นประจำ เพื่อความแม่นยำในการใช้งานครับขอบคุณครับ

 

CHOK_AM

 

 

Oven คืออะไร?? แล้วทำไมเราจึงต้องสอบเทียบ

บริการ สอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น

ขอใบเสนอราคา ติดต่อเรา 

 

 

 

 

 

 

 

Thermal Imager คืออะไร

THERMAL IMAGER

เครื่อง Thermal Imager คืออะไร

เครื่อง Thermal Imager หรือ Thermal Imaging Camera (กล้องถ่ายภาพความร้อน) เป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิที่ผิวของวัตถุหรือชิ้นงาน โดย Thermal Imager จะอาศัยหลักการแผ่รังสีอินฟราเรดที่ออกจากวัตถุ ซึ่งเป็นการวัดอุณหภูมิแบบไม่สัมผัสและไม่ทำลายวัตถุ และเป็นการวัดอุณหภูมิแบบพื้นที่ เพื่อความแม่นยำของเครื่องมือวัดจึงจำเป็นต้องส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่เสมอ

เครื่อง Thermal Imager ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

  1. เลนส์ (Lens)
  2. ตัวตรวจจับรังสีอินฟราเรด (Infrared Detector) หรือเซนเซอร์ชนิดอินฟราเรด (Infrared Sensor )
  3. วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Circuit)
  4. ส่วนแสดงผล (Display)

หลักการทำงานของเครื่อง Thermal Imager  เป็นอย่างไร

หลักการทำงานของเครื่อง Thermal Imager  หรือ กล้องถ่ายความร้อน เริ่มต้นจาก เมื่อตัวตรวจจับรังสีอินฟราเรดรับรังสีอินฟราเรด ที่แผ่ออกจากวัตถุหรือชิ้นงานเป้าหมาย ผ่านเลนส์ของเครื่อง Thermal Imager แล้วแปลงรังสีอินฟราเรดเหล่านี้ที่รับได้ให้อยู่ในรูปของสัญญานทางไฟฟ้า โดยรังสีอินฟาเรดที่ตัวตรวจรับไปนั้นประกอบด้วยรังสีที่วัตถุเป้าหมายแผ่ออกมารวมกับรังสีที่แผ่จากวัตถุอื่นหรือสิ่งแวดล้อมสะท้อนออกจากผิวของวัตถุเป้าหมาย จากนั้นวงจรอิเล็กทรอนิกส์จะทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่รับมาจากตัวตรวจจับและนำไปแสดงที่ตัวแสดงผล ซึงอาจแสดงผลออกมาในรูปแบบของตัวเลข สี หรือกราฟ หรือสามารถแสดงผลออกมาได้ทั้ง 3 รูปแบบ

กล้องถ่ายภาพความร้อนประกอบด้วยเซนเซอร์ชนิดอินฟราเรดหลายตัว แต่ละตัวแสดงผลออกมาในรูปแบบของสีที่แตกต่างกันตามอุณหภูมิของจุดนั้นๆ โดยทั่วไป สีแดงแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงและสีน้ำเงินแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ หรือโทนสีสว่างแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง และโทนสีมืดแสดงผลของบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ ผลของแต่ละจุดที่ได้จากเซนเซอร์แต่ละตัว เมื่อนำมารวมกันจะประกอบขึ้นเป็นภาพ เรียกว่า “ภาพถ่ายความร้อน (Thermal Image) ” ซึ่งการแปลงรังสีอินฟราเรดที่เซนเซอร์ตรวจจับได้ให้อยู่ในหน่วยของอุณหภูมิอาศัยกฏของ Planck (Planck’s law) และ กฎของ Stefan-Boltzmann (Stefan-Boltzman’s law)

CLC สามารถสอบเทียบเครื่อง Thermal Imager ได้ที่ Range เท่าใดบ้าง

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (Calibration Laboratory CO., LTD) หรือ CLC สามารถแคลิเบรท (Calibrate) หรือสอบเทียบเครื่องมือวัด Thermal Imager ได้ที่ Range (-40) – 1200 องศาเซลเซียส โดยใช้ Standard คือเครื่อง Infrared Calibrator ทำอุณหภูมิและแสดงผลเทียบกับเครื่อง Thermal Imager โดยวิธีการสอบเทียบเครื่องมือวัดจะใกล้เคียงกับเครื่อง Infrared Thermometer ทั่วไป ตามตัวอย่างรูปที่ 1 และ ตัวอย่างรูปที่ 2

ตัวอย่างรูปที่ 1

ตัวอย่างรูปที่ 2

การเตรียมเครื่องมือส่ง กล้องถ่ายภาพความร้อน มาสอบเทียบกับทาง CLC ต้องทำอย่างไร

  1. ควรตรวจเช็คจุดสอบเทียบเครื่องมือวัดให้ใกล้เคียงกับช่วงการใช้งานมากที่สุด และให้ครอบคลุมกับช่วงที่ใช้งานจริงที่สุด
  2. ควรมีการกำหนดค่าเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือ (MPE) เพื่อใช้ในการตัดสินในการใช้เครื่องมือ
  3. ตรวจสอบสภาพทั่วไปของเครื่องมือ เช่น การแตกร้าว บิ่น หัก
  4. ตรวจเช็ครอยขีดสเกลของเครื่องมือให้ชัดเจน
  5. ทำความสะอาดเครื่องมือเบื้องต้น
  6. ห่อเครื่องมือด้วยวัสดุกันกระแทกและบรรจุลงในกล่องภาชนะ

ปัจจุบันห้องปฏิบัติการแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี (CLC) ได้รับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI) และจาก ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้บริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ภายใต้การควบคุมดูแลของทีมงานสอบเทียบที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้าน ในแต่ละสาขาการวัด เพื่อให้การสอบเทียบมีคุณภาพ

 

ผู้เขียน ลูกคิด

 

 

 

Oven คืออะไร?? แล้วทำไมเราจึงต้องสอบเทียบ

บริการ สอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

เกร็ดความรู้ (Balance) เครื่องชั่ง

เครื่องชั่ง (Balance) ถือเป็นอีกเครื่องมือวัดหนึ่งที่มีการใช้งานกันอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีการใช้งานอยู่บ่อยครั้งจึงจำเป็นต้องทำการส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด อย่างสม่ำเสมอ
เรามาทำความรู้จักกับ เครื่องมือวัด ชนิดนี้กันมากขึ้นกันดีกว่าครับ

1. เครื่องชั่ง

เป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้วัดน้ำหนักวัตถุชนิดต่างๆ เพื่อบ่งชี้วัดขนาดของน้ำหนักที่วัดได้ โดยปัจจุบันเครื่องชั่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ผู้ใช้งานนั้นสะดวกสบาย ลดขั้นตอนและระยะเวลาต่างกันกับเครื่องชั่งในอดีตที่ผ่านมา
เครื่องชั่งมีประโยชน์ในการใช้งาน ในหลายๆแวดวงต่างๆ เช่น ในวงการอุตสาหกรรม, ทางการแพทย์, การพาณิชย์, และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมนั้นช่วยให้พัฒนาคุณภาพด้านน้ำหนักสินค้าทำให้แข่งขันและเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศได้

2. หน่วยในการใช้วัดน้ำหนัก

มีอยู่หลายหน่วยด้วยกันตามความเหมาะสมของผู้ใช้งานดังนี้
g = กรัม

kg = กิโลกรัม

oz = ออนซ์

ib = ปอนด์

เครื่องชั่งที่ดีนั้นควรวัดค่าออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถปรับค่าหรือ adjust ค่าได้ ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องชั่งให้เหมาะสมกับงานนั้นมีความสำคัญมาก โดยเครื่องชั่งทั่วไปนั้น มีทั้งแบบไม่ใช้ถ่าน, ใช้ถ่าน 2 A, 3A, เม็ดกระดุม, แบตเตอร์รี่ที่เราสามารถชาร์จไฟได้และใช้แบบ Adaptor

3. เครื่องชั่ง นั้นมีหลายประเภท ขนาดและลักษณะการใช้งานด้วยกัน ดังนี้

3.1 Spring Balance (เครื่องชั่งสปริง) มีหลากหลายขนาดด้วยกัน มีหน้าปัดเป็นวงกลมและมีเข็มวัด ไม่ใช้ถ่านหรือไฟจาก Adaptor สามารถเคลื่อนย้ายได้เครื่องไม่ใหญ่และน้ำหนักไม่มากนัก เมื่อต้องการใช้งานควรตรวจสอบก่อนการใช้ให้เข็มชี้ไปที่เลข 0

3.2 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักตัว) เป็นเครื่องชั่งที่ใช้วัดน้ำหนักตัวของคน เพื่อใช้คำนวณวัดค่าต่างๆของร่างกาย บางประเภทไม่ใช้ถ่านหรือไฟจาก Adaptor อาจมีหน้าปัดเป็นจอดิจิตอลหรือเข็มวัด หรือบางประเภทต้องใช้ไฟจาก Adaptor จึงไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย

3.3 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบตั้งโต๊ะที่มีขนาดเล็ก) ส่วนใหญ่วางบนโต๊ะหรือที่สูง ใช้สำหรับวัดน้ำหนักของวัตถุขนาดเล็ก ที่มีน้ำหนักไม่มากนัก หน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอล บางประเภทสามารถนับจำนวนชิ้นได้ ซึ่งมีความละเอียดและความแม่นยำสูง มีทั้งแบบแบตเตอร์รี่และใช้ไฟจาก Adaptor จึงไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้าย

3.4 Digital Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบตั้งพื้นที่มีขนาดกลาง) ส่วนใหญ่ใช้วางบนพื้นราบและมีจอแสดงผลเป็นดิจิตอลตัวเลข ใช้สำหรับทั้งวัดน้ำหนักของวัตถุขนาดกลางถึงวัตถุที่น้ำหนักมาก มีขาที่สามารถปรับระดับทั้งสี่ด้าน การใช้งานจะใช้ไฟจาก Adaptor ทำให้ไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้าย

3.5 Beam Balance (เครื่องชั่งน้ำหนักแบบคานแขวน) เป็นเครื่องชั่งที่มีตุ้มน้ำหนักติดแขวนไว้บนคาน มีตะขอเกี่ยวตุ้มน้ำหนัก เวลาใช้งานให้แขวนตุ้มน้ำหนักไว้ที่ตะขอเพื่อวัดน้ำหนัก ใช้วัดน้ำหนักของวัตถุที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งเครื่องชั่งน้ำหนักแบบคานแขวนนี้เป็นเครื่องวัดที่มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย

4. ข้อควรระวัง

  • เครื่องมือวัด ประเภทเครื่องชั่งที่มีความละเอียดสูง ไม่แนะนำให้เคลื่อนย้าย เนื่องจาก Sensor ภายในมีความเปราะบางสูง มีโอกาสชำรุดได้ง่าย
  • ในกรณีที่จำเป็นเคลื่อนย้ายเครื่องชั่งให้ถอดจานรองเครื่องออกก่อนในระหว่างเคลื่อนย้าย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจานรองเครื่องชั่งกระแทกเข้ากับ Sensor ของเครื่อง ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
  •  หลีกเลี่ยงการวางเครื่องชั่ง ลงอย่างแรงหรือกระแทกรุนแรง เพื่อป้องกันอุปกรณ์ภายในเสียหาย
  • ตรวจเช็คถ่าน, แบตเตอร์รี่ หรือเข็มวัด ให้อยู่ในสภาพการใช้งานปกติเสมอ เข็มวัดต้องอยู่ที่ตัวเลข 0 และตรวจสอบว่าแบตเตอร์รี่มีไฟเพียงพอหรือไม่ก่อนใช้งานทุกครั้ง
  • ปรับขาทั้งสี่ด้านให้อยู่ระดับเดียวกัน

และสิ่งที่ลืมไม่ได้นั้นคือหมั่นตรวจเช็คเครื่องชั่งให้อยู่ในสภาพใช้งานปกติ และส่ง สอบเทียบเครื่องมือวัด และ เครื่องชั่ง น้ำหนักทุกปีกับ Calibration Laboratory เพื่อวัดค่าความเที่ยงตรงพร้อมใช้งานอยู่เสมอครับ

ผู้เขียน Timnorton

 

 

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร

 

ดีจริงมั้ย? Digital Balance จาก Vibra การดูแลรักษาทำอย่างไร

เครื่องชั่ง ถ้าเอ่ยชื่อนี้ไปใครๆ ก็ต้องรู้จักกันอยู่แล้วเพราะในชีวิตประจำวันของเราเกี่ยวข้องการชั่งอยู่ทุกวันไม่ว่าจะไปซื้อของในตลาดก็ต้องมีการชั่งอาหาร ชั่งผัก ชั่งหมู ไก่ ปลา บลาบลา หรือถ้าเข้าไปซื้อทองที่ร้านทองก็ต้องชั่งทองเพื่อเราจะเช็คว่าได้ทองที่ถูกต้องตามน้ำหนักไหม และถ้าจะให้พูดถึงเครื่องชั่งในท้องตลาดตอนนี้ก็มีอยู่หลายรุ่นให้เลือกด้วยกัน และวันนี้เราจะขอหยิบยกมาพูดสักรุ่นหนึ่งก็แล้วกันนะคะ วันนี้ก็จะขอพูดถึง เครื่องชั่งละเอียด ของยี่ห้อ Vibra เป็นเครื่องชั่งละเอียดแบบดิจิตอล (Digital) รุ่น AJ series ที่จำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด กันอยู่เป็นประจำค่ะ ตามไปอ่านกันเลย

คุณสมบัติของเครื่องชั่งละเอียด VIBRA AJ Series

VIBRA  AJ series เป็นเครื่องชั่งละเอียดที่เหมาะกับการนำมาใช้ในห้องปฏิบัติการ, โรงงาน, ร้านอัญมณี, ร้านทอง ฯลฯ เป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุดด้วยหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ (สูง 16.5 มม.) พร้อมแสงด้านหลังสีขาวช่วยให้การชั่งน้ำหนักทำได้ง่ายและสะดวกสบายแม้อยู่ในที่มืด สามารถปรับระดับขาของฐานเครื่องชั่ง พร้อมระดับน้ำสำหรับความสมดุล มีทั้งเป็นแบบตู้กระจกกันลมและเป็นแบบเครื่องชั่งธรรมดา นอกจากนี้ยังมีฟังชั่นการใช้งานในรูปแบบการหักค่าภาชนะ (Tare) การอ่านค่าเป็นเปอร์เซนต์ (%) การนับชิ้นงาน (Count) รวมถึงการ Memory จดจำน้ำหนักของวัตถุที่ทำการชั่งได้ด้วย ในรุ่นของ AJ SERIES ทาง CLC มีจำหน่ายพร้อมบริการสอบเทียบด้วยกันหลากหลายรุ่นสามารถเลือกใช้งานได้ตามน้ำหนักที่ต้องการใช้ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น รุ่น AJ-220CEN, AJ-420CEN, AJ-620CEN, AJ-820CEN, AJ-1200CEN, AJ-2200CEN, AJ-3200CEN, AJ-6200CEN, AJ-12KCEN เป็นต้น

   

ข้อดีของ AJ SERIES นั้นก็มีด้วยกันหลากหลายวันนี้เราแยกออกมาให้ดูเป็นข้อๆ ได้ดังนี้นะคะ

1.รูปแบบปุ่ม เป็นปุ่มที่สามารถใช้งานเรียบง่ายไม่ซับซ้อน

2.ติดตั้งง่าย สะดวกทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะห้องปฏิบัติการโรงงาน, ร้านขายเครื่องประดับ ฯลฯ

3.ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของ VIBRA AJ series  การออกแบบที่ประหยัดพื้นที่ช่วยให้คุณสามารถติดตั้งได้แม้ในพื้นที่ขนาดเล็ก

4.สามารถพกพาไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการด้วยแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟเสริม

5.ใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6.ความเที่ยงตรง แม่นยำด้วยระบบ Stabilization ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องและแม่นยำ

7.การตอบสนองนั้นรวดเร็วและมีตัวบ่งชี้ที่มั่นคง

8.หน้าจอ LCD มีขนาดใหญ่ สะดวกในการใช้งาน

 

มาถึงตอนนี้พูดถึงข้อดีไปแล้วจะก็จะมาดูกันว่า

AJ SERIES มีข้อเสียอะไรบ้าง

ถ้าจะให้แยกข้อเสียจริงๆ ก็แทบจะไม่มีข้อเสียอะไรมากมายเลยก็จะมีบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราจะมาแยกให้ดูเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  1. หากมีแรงสั่นสะเทือน หรือมีกระแสลมมากจะส่งผลให้ตัวเลขอ่านค่าไม่นิ่ง
  2. วัสดุงานที่นำมาชั่งมีสิ่งสกปรก, ได้รับแรงกระแทกจากภายนอกหรือ ลูกตุ้มที่นำมาใช้ไม่ได้มาตราฐานพอนั้น จะส่งผลให้การอ่านค่าคำนวณเครื่องชั่งไม่ถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเครื่องมือหรือวัสดุที่เป็นส่วนประกอบที่จะนำมาชั่งไม่ได้มาตรฐานก็ย่อมมีผลต่อการชั่งทุกรูปแบบอยู่แล้ว
  3. วัสดุโครงสร้างนั้นไม่กันน้ำเนื่องจากเป็นรุ่นที่ไม่มี IP67

และตอนนี้เราก็จะมาพูดถึงการดูแลรักษา ข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องชั่งละเอียดที่เราควรรู้ไว้เพื่อให้อายุของเครื่องชั่งอยู่กับเราได้ยาวนานนั้นต้องทำอย่างไร มีข้อควรปฎิบัติยังไงบ้าง เรามีข้อแนะนำเป็นข้อๆ ดังนี้

  1. สภาวะแวดล้อมภายในห้องนั้นมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องชั่งมาก เช่น อุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ที่ไม่คงที่จะทำให้น้ำหนักที่ชั่งได้ผิดพลาดไป ดังนั้นผู้ดูแลเครื่องชั่งจึงต้องควบคุมอุณหภูมิความชื้นของห้อง โดยการจัดหาเครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์สำหรับอ่านค่าอุณหภูมิห้องและค่าความชื้นสัมพัทธ์ในช่วงเวลาต่างๆในแต่ละวัน และจดบันทึกอุณหภูมิลงในแบบบันทึก เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิห้องเครื่องชั่ง
  2. การวางเครื่องชั่งไม่ควรวางไว้ใกล้แสงแดดที่ส่องถึง หรือไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเครื่องมือที่ทำให้เกิดความร้อน ความชื้น เช่น อ่างควบคุมอุณหภูมิหรือเครื่องมือที่ใช้ระบบการเหนี่ยวนำไฟฟ้า เช่น ตู้อบ สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของเครื่องชั่ง
  3. การชั่งตัวอย่างไม่ควรใช้มือจับภาชนะใส่ตัวอย่างโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนหรือ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงได้ควรใส่ถุงมือผ้าหรือใช้ที่จับ และควรวางสิ่งที่ต้องการชั่งบริเวณกลางจานชั่ง เพื่อป้องกันการอ่านค่าน้ำหนักผิดพลาดไป
  4. การทำความสะอาดเครื่องชั่งและจานชั่ง สามารถใช้แปรงปัด หรือผ้าเช็ด หากมีรอยเปื้อนเป็นคราบอาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือชุบสารละลาย 50% เอทานอล เช็ดด้านบนของจานชั่ง สำหรับด้านล่างจานชั่งให้ใช้ลมเป่าสิ่งสกปรกหรือฝุ่นผงที่อยู่ใต้จานชั่ง
  5. ก่อนทำการปรับตั้งเครื่องชั่ง ต้องปรับระดับให้เครื่องชั่งตั้งตรงและแสดงหน้าจอเป็นศูนย์(Zero reading) ก่อนเสมอ
  6. หมั่นส่งเครื่องมือมาสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ

มาถึงสุดท้ายแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเรื่อง เครื่องชั่งละเอียด ยี่ห้อ Vibra แบบดิจิตอล (Digital) รุ่น AJ series หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่สนใจเรื่องเครื่องชั่ง หรืออยากซื้อเครื่องชั่งและกำลังมองหาเครื่องชั่งสักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวกทางในการเลือกซื้อเครื่องชั่ง นอกจากนี้ทาง CLC ก็มี เครื่องชั่งละเอียดจำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องมือวัด ตามมาตราฐาน OIML-R76-1 หลากหลายแบบให้ท่านได้เลือกสรรค์ อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมันในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ หากผิดพลาดหรือตกหล่นประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ

 

ผู้เขียน BEW J.J.

 

 

ขอใบเสนอราคา     ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา


ดูสินค้าเครื่องชั่ง Vibra       บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

—————

VDO l สอบเทียบ”เครื่องชั่ง”เอง ทำได้หรือไม่? มีวิธีอย่างไร

VDO l “เครื่องชั่ง” อยากปรับค่าเอง ทำอย่างไร