Pressure Transducer ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง?

Pressure Transducer ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง?

ถ้าจะกล่าวถึงเครื่องมือวัดที่ชื่อว่า Pressure Gauge เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีแล้ว และก็เคยมีบทความที่เคยลงในเว็บแห่งนี้มาแล้วก่อนหน้านี้ (ย้อนกลับไปหาอ่านกันได้) แต่ในวันนี้ทางผู้เขียนจะขอหยิบยกเอาเรื่อง Pressure มานำเสนอกันอีกรอบ…แต่จะให้พูดเรื่องเดิมก็ยังไงๆอยู่ นอกจาก Pressure Gauge แล้วนั้น ในโรงงานอุตสาหกรรมยังมี Pressure อีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้งานกันเป็นอย่างมากพอสมควร นั่นก็คือเจ้า Pressure Transducer นั่นเอง ก่อนจะไปลงรายละเอียดนั้นเราไปดูรูปร่างหน้าตาของเจ้า Pressure Transducer กันก่อน ตัวอย่างรูปที่ 1

รูปที่ 1

จากตัวอย่างของรูปที่ 1 พอจะเริ่มคุ้นหน้าคุณตากันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ แต่โดยรวมแล้วหน้าตาก็จะหล่อเหลาประมาณนี้  Pressure Transducer ในรูปนี้ยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีนะครับ ต้องติดตั้งควบคู่กับสายสัญญาณและตัวอ่าน (Display) หรือ ต่อเข้ากับตู้ Controller อีกที แต่ในปัจจุบันเพื่อความสะดวกกับการใช้งานและเหมาะสมกับหน้างานบางจุด ทางผู้ผลิตก็ยังมี Pressure Transducer With Indicator หรือ With Display มาพร้อมเลย เพื่อเพิ่มความสะดวกไปอีก ดังตัวอย่างรูปที่ 2

รูปที่ 2

แต่ก่อนจะไปลงรายละเอียดต่อไป เรามาทำความรู้จักกับคำว่า Transducer กันซักหน่อย บางท่านอาจจะเคยได้ยินคำนี้มานานแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ทราบว่าคืออะไร ส่วนท่านที่ทราบแล้วก็ถือซะว่ามาปัดฝุ่นรื้อฟื้นความรู้กันสักหน่อยครับ Transducer (ทรานสดิวเซอร์) มีหน้าที่ในการแปลงพลังงานจากรูปแบบนึง ไปเป็นพลังงานในอีกรูปแบบนึง เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น, อากาศ, แรงกด, อัตราการไหล เป็นต้น แปลงไปเป็นพลังงานในรูปแบบต่างๆเช่น แรงดันไฟฟ้า, ความร้อน, แสงสว่าง, ความต้านทาน…

ถ้าจะพูดให้เป็นภาษาบ้านๆให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้นคือ อุปกรณ์ทุกตัวที่เป็นเซ็นเซอร์ (Sensor) มันก็คือทรานสดิวเซอร์ (Transducer) ดีๆนี่เองครับท่าน แต่ก็ยังมีหลายๆคนยังสับสนกันระหว่าง Transducer (ทรานสดิวเซอร์) กับ Transmitter (ทรานสมิตเตอร์) สำหรับ Transmitter นั้นมีหน้าที่ในการแปลงสัญญาณจากเครื่องมือวัดต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ, ความชื้น, แรงดัน…ให้เป็นสัญญาณในรูปแบบ Analog มาตรฐานที่มีสัญญาณ Output 4-20 mA, 0-10 VDC

 

เกณฑ์เลือกใช้งาน Pressure Transducer

การเลือก Pressure Transducer ที่เหมาะสมไม่ได้ดูแค่ยี่ห้อหรือราคาเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลักสามอย่างคือ ความแม่นยำ (Accuracy), ผลกระทบจากอุณหภูมิ (Temperature Effect) และความเข้ากันได้กับตัวกลาง (Media Compatibility)

ความแม่นยำ (Accuracy)

หมายถึงความใกล้เคียงระหว่างค่าที่วัดได้กับค่าความดันจริง โดยทั่วไปผู้ผลิตจะระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ของช่วงการวัด (Full Scale) เช่น ±0.1% FS หรือ ±0.5% FS หากเลือกช่วงกว้างเกินไป ความคลาดเคลื่อนก็จะยิ่งมาก ดังนั้นควรเลือกช่วงที่ค่าความดันใช้งานอยู่บริเวณกึ่งกลางของสเกล และเผื่อไว้ประมาณ 40–50% เพื่อให้ทั้งแม่นยำและปลอดภัย

ผลกระทบจากอุณหภูมิ (Temperature Effect)

ก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจาก Transducer มักถูกสอบเทียบที่อุณหภูมิห้อง แต่ในงานจริงอาจเจอความร้อนสูงหรือเย็นจัด ส่งผลให้ค่าที่อ่านได้ผิดเพี้ยน วิธีแก้ไขคือใช้วัสดุหุ้มป้องกันความร้อน ติดตั้งท่อ buffer ก่อนถึงเซนเซอร์ หรือเลือก Transducer ที่มีระบบชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ซึ่งผู้ผลิตบางราย เช่น Ashcroft และ Dynisco ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อรักษาความเสถียรของการวัด

ความเข้ากันได้กับตัวกลาง (Media Compatibility)

เพราะวัสดุของส่วนที่สัมผัสตัวกลาง (wetted parts) ต้องไม่ถูกกัดกร่อนหรือทำปฏิกิริยากับสารที่วัด เช่น หากวัดน้ำทะเลหรือสารเคมีเข้มข้น ควรเลือกวัสดุอย่าง 316 Stainless Steel หรือ Inconel® 718 ซึ่งทนทานกว่าเหล็กทั่วไป หรือถ้าต้องการป้องกันเซนเซอร์ไม่ให้สัมผัสกับสารโดยตรงก็สามารถใช้ Diaphragm Seal ได้ แต่ควรสอบเทียบใหม่ทุกครั้งที่มีการติดตั้ง

 

ข้อควรระวังและการดูแลรักษา

  • หมั่นตรวจสอบสภาพของเครื่องมือให้อยู่ในสภาพปกติอยู่เสมอ
  • ไม่ใช้งานจนเกิน Max Range ของเครื่องมือเพื่อป้องกันความเสียหาย
  • ต้องแน่ใจว่าใช้งานเครื่องมือถูกประเภทกับ Media  เช่น Hydraulic (น้ำมัน) หรือ Pneumatic (ลม)
  • การติดตั้ง ต้องแน่ใจว่าไม่มีการรั่วซึมตรงบริเวณข้อต่อหรือเกลียวต่างๆ
  • ห้ามแก้ไขดัดแปลงเครื่องมือด้วยตนเอง ถ้าไม่ใช่ผู้ชำนาญการ
  • หมั่นส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้มาตรฐานอยู่เสมอตามแผนประจำปี

ทางบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด (Calibration Laboratory Co.,Ltd.) หรือ CLC ของเรานั้น มีบริการสอบเทียบ Pressure Transducer ในรูปแบบ Accredit 17025 ทั้ง In Lab และ On Site (สมอ. และ ANAB) โดยทีมเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการในเรื่องนี้โดยตรง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผลการสอบเทียบและการออก Certificate จะเป็นมาตรฐานสากล และสอบกลับได้ถึงมาตรฐานระดับชาติ รวมทั้ง CLC ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานและการสอบเทียบ Pressure Transducer กับท่านผู้สนใจติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้ ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ(ฟรี)

มาถึงวรรคนี้สิ่งที่ผู้เขียนกล่าวมาทั้งหมดคงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยนะครับ บทความของเราอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายอะไร เพราะถ้าลงลึกและเยอะไปก็อาจจะดูน่าเบื่อ(ไม่อยากอ่าน55) เป็นเพียงการให้ความรู้เบื้องต้นพอสังเขปเท่านั้น เพราะฉะนั้นย้ำอีกครั้งครับว่า สอบถามเพิ่มเติมกันเข้ามาได้ ตามช่องทางการติดต่อทุกๆช่องทางของทาง CLC ได้เลย แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า ขอบคุณและสวัสดีครับ

 

ผู้เขียน CHOK_AM