คลังเก็บหมวดหมู่: บทความ

เกจวัดเกลียว Thread Plug Gauge มีลักษณะเป็นอย่างไร แบ่งตามมาตรฐานได้ด้วยหรือ

Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว)  

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึง Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว)  กันนะคะ รู้หรือไม่ว่าการเลือก Class ของ Thread Plug Gauge ในการใช้งานนั้นมีความหมายอย่างไร

Thread Plug Gauge (เกจวัดเกลียว) มีหน้าที่ตรวจสอบระยะพิทช์ของเกลียวชิ้นงานที่เราสั่งผลิตค่ะ เพื่อตรวจสอบชิ้นงานของเราว่าชิ้นงานนั้นอยู่ในมาตรฐานการควบคุมหรือไม่ ซึ่งจะมาพูดถึง

มาตรฐานการวัด 2 แบบ ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในเอเชีย

ดังนี้ค่ะ  JIS (Japanese Industrial Standards) และ   ISO (International Organization for Standardization)

1.JIS (Japanese Industrial Standards) หมายถึง มาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น

ระบบการตรวจสอบเกลียว  สำหรับปลั๊กเกจ (Plug Gauge)

GP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน GO)

WP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับการตรวจสอบหน้างานในไลน์ผลิต)

IP เป็นปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับเจ้าหน้าที่ QA, QC ในการตรวจสอบ)

จะมี Class ให้เลือกใช้ค่ะ มี Class 1, 2, 3

(CLASS 1 เกลียวฟิต, CLASS 2 เกลียวสวมพอดี, CLASS 3 เกลียวหลวม)

JIS (Japanese Industrial Standards)  มี 2 ชนิดค่ะ มีเกลียวเมตริก และ เกลียวนิ้ว

1.1 ชนิด เกลียวเมตริก 


ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น M2.5X0.45 GPII  IPII

M            คือ ประเภทของเกลียว เมตริก

2.5           คือ ขนาด DIAMETER

X 0.45     คือ ระยะ Pitch = 0.45  ม))

II             คือ CLASS 2

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

IP            คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO 

 

1.2 ชนิด เกลียวนิ้ว 

ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น 3/4-10UNC-2B GPIP  

UNC       คือ ประเภทของเกลียว นิ้ว

3/4           คือ ขนาด DIAMETER

10            คือ จำนวนเกลียวต่อ 1 นิ้ว  (Thread per Inch),, TPI ) ม))

2B           คือ CLASS 2B

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

IP            คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO 

 2. ISO (International Organization for Standardization)

คือ องค์การมาตรฐานสากล เป็นองค์กรที่ออกมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและอุตสาหกรรม

สำหรับปลั๊กเกจ (Plug Gauge)

GP เป็น ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน GO)

NP เป็น ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ด้าน NO GO (สำหรับการตรวจสอบงานด้าน NO GO)

จะมี Class ให้เลือกใช้ค่ะ มี  4H, 5H, 6H, 7H

(CLASS 4H, 5H  เกลียวฟิต, CLASS  6H เกลียวสวมพอดี,  CLASS 7H เกลียวหลวม )

ตัวอย่างการสั่งผลิต เช่น M5X0.8 6H GPNP

M            คือ ประเภทของเกลียว เมตริก

5              คือ ขนาด DIAMETER

X 0.8       คือ ระยะ Pitch = 0.8))

GP          คือ ปลั๊กเกจด้าน GO

NP        คือ ปลั๊กเกจด้าน NO GO

6H           คือ CLASS 6H

       

   รู้หรือไม่ว่า การเลือก Class ของ Thread Plug Gauge ในการใช้งานนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากค่ะ ดังนั้นผู้ใช้งานควรมีความรู้และทำความเข้าใจก่อนจะเลือกใช้งาน และทาง บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด ได้ทำการจัดจำหน่ายและ สอบเทียบ Thread Plug Gauge ซึ่งสินค้าที่เราจำหน่ายเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ รวมทั้งงานสั่งผลิตเราก็ยังมีจำหน่ายอีกเช่นกันค่ะ สามารถเข้าเลือกชมสินค้าได้ที่ www.cal-laboratory.com  หรือหากสนใจสินค้าสามารถส่งอีเมลล์เพื่อขอใบเสนอราคาได้เลยค่ะ info@cal-laboratory.com

 

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

เครื่อง CMM คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

 

 

มาทำความรู้จักกับ ค่า pH กับ PH Meter และการสอบเทียบกัน

ความสำคัญของ ค่า pH และ การสอบเทียบ pH Meter

pH คือ ค่าความเป็นกรด-ด่างของสารละลายที่ห้องปฏิบัติการจำเป็นต้องทำการวัด เนื่องจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นอยู่กับค่าของความเป็นกรด-ด่าง (pH) คุณภาพของการถูกทำละลายของสารเคมีในตัวทำละลายก็ขึ้นอยู่กับค่าของ pH คุณสมบัติทางกายภาพและชีวภาพของสิ่งมีชีวิต โดยปกติจะต้องอยู่ในสภาวะของ pH ที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตของมนุษย์ หรือกระบวนการในการผลิตทางอุตสาหกรรม เช่น อาหาร ยา เครื่องดื่ม น้ำประปา กระดาษเขียนหนังสือ จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ใช้และบริโภค ล้วนแต่จะต้องได้ผ่านการวัดค่า pH

pH ได้มาจาก power of Hydrogen, H ที่เป็นสัญลักษณ์ของไฮโดรเจนอิออน ดังนั้น pH ก็คือค่า Negative log of activity of hydrogen ions 

pH = – log10aH+

pH คือ ค่าที่แสดงถึงแอกติวิตี้ของอิออนไฮโดรเจนในสารละลายที่อุณหภูมิใดอุณหภูมิหนึ่ง 

pH Meter Calibration (การสอบเทียบ)

การสอบเทียบ pH Meter เป็นกระบวนการปรับค่าเครื่องวัด pH โดยการวัดค่า pH กับสารละลาย pH Standard Solution เนื่องจากลักษณะการวัดค่า pH นั้น หัววัดของ pH (Probe) จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และจำเป็นต้องได้รับการชดเชย และปรับค่าให้แม่นยำอยู่เสมอ และเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำเพื่อให้เครื่องวัดจดจำค่าศักย์ไฟฟ้าใน pH Standard Solution

การสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเนื่องจากการเสื่อมหรือด้วยคุณสมบัติของหัววัด pH เมื่อเวลาผ่านไปจากการใช้งานหรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ประสิทธิภาพของหัววัด pH จะเปลี่ยนไปจากตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ ดังนั้น การสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เป็นประจำเพื่อเป็นการทำให้แน่ใจว่า เครื่องวัดอ่านค่าได้ถูกต้อง แม่นยำ และวัดซ้ำได้ พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ความถี่ในการ Calibration นั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและการปนเปื้อนที่สูงขึ้น จำเป็นต้องปรับเทียบเครื่องวัดค่า pH บ่อยขึ้น และตรวจสอบการสอบเทียบเครื่องวัดค่า pH เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการวัด

เครื่องวัดค่า pH แต่ละยี่ห้อจะมีวิธีสอบเทียบที่แตกต่างกัน ให้อ่านจากคู่มือเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนพื้นฐานในการสอบเทียบว่าเครื่องมือนั้นๆ จะใช้ชุด pH Standard Solution ค่าไหนในการปรับเทียบ

และในรอบ 1 ปี การใช้เครื่องมือวัด pH จะต้องส่งสอบเทียบในห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ISO/IEC 17025:2017 เพื่อยืนยันการใช้งานของเครื่องมือวัดค่า pH

 

การสอบเทียบ  pH จะแบ่งวิธีทดสอบออกเป็น 2 แบบ ได้แก่

  1. การสอบเทียบ pH Scale คือ การป้อนค่าความต่างศักย์ให้กับ Indicator ของตัวมิเตอร์ เพื่อปรับค่า Slope ของเครื่องอ่านให้ใกล้เคียง หรือเท่ากับ Standard ที่อุณหภูมิ 25.0 oC หรือที่อุณหภูมิที่เครื่องใช้ในการสอบเทียบตามผู้ผลิต โดยทั่วไปการสอบเทียบ pH Scale จะสอบเทียบค่า pH จาก pH 0-14 โดยเริ่มจาก pH 7 โดยจะมีการป้อนค่าความต่างศักย์ดังนี้ 0.00, 59.16, 118.32, 177.48, 236.64, 295.80, 354.95, 414.11, -59.16, -118.32, -177.48, -236.64, -295.80, -354.95 และ -414.11
  2. การสอบเทียบ pH Electrode คือการสอบเทียบโดยใช้สารละลายมาตรฐาน (pH Standard Solution) โดยใช้ pH Electrode ต่อเข้ากับ Indicator เพื่ออ่านผล การสอบเทียบ pH Meter โดยใช้สารละลายมาตรฐาน จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและตามคู่มือผู้ผลิต เช่น pH 1.68, 4.01, 6.86, 7.00, 9.18 และ 10.01

 

          pH Meter คือ เครื่องมือวัดค่า pH ที่มีความสำคัญสำหรับบ่งชี้ค่าความเป็น กรด ด่าง หรือค่ากลาง ที่ถูกต้องของสารละลายหรือสิ่งต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม และสามารถแบ่งได้เป็น pH meter ประเภทต่างๆ ตามลักษณะการใช้งาน การที่จะสามารถใช้เครื่องมือวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน ควรมีการบำรุงรักษาเครื่อง pH Meter อย่างถูกต้องและจำเป็นต้องส่งเครื่องมือวัดมาเพื่อสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการที่ได้ใบรับรองผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมอ.หรือ ANAB อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค่าที่วัดจะยังคงถูกต้องและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

 

ผู้เขียน L7

 

 

 

 

เครื่องวัดความหวาน (Refractometer) Atago วิธีใช้งานง่ายกว่าที่คิดจริงมั้ย

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

 

เคล็ดลับ!? การปรับระดับน้ำของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

มารู้จักระดับน้ำในเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด กันเถอะ !!!

เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันนี้มี เครื่องชั่ง หรือ เครื่องชั่งละเอียด หลากหลายแบรนด์ที่มีการแข่งขันทางด้านการค้าทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศที่ค่อนข้างสูง เช่น แบรนด์ SARTORIUS , METTLER TOLEDO, OHAUS , AND, JADEVER, CAS,SHIMADZU, TIGER, T-SCALE, SUNFORD, TANITA, UWE, DIGI และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายหลากหลายให้เลือก ดังนั้นธุรกิจหรืออุตสาหกรรมจะอยู่รอดได้นั้น นอกจากสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งสำคัญคือความซื่อสัตย์ที่ต้องมีต่อลูกค้าทุกระดับ และเพื่อตอบโจทย์เครื่องชั่งที่จะใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงนั้น ผู้เขียนขอแนะนำให้รู้จักกับเครื่องชั่งอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพสูง คุณภาพดีอย่างแบรนด์ VIBRA เป็นเครื่องชั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีที่สุด ด้วยหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ พร้อมแสงด้านหลังสีขาว ช่วยให้การชั่งน้ำหนักทำได้ง่ายและสะดวกสบายแม้อยู่ในที่มืด ใช้งานในรูปแบบการหักค่าภาชนะ (Tare) การอ่านค่าเป็นเปอร์เซนต์ (%) การนับชิ้นงาน (Count) รวมถึงการ Memory จำน้ำหนักของวัตถุที่ทำการชั่งได้ด้วย เครื่องชั่ง Vibra สามารถปรับระดับขาของฐานเครื่องชั่ง พร้อมระดับน้ำสำหรับเช็คความสมดุลของเครื่องชั่ง

 

วันนี้เราจะทำความรู้จักกับตัววัดระดับน้ำในเครื่องชั่งว่าสำคัญอย่างไร และมีวิธีการปรับตั้งระดับน้ำเครื่องชั่งอย่างไรบ้างกันนะคะ

เครื่องชั่งเป็นเครื่องมือวัดน้ำหนักที่ใช้มากในชีวิตประจำวัน เช่น การชั่งเพื่อการพาณิชย์ การชั่งเพื่อกระบวนการผลิต การชั่งเพื่อระบบควบคุมคุณภาพ การชั่งเพื่องานทางการแพทย์ และการชั่งเพื่องานวิเคราะห์ทดสอบ หรือใช้เครื่องชั่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ชั่งผัก ชั่งปลา ชั่งเนื้อสัตว์ ชั่งผลไม้ ชั่งอาหาร ชั่งข้าวสาร ชั่งส่วนผสม ชั่งวัตถุดิบ หรือชั่งใช้อื่นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงพัฒนาเทคนิค รูปแบบการใช้งานที่ทันสมัยให้สะดวกต่อการใช้งาน ให้ค่าการชั่งน้ำหนักที่แม่นยำและให้ค่าความละเอียดในการอ่านน้ำหนักถูกต้อง ดังนั้นเพื่อเป็นการลดค่าความคลาดเคลื่อนของเครื่องชั่งให้น้อยลง ในกรณีที่สามารถควบคุมได้นั้น การตั้งระดับน้ำในตัวเครื่องชั่งให้ตรง จึงเป็นส่วนสำคัญของการใช้งานในกระบวนการผลิต และควบคุมคุณภาพต่างๆ ระดับน้ำในเครื่องชั่งนั้น มักจะถูกติดตั้งอยู่บนตัวเครื่องชั่ง เพื่อให้มองเห็นง่ายต่อการปรับระดับความสมดุลของตัวเครื่องชั่งให้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งท่านสามารถทำให้ค่าของเครื่องชั่งมีความเที่ยงตรงได้อยู่เสมอ ด้วยการ สอบเทียบเครื่องมือวัด อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ

ระดับน้ำเครื่องชั่ง เครื่องชั่งละเอียด

 

การปรับระดับน้ำ เครื่องชั่งละเอียด ให้อยู่ในแนวระนาบ

ก่อนใช้เครื่องชั่ง ควรปรับระดับลูกน้ำในเครื่องชั่ง โดยดูที่ฟองอากาศให้อยู่ตรงกลางเสมอ วิธีการปรับก็สามารถทำได้โดยปรับระดับที่ขาตั้งตรงฐานของเครื่องชั่งให้ฟองอากาศไปอยู่ตรงกลางภายในวงกลม ถ้าฟองอากาศอยู่ในวงกลมแล้วถึงจะสามารถใช้งานเครื่องชั่งได้ ลักษณะของลูกน้ำสามารถดูรายละเอียดตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ

วิธีการดูแลรักษาตัววัดระดับน้ำ

ในเครื่องชั่งนั้นไม่มีอะไรยากเลยค่ะ เพียงแค่หมั่นทำความสะอาดใช้ผ้าชุปน้ำสะอาดหรือแอลกอฮอล์เช็ดในส่วนด้านบนที่โชว์ตัวฟองอากาศ เพื่อให้เราสะดวกต่อการมองเห็นระดับน้ำที่ชัดเจนและแม่นยำมากขึ้นคะเห็นไหมคะการทำความสะอาดง่ายนิดเดียวเองค่ะเป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเรื่อง ระดับน้ำในเครื่องชั่ง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับเครื่องชั่ง VIBRA ที่ทาง CLC ได้จำหน่ายสามารถปรับความสมดุลระดับลูกน้ำได้โดยการปรับที่ขาตั้งของเครื่องชั่งก่อนการใช้งานได้ค่ะ

สำหรับผู้อ่านที่สนใจเครื่องชั่งดิจิตอล ยี่ห้อ  VIBRA หากกำลังมองหาเครื่องชั่งสักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องชั่ง ทาง CLC มีจำหน่าย MODEL SERIES AJ และ SJ ตอบโจทย์การใช้งานของท่านแน่นอน

นอกจากนี้ทางเราก็จำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องชั่ง ตามมาตราฐาน OIML-R76-1 หลากหลายแบบให้ท่านได้เลือกสรร อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมั่นในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ หากผิดพลาดหรือตกหล่นประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

 

Sensor ในเครื่องชั่งมีกี่ประเภทกันนะ?

 

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

วิธีเลือกอุณหภูมิสีเคลวินที่เหมาะสม

เคลวินของแสงคืออะไร? (Kelvin)

คำจำกัดความของเคลวินคือ “หน่วยฐาน SI ของอุณหภูมิทางอุณหพลศาสตร์ ซึ่งมีขนาดเท่ากับองศาเซลเซียส” นอกจากศัพท์ทางวิทยาศาสตร์แล้วเคลวินยังใช้ในการให้แสงเพื่อวัดอุณหภูมิสีของหลอดไฟบางประเภทอีกด้วย กล่าวโดยสรุป ยิ่งระดับเคลวินสูง
(แสดงเป็น K) เท่าใด แสงก็จะยิ่งขาวขึ้นเท่านั้น การทดสอบสามารถทำได้โดยใช้เครื่อง Color Light Box 

วิธีเลือกอุณหภูมิสีเคลวินที่เหมาะสม

อุณหภูมิสีของหลอดไฟแสดงเป็นหน่วยของอุณหภูมิสัมบูรณ์เคลวิน สังเกตด้วยสัญลักษณ์ K เครื่องใช้ในครัวเรือนมักพบในอุณหภูมิสีเคลวินที่ 2700K (warm incandescent), 3000K (warm white halogen) และ 3500K (warm white halogen)

โดยทั่วไปแล้วอุณหภูมิสีที่สูงกว่า 3500K จะใช้สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และในโรงพยาบาล เนื่องจากแสงสว่างจ้าและมีแสงสีฟ้าที่ส่องผ่านเข้ามาซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการตกแต่งภายในของบ้านได้ แต่ไฟส่องสว่างสำหรับงานจะมีประโยชน์ที่ 4000K ขึ้นไปเมื่อเลือกระบบไฟส่องสว่างใหม่สำหรับบ้าน อย่าลืมคำนึงถึงอุณหภูมิสีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเลือกอุณหภูมิสีที่เหมาะสม

แผนภูมิอุณภูมิสี

อุณหภูมิสีที่เหมาะสมเริ่มต้นด้วยหลอดไฟ ใช้มาตราส่วนสีอุณหภูมิเคลวินด้านล่างเพื่อช่วยกำหนดสีโดยประมาณที่หลอดไฟจะให้

อุณหภูมิสีของหลอดไฟ 

นอกจากประเภทของหลอดไฟแล้ว การใช้อุณหภูมิเคลวินยังสามารถช่วยแนะนำคุณในการพิจารณาว่าหลอดไฟชนิดใดที่เหมาะกับแต่ละห้อง

ไม่ว่าคุณจะต้องการแหล่งกำเนิดแสงแวดล้อมหรือแหล่งแสงสำหรับงานที่มีโฟกัสสูง ให้คำนึงถึงช่วงเคลวินต่อไปนี้ : ห้องนอนและพื้นที่กลางแจ้ง

  • น้อยกว่า 2,000K : ให้แสงสลัว คล้ายกับจากแสงเทียนเหมาะสำหรับบริเวณที่มีแสงน้อย
  • 2000K – 3000K : ให้แสงสีขาวนวล มักมีสีเหลืองเหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร
  • 3100K – 4500K : ให้แสงสีขาวในปริมาณที่สว่างเหมาะสำหรับห้องครัวสำนักงาน พื้นที่ทำงานและโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ต้องการแสงสว่างที่เหมาะสม
  • 4600K – 6500K : ให้แสงสีน้ำเงิน-ขาวในปริมาณที่สว่างคล้ายกับแสงกลางเหมาะสำหรับพื้นที่แสดงผลและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องการแสงมาก
  • 6500K ขึ้นไป : ให้แสงสีน้ำเงินสว่าง ซึ่งมักพบใน การใช้งานเชิงพาณิชย์ เหมาะสำหรับงานที่ใช้แสงที่สว่างมาก

การ สอบเทียบเครื่องมือวัด Color Light Box  ทางบริษัท Calibration Laboratory ได้ให้บริการสอบเทียบที่ Range 50 to 99990 Lux และ 2000 to 20000 K  โดยใช้  Chroma Meter Konica Minalta/CL-200A ในการ สอบเทียบเครื่องมือ
ซึ่งได้การรับรอง ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ผู้เขียน BABOO

 

ถอดรหัสฟังก์ชั่นและคุณลักษณะ True-RMS Digital Multimeter

สอบเทียบเครื่องมือวัดด้านไฟฟ้า

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

พูดคุยกับเรา

 

วิธีการสอบเทียบ Tablet Hardness Testing ทำอย่างไร

Tablet Hardness Testing

เครื่อง Tablet Hardness Testing เป็น เครื่องมือวัด สำหรับทดสอบความแข็งของเม็ดยาและวัดขนาดของเม็ดยา ทำไมถึงต้อง Test ความแข็งของเม็ดยา การทดสอบความแข็งของเม็ดยาเป็นเทคนิคที่ใช้ในห้องปฏิบัติการโดยอุตสาหกรรมยา เพื่อกำหนดจุดแตกหักและความสมบูรณ์ของโครงสร้างเม็ดยาและค้นหาว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ภายใต้สภาวะการจัดเก็บ การขนส่ง บรรจุภัณฑ์และการจัดการก่อนการใช้งาน จุดแตกหักของเม็ดยาจะขึ้นอยู่กับรูปร่างของมัน คล้ายกับการทดสอบความเปราะบางของเม็ดยา เครื่อง เครื่องวัดความแข็งเม็ดยา จะพบมากในอุตสาหกรรมยาโรงงานผลิตยาเพื่อควบคุมคุณภาพของยาเม็ดที่ผลิตออกมาจัดจำหน่ายของแต่ละบริษัทนั้นๆ เครื่อง เครื่องวัดความแข็งเม็ดยา ก็มีหลากหลายแบรนด์ให้ได้เลือกใช้งาน พร้อมกันนี้ยังจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด ความแข็งของเม็ดยา อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดต่อการใช้ตรวจวัดเม็ดยาอีกด้วย และเพื่อความแม่นยำในการทดสอบเครื่องมือวัดชนิดนี้ ต้องทำการ สอบเทียบ เครื่องทดสอบความแข็งของเม็ดยา และวิธีการ สอบเทียบของเครื่องมือวัด แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ก็จะแตกต่างกันออกไป

วิธีการสอบ สอบเทียบเครื่องมือวัด ความแข็งของเม็ดยา Tablet Hardness Testing

  • ตรวจสอบความพร้อมของ เครื่องมือวัด Tablet Hardness Testing
  • ทำความสะอาด เครื่อง Tablet Hardness Testing

เครื่องมือ Standard ที่ใช้ในการสอบเทียบจะใช้ Standard Weight เพื่อทดสอบค่าน้ำหนักหรือแรงกดของเครื่องมือ โดย เครื่องวัดความแข็งเม็ดยา จะมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ สอบเทียบเครื่อง ติดมากับเครื่องมือเพื่อใช้ในการสอบเทียบตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์

นำอุปกรณ์นี้ติดตั้งเข้ากับเครื่อง Tablet Hardness Testing

จากนั้นให้นำเครื่องตั้งขึ้นแล้วกดฟังก์ชั่น Cal ของเครื่องแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น ฟังก์ชั่นการ Cal จะเข้าไม่เหมือนกัน แนะนำให้อ่านคู่มือให้ละเอียดก่อนทำการสอบเทียบ                                                                     

เมื่อเข้าโหมด Cal แล้วเครื่องมือจะเรียกน้ำหนักที่จะสอบเทียบให้นำ Standard Weight วางบนอุปกรณ์ที่ได้ติดตั้งไว้บนเครื่อง เครื่องมือจะเรียกค่าน้ำหนักสาม Step แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าเครื่องแต่ละรุ่นสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไรโดยต้องอ่านคู่มือก่อนทำการสอบเทียบทุกครั้งครับ

ให้วาง Standard Weight ทีละ Step เช่น ดังรูปตัวอย่างด้านบน น้ำหนักสูงสุดของเครื่องที่รับได้อยู่ที่ 30 kg จะวาง Standard Weight ขึ้นทีละ 10 kg, 20 kg, 30 kg เครื่องมือจะจำค่าของ Standard Weight เมื่อสอบเทียบเสร็จแล้วให้ถอดอุปกรณ์เสริมออก แล้วนำเครื่องมือไปใช้ได้ตามปกติหลังจะทำการสอบแล้วจะมั่นใจในผลการ Test มากยิ่งขึ้น

โดยวิธีการสอบเทียบ เครื่องทดสอบความแข็งของเม็ดยา หรือวีธีการเข้าฟังก์ชันในการ Calibrate จะมีมาในคู่มือของเครื่องมือของแต่ละรุ่นและยี่ห้อควรศึกษาคู่มือให้ละเอียดก่อนทำการสอบเทียบ

ผู้เขียน Onsite

 

สอบเทียบเครื่องมือด้าน Torque&Force    สินค้าด้าน Torque&Force

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

 

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้งาน Welding Force Gauge เครื่องวัดแรงกด

หลักเกณฑ์การตั้งช่วงระยะเวลาการสอบเทียบเครื่องมือ ( Calibration Interval )

ในระบบการจัดการเครื่องมือวัด สิ่งที่สำคัญนอกจากการตั้งค่าเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด แล้ว การตั้งช่วงระยะเวลาการสอบเทียบ ( Calibration Interval ) ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ การตั้งค่าเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมืออาจอ้างอิงได้จากเอกสารมาตรฐานต่างๆ Specification จากคู่มือหรือ Website ผู้ผลิต แต่ในทางกลับกัน การตั้งระยะเวลาการสอบเทียบเครื่องมือเราจะมีเอกสารอ้างอิงอะไรได้บ้าง ถ้าคู่มือของเครื่องมือวัดไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน หรือในกรณีที่รับการตรวจจากหน่วยงานต่างๆ อาจมีคำถามที่ว่า เราเลือกใช้หลักเกณฑ์อะไร ในการตั้งช่วงระยะเวลาการสอบเทียบเครื่องมือ

หลักเกณฑ์ในการตั้งช่วงระยะเวลา การสอบเทียบเครื่องมือ

โดยบทความนี้จะแนะนำเอกสารต่างๆที่ผู้ปฏิบัติงานทางด้านเครื่องมือวัด อาจนำมาใช้อ้างอิงได้ แต่ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบกับมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบงานของเราด้วย ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เราอาจตั้งช่วงระยะเวลาการสอบเทียบ Pressure Gauge ตามมาตรฐานการสอบเทียบ Pressure Gauge จากประเทศเยอรมันนีหมายเลขเอกสาร DKD-R 6-1 Version 03/2014 หน้าที่ 51/51  กำหนดไว้ 1 ปี แต่มาตรฐานของลูกค้าเรากำหนดเครื่องมือวัดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ต้องสอบเทียบทุกๆ 6 เดือน เป็นต้น  โดยเราจะเริ่มที่มาตรฐาน ISO 10012:2003 (E ) Measurement management systems-Requirements for measurement process and measuring equipment ข้อ 7.1.2 ก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน ได้แต่กล่าวถึงว่าต้องมีการกำหนดช่วงการยืนยันทางมาตรวิทยา โดยใช้ข้อมูลการตัดสินที่ได้จากประวัติการสอบเทียบ การยืนยันมาตรวิทยา ความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูง โดยใช้เทคนิคการควบคุมกระบวนการทางสถิติสำหรับการวัดในการพิจารณาความเหมาะสมของช่วงเวลาการสอบเทียบซึ่งมาตรฐาน ISO 10012:2003 (E ) ได้แนะนำให้ดูจากเอกสารมาตรฐาน OIML D 10 Guidelines for the determination  of calibration intervals of measuring instruments

กำหนดการตั้งตัวเลือกของการกำหนดช่วงระยะเวลา การสอบเทียบเครื่องมือ

ดังนั้นเรามาศึกษามาตรฐาน ILAC G-24 / OIML D 10  Guidelines for the determination  of calibration intervals of measuring instruments  ซึ่งได้กำหนดไว้ในข้อที่ 2 หน้าที่ 7 ซึ่งกำหนดการตั้งตัวเลือกเริ่มต้นของการกำหนด
ช่วงระยะเวลาการสอบเทียบไว้  8 ข้อดังนี้

1. คำแนะนำจากผู้ผลิต
2. ขอบเขตการใช้งานที่กำหนด
3. อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม
4. ค่าความไม่แน่นอนของการวัด
5. ค่าความผิดพลาดสูงสุดที่ยอมรับได้
6. การปรับแต่งเครื่องมือหรือการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือ
7. ผลกระทบจากการวัด ( เช่นการวัดอุณภูมิที่สูงมากๆโดยใช้เทอร์โมคับเปิล )
8. ชุดของข้อมูลการวัดที่จัดเก็บ

1. มาตรฐานจากสถาบันมาตรวิทยาประเทศเยอรมันนี DKD –R-6-1 Version 03/2014

2.มาตรฐานหน่วยงานที่ให้การรับรองระบบคุณภาพประเทศออสเตรเลีย NATA CALIBRATION REFERENCE EQUPMENT TABLE
                                                        Calibration reference equipment table

Item of equipment Calibration interval (years) Checking interval (months) General comments and example reference standards
Accelerometer
Reference 5
24 Intercomparison
Acoustic attenuator
5
12 Check 2 ratios
Acoustic calibrator – including pistonphone and sound source
1 IEC 60942
6 Intercompare
Alignment telescope
6
Analogue band pass filter – sound & vibration
Octave and fractional 2 IEC 61260
Anemometer
1 Anemometers with rotating parts should be checked regularly for wear, damage and free bearing operation.
Angle gauge
Reference 4 then 8 subsequent

3. มาตรฐานหน่วยงานที่ให้รับการรับรองระบบคุณภาพประเทศอังกฤษ UKAS LAB 24 MEASUREMENT TRACEABILITY AND
CALIBRATION IN MECHANICAL TESTING

Item Type Calibration or check Level Interval (transition period) Type of Certificate Uncertainty budget required?
Compression and Tensile
 

Force measuring devices

 

(a)

Compression testing machines

 

Calibrate against BS EN ISO 7500-1

 

1

 

Should not exceed 1 year

(2 years)

 

UKAS

 

Yes

Check rate of loading and that compression platens or cages meet the specifications given in the relevant test standard or method 3 Annual In-house No
(b) Tensile testing machines Calibrate in accordance with the relevant standard, e.g.

BS EN ISO 7500-1 or ASTM E4

1 Annual (2 years) UKAS Yes
 

c) Tensile & Compression testing machines

Check rate of loading and straining where rates are specified by test standard or method

 

Verify that the rate of crosshead speed being displayed by the load frame test program is correct

3

 

 

 

3

Annual

 

 

 

Annual

In-house

 

 

 

In-house

No

 

 

 

No

Extension measuring devices (a) Extensometer Calibrate in accordance with the relevant Standard, e.g.,

BS EN ISO 9513

ASTM E83, over entire extension range or working range.

Classification or grading must satisfy requirements of test standard or method for

the property being determined.

1 Should not exceed 1 year

(2 years)

UKAS Yes

มาตราฐานที่ทางบริษัท CLC นำมาแสดงเป็นตัวอย่างแค่เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีมากกว่านี้ เพราะมาตรฐานเฉพาะของแต่ละเครื่องมืออาจมีกำหนดไว้เพิ่มเติม แต่ทางบริษัท CLC เรามีเอกสารที่จัดทำเป็นมาตรฐานวิธีการกำหนดช่วงระยะเวลาการสอบเทียบซึ่งวิธีการกำหนดของ CLC จะพิจารณาจาก

1.โรงงานผู้ผลิตเป็นผู้กำหนด

2.เอกสารอ้างอิงที่เป็นที่ยอมรับ

3.ความถี่ในการใช้งานของเครื่องมือ

4. ประวัติการสอบเทียบเครื่องมือ

และในการกำหนดระยะเวลาในการสอบเทียบเครื่องมือครั้งแรกนั้น ถ้าไม่มีการกำหนดจากบริษัทผู้ผลิต จะกำหนดไว้ที่ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องมือว่ามีความเสถียรมากหรือน้อย และเมื่อมีประวัติการทำงานของเครื่องมือและประวัติการสอบเทียบ ก็จะทำการพิจารณาที่จะคงระยะเวลาที่กำหนดไว้ที่เดิม หรือจะขยายระยะเวลาออกไป หรือจะต้องลดระยะเวลาในการสอบเทียบ
ให้น้อยลง ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีประกอบอีกครั้งหนึ่ง

5. สถานที่ตั้งของเครื่องมือ

6. ค่าเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือ (MPE)

          บทสรุปในการตั้งช่วงระยะเวลา การสอบเทียบเครื่องมือ ควรพิจารณาการใช้งานของเครื่องมือและผลกระทบต่อคุณภาพของการวัดในการใช้เครื่องมือจะเหมาะสมที่สุด เพราะมาตรฐานต่างๆเป็นเพียงคำแนะนำ ผู้ปฏิบัติงานที่ควบคุมเครื่องมือวัด จะต้องศึกษาหลักเกณฑ์ต่างๆ และระบบการทำงานที่ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการ เพื่อให้สามารถกำหนดช่วงระยะเวลาการสอบเทียบได้เหมาะสมที่สุด ประวัติการสอบเทียบและการทวนสอบเครื่องมือจะเป็นสิ่งชี้วัดถึงหลักเกณฑ์การปรับเปลี่ยนช่วงระยะเวลาการสอบเทียบหรือการคงช่วงระยะเวลาการสอบเทียบไว้เหมือนเดิม
ซึ่งในมาตรฐาน  ILAC G-24 / OIML D 10  ก็ได้กล่าวไว้ ซึ่งในคราวหน้าเราจะมาแนะนำในครั้งต่อไป

เอกสารอ้างอิง

  1. ISO 10012 – 2013 Measurement management systems-Requirements for measurement process and measuring equipment
  2.  ILAC G-24 / OIML D 10 Edition 2007  Guidelines for the determination  of calibration intervals of measuring instruments 
  3.  DKD-R 6-1 Edition 03/2014 Calibration of  Pressure Gauges
  4. UKAS LAB 24 Edition 2 May 2021 Measurement Traceability and Calibration in the Mechanical Testing of Materials
  5. NATA Specific Accreditation Guidance Calibration reference equipment table September 2020

ผู้เขียน เด็กช่างวัด 90

 

 

วิธีอ่านค่าใบ Calibration Certificate

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

บริการสอบเทียบเครื่องมือวัด  ซื้อเครื่องมือวัด

เทียบให้เห็นชัดๆไปเลย เครื่องวัดอุณหภูมิ Fluke 3 รุ่น!! รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?!

IR Thermometers   62 MAX  , 62 MAX + และ 64 MAX  ยี่ห้อ Fluke

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึง IR Thermometers หรือ เครื่องมือที่ เรียกกันอีกอย่างว่า เครื่องวัดอุณหภูมิ หรือปืนยิงอุณหภูมิกันนะคะ ขอแนะนำยี่ห้อสีเหลืองที่เห็นกันบ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมหรือในท้องตลาดทั่วไป และจำเป็นต้อง สอบเทียบเครื่องมือวัด ชนิดนี้ด้วยค่ะ  นั่นคือ  ยี่ห้อ Fluke วันนี้จะขอแนะนำ 3 รุ่นด้วยกันดังนี้ค่ะ Fluke 62 MAX  , 62 MAX + และ 64 MAX  จะมีความแม่นยำมาก เป็นสิ่งที่คนใช้งานอย่างเราๆต้องการค่ะและที่สำคัญราคาไม่สูงมากนัก ซึ่ง IR Thermometers เครื่องมือวัด นี้ยังได้รับการทดสอบและออกแบบมาให้ทนต่อการตกจากที่สูงถึง 3 เมตรค่ะ  เราสามารถวางใจได้เลยนะคะว่า
IR Thermometers  ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบานี้จะทำงานได้ตามที่เราต้องการ แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด เมื่อเราไม่สามารถยืนอยู่ในจุดนั้นได้ค่ะ ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า

IR Thermometers มีลักษณะเด่นอะไรบ้างดังนี้ค่ะ 

  •  เทคโนโลยีเลเซอร์ที่แม่นยำ
  •  ความแม่นยำของอุณหภูมิสูงสุด ≥ 0 °C: ± 1 °C หรือ ± 1 % ของค่าที่อ่านได้ แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่าด้วยอัตราส่วนระยะทางต่อจุด 20:1 (รุ่น 64 MAX)
  •  มีไฟฉาย (รุ่น 64 MAX) และจอ LCD เรืองแสงขนาดใหญ่ที่ทำให้อ่านง่ายมากค่ะ ดูง่ายแม้ในสภาพแวดล้อมที่มืด
  •  การป้องกัน ระดับ IP54 เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนในอากาศที่เป็นพิเศษ ป้องกันเศษฝุ่นต่างๆ
  •  การบันทึกข้อมูลได้  99 จุด (รุ่น 64 MAX)
  •  แสดงอุณหภูมิต่ำสุด สูงสุด หรือค่าเฉลี่ย ของความแตกต่างระหว่างการวัด
  •  สัญญาณแจ้งเตือนค่าสูงและต่ำ สำหรับการวัดอย่างรวดเร็ว
  •  รุ่น 62 MAX+ จะมีเลเซอร์แบบคู่เพื่อช่วยให้เราระบุพื้นที่วัดได้ค่ะ  พื้นที่การวัด คือ จุดระหว่างจุด
    (รุ่น 62 MAX และ 64 MAX มีเลเซอร์แบบเดี่ยว)
  •  มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เข้ากับกล่องเครื่องมือของเราได้อย่างง่ายดาย

รูป แสดงการยิง IR Thermometer Fluke

 

รูป แสดง Specifications Fluke  62 MAX  , 62 MAX + และ 64 MAX 

การดูแลรักษา เครื่องวัดอุณหภูมิ มีข้อควรปฏิบัติตามนี้

  1. ก่อนและหลังใช้งานให้ทำความสะอาด และเก็บใส่กล่องอุณภูมิที่เหมาะสม
  2. ควรเลือกซื้อรุ่นให้เหมาะสม ตามการใช้งาน
  3. การเก็บ IR Thermometer ถ้าหากไม่มีการใช้งานเวลานานให้แกะ Battery ออกเพื่อยืดอายุการใช้งาน
  4. ห้ามทำ IR Thermometer ตกหล่น อาจทำให้ค่าคลาดเคลื่อน
  5. ควรมีการส่งสอบเทียบ ทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง
    ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าค่ายังปกติ หากไม่ปกติควรส่งซ่อมก่อนนำมาใช้งานค่ะ

พร้อมกันนี้ทางบริษัท Calibration Laboratory Co., Ltd. มีสินค้ายี่ห้อ Fluke จำหน่ายด้วยนะคะ มีบริการทั้งขายพร้อมใบ Certificate และบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด IR Thermometer อย่างเดียวก็ได้ด้วยค่ะ  หากลูกค้าสนใจต้องการขอใบเสนอราคาสามารถส่งไปขอได้ที่เมลล์ นี้ได้เลยค่ะ  info@cal-laboratory.com ยินดีให้บริการค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับเรื่อง ข้อแตกต่างของ เครื่องวัดอุณหภูมิ  IR Thermometers   62 MAX  , 62 MAX + และ 64 MAX  ยี่ห้อ Fluke  มีการใช้งานไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมคะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้เข้ามาอ่านกันนะคะ ใบบทความครั้งต่อไปหากมีสินค้าตัวไหนที่น่าสนใจจะมาเขียนให้อ่านกันอีกแน่นอนค่ะ สำหรับบทความนี้ขอจบการเขียนเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

บริการ สอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

พูดคุยกับเรา

 

 

อุณหภูมิและความชื้น ที่มาของ THERMO-HYGROMETER

 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องมือสึกหรอ จนต้องเปลี่ยนหรือซ่อม วัดได้ด้วย PIN ON DISK

เครื่องมือวัด ประเภท เครื่องทดสอบการสึกหรอ แบบ พินออนดิสก์ มีส่วนประกอบที่สําคัญในการทํางาน คือ ชุดหัวกดชิ้นงาน พร้อมตุ้มน้ำหนัก ชุดควบคุมการทํางานและชุดจานจับยึดชิ้นงาน ส่งกําลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านสายพานและพูลเล่ย์ ซึ่งเครื่องทดสอบการสึกหรอนี้ จะใช้ชิ้นทดสอบเป็นสแตนเลสแบบมาตรฐานและชิ้นทดสอบที่ผ่านกระบวนการชุบแข็งเพื่อให้ผลสรุปของโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์และขอบเขตที่กําหนดไว้ จึงต้องทําการศึกษา ทฤษฎีเกี่ยวกับหลักการทํางานหลักการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ตลอดจนหลักการออกแบบและจัดสร้างเครื่องทดสอบการสึกหรอแบบพินออนดิสก์และการวิเคราะห์ผลการทดลองให้เป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบ ASTM G99-05

การทดสอบการสึกหรอ แบบพินออนดิสก์ (Pin-on-Disk) หรือการทดสอบการสึกหรอแบบไถล เป็นการทดสอบแบบหนึ่งที่ใช้ทั้งในห้องปฏิบัติการและการใช้งานทั่วไปโดยจะทําการทดสอบด้วยวัสดุ 2 ชนิดคู่กัน
วัสดุชิ้นที่หนึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลมหรือแท่งทรงกระบอกซึ่งเรียกว่าพินที่ถูกสวมด้วยลูกตุ้ม เพื่อเพิ่มแรงกดวางตั้งฉากและให้สัมผัสกับวัสดุอีกชิ้นหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นจานเรียกว่าดิสก์โดยการทดสอบจะให้ดิสก์หมุนในลักษณะวงกลมรอบตัวเองเกิดการเสียดสีระหว่างผิววัสดุทั้งสองจนเกิดเป็นร่อง การเสียดสีที่เรียกว่ารอยสึก

การสอบเทียบการสึกของเครื่องมือด้วย เครื่องทดสอบการสึกหรอ

1.ทดสอบการสึกหรอ ด้วยการ สอบเทียบอุณหภูมิ ของแผ่นประกบบนและล่าง

โดยการCompareโดยใช้ เครื่องมือวัด ชื่อ DOCUMENT PROCESS CALIBRATOR WITH TEMPERATURE SENSOR (STANDARD PROBE)
                                     

2. สอบเทียบความเร็วรอบในการทดสอบ

ใช้ เครื่องมือ ชื่อ TACHOMETER ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ด้วยวิธีการวัดแบบไม่สัมผัส โดยใช้แสงอินฟราเรดหรือแสงเรเซอร์ในการวัด ไปที่จานหมุนของเครื่องทดสอบ

3. เครื่องทดสอบการสึกหรอ โดย สอบเทียบตุ้มน้ำหนัก ของเครื่อง

โดยใช้เครื่องมือชื่อ ELECTRONIC BANLANCE ในการ สอบเทียบเครื่องมือวัด

ผู้เขียน A BABYSTRIKE

 

 

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

ตู้แช่แข็ง วิธีใช้? ทำอย่างไรให้ใช้งานได้นาน

การวัดค่า ตู้แช่แข็ง (Freezer) ให้ได้ค่าที่ถูกต้อง

ตู้แช่แข็ง ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มของ เครื่องมือวัด แต่เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องมีการ สอบเทียบเครื่องมือ  เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเสมอ เมื่อตู้แช่แข็งถูกใช้งานผ่านไปนาน ๆ อาจะมีน้ำแข็งชั้นหนาๆ ก่อตัวขึ้นได้ภายในตู้แช่แข็ง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มค่าไฟ ทำให้ยุ่งยากตอนเอาของเข้า-ออกจากช่องแช่ และทำให้อุณหภูมิภายในตู้กระจายไปไม่ทั่วตู้ และนี่คือวิธีการละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งอย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุด

1. ปิดสวิตช์ freezer :

เพื่อไม่ให้ตู้แช่ทำงาน และทำการถอดปลั๊กไฟตู้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากไปฟ้ารั่วการ

2. นำอาหารหรือผลิตภัณฑ์ ออกจากช่องแช่แข็ง :

เคลียร์ช่องแช่แข็งให้ว่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นำอาหารออกจากช่องแช่แข็งมากเท่าที่จะทำได้ ห่อของไว้ในผ้าเช็ดตัวแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเก็บความเย็น เพื่อไม่ให้ของละลาย

3. เลือกวิธีการละลายน้ำแข็ง   

ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป

3.1 รอให้น้ำแข็งละลายจาก ตู้แช่แข็ง

รอให้น้ำแข็งละลายแค่ให้เวลาในการละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งตามวิธีดั้งเดิม แม้ว่านี่อาจจะช้า  แต่ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

3.2 การใช้ไดร์เป่าเพื่อละลายน้ำแข็ง

ใช้ไดร์เป่าผม การใช้ไดร์เป่าผมเพื่อละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งนั้นควรระวังด้านความปลอดภัย ความร้อนสูงอาจจะทำให้ชุดอุปกรณ์เสียหายได้  ให้เน้นที่บริเวณเล็กๆ จุดเดียวในแต่ละครั้ง

3.3 การใช้พัดลมเป่าเพื่อละลายน้ำแข็ง 

ใช้พัดลม การใช้พัดลมธรรมดาๆ เป่า สามารถช่วยหมุนเวียนอากาศที่ร้อนกว่าให้เข้าไปในช่องแช่แข็งได้ วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีกับสภาพอากาศบ้านเราได้อย่างเหมาะสม

3.4 การใช้น้ำร้อนเพื่อละลายน้ำแข็ง

ตั้งหม้อน้ำร้อนไว้บนชั้นวาง วิธีที่พบได้บ่อยเพื่อเร่งกระบวนการคือการวางชามหรือหม้อน้ำเดือดไว้บนชั้น วางผ้าขนหนูหนาๆ รองไว้ใต้หม้อบนชั้นวางและปิดประตู ไอน้ำจะทำให้น้ำแข็งคลายตัว และคุณจะสามารถใช้มือหยิบน้ำแข็งทั้งหมดออก

 
4.เช็ดน้ำและทำความสะอาดทั้งหมด :

ใช้ผ้าขนหนูเช็ดน้ำตามที่คุณทำได้ แล้วทำให้ตู้แช่แข็งแห้งก่อนเปิดเครื่องอีกครั้ง ผู้อ่านควรใช้ผ้าขนหนูเพื่อทำให้ตู้แช่แข็งแห้งก่อนที่จะเปิดเครื่องอีกครั้ง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้น้ำแข็งก่อตัวทันที

ระบบ DEFROST

คือการละลายน้ำแข็งที่จะพบได้ในตู้แช่ ซึ่งบริเวณ ช่อง FREEZE ของตู้เย็นดังกล่าวจะมีท่อ น้ำยาความเย็นที่เรียกว่า DIREC COOL เดินไว้โดยรอบ ไม่ได้ใช้พัดลมส่งความเย็นแบบตู้เย็น NOTROST เวลาที่เปิดดู อากาศชื้นภายนอกจะไหลเข้าไป  ความชื้นจะกลั่นตัวเป็นน้ำแข็งเกาะที่ผนังช่อง FREEZE ไปเรื่อย ๆ การ DEFROST คือการปิดตัว COMPRESSOR ให้หยุดทำงานโดยผู้ใช้จะต้องทำการกดเอง เพื่อน้ำแข็งเริ่มก่อตัวมากเกินไป เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายก็จะไหลทางช่อง DRAIN

การ สอบเทียบเครื่องมือ ตู้แช่แข็ง

            ติดตั้ง SENSOR วัดอุณหภูมิไว้ ภายในตู้แช่แข็ง แล้วทำการเปิดตู้แช่แข็ง โดย SET อุณหภูมิไว้ที่ 20 องศาเซลเซียส แล้วเก็บค่าโดยเก็บค่าเป็นระยะเวลา 30 นาที

รูป แสดงตำแหน่งวาง SENSOR ทั้ง 9 ตำแหน่ง

รูป แสดงค่าก่อนละลายน้ำแข็ง

รูป แสดงค่าหลังละลายน้ำแข็ง

จะเห็นได้ว่ากราฟของตู้แช่ที่ไม่ได้ละลายน้ำแข็ง ตู้จะทำงานหนัก และอุณหภูมิไม่นิ่งสม่ำเสมอเหมือนกับตู้แช่ที่ทำการละลายน้ำแข็งแล้ว และอุณหภูมิจะไปถึงกันทั่วทั้งตู้  โดยตู้แช่แข็งที่มีน้ำแข็งเกาะหนา จะต้องทำการละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ ตู้แช่เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนาน

 

ผู้เขียน กิตติพันธ์

 

 

การใช้งานตู้แช่แข็งที่ถูกวิธี

บริการสอบเทียบอุณหภูมิและความชื้น

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

พูดคุยกับเรา

 

 

Linear Gauge คืออะไร และการติดตั้งของ Linear Scale

Linear Gauge

Linear Gauge (ลิเนียร์สเกล), Linear Scale หรือ Linear Position Transducer คือ อุปกรณ์วัดระยะทางการเคลื่อนที่หรือตำแหน่งในแนวเส้นตรง (Stroke) ที่มีความละเอียดสูง สามารถวัดชิ้นที่มีความละเอียดสูงถึง 0.001 mm มีหน่วยในการวัดระยะทางเป็นเมตร (m) หรือ มิลลิเมตร (mm) โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่เชิงเส้นไปเป็นค่าความต้านทาน (Resistance) ทางด้านเอาต์พุต (Output) หรือจะเป็นสัญญาณเอาต์พุตอื่น ได้แก่ สัญญาณพัลส์ (Push-Pull), สัญญาณกิโลโอห์ม (kΩ) ขึ้นอยู่กับลิเนียร์สเกล ของแต่ละรุ่น โดยสัญญาณเอาต์พุตจะถูกส่งต่อไปยังหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลที่ติดตั้งอยู่หน้าเครื่องจักร CNC เช่น เครื่องกลึง เครื่องมิลลิ่ง เครื่องเจียระไน เป็นต้น ในการแสดงผลและควบคุมการบ่งบอกตำแหน่งในการ ตัด กัด เจาะ กลึง ที่ถูกต้อง เพื่อลดความผิดพลาดของชิ้นงาน

ลักษณะการติดตั้งของ Linear Scale มี 2 แบบ ดังนี้

1.ไม่สามารถถอดประกอบได้ (Non-Interchangeable) เป็นรางสไลด์ที่ไม่สามารถซื้อราง (Rail) และสไลด์บล๊อค (Slide block) แยกชิ้นกันได้ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างๆ คือ

ข้อดี 

  • มีค่าความแม่นยำให้เลือก หลายระดับ

ข้อเสีย  

  • เมื่อรางเกิดความเสียหายจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งรางและสไลด์บล๊อค
  • เมื่อถอดสไลด์บล๊อคออกมา เม็ดลูกปืนจะหลุดออกมาด้วย ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการสูญหายได้ นอกจากนั้นมีโอกาสที่จะมีสิ่งสกปรกเข้าไปติดอยู่บนผิวของเม็ดลูกปืน
  • ในบางครั้งการติดตั้งทำได้ยากหากมีพื้นที่จำกัด

 

2. สามารถถอดประกอบได้ (Non-Interchangeable) เป็นรางสไลด์ที่สามารถซื้อราง(Rail) และสไลด์บล๊อค (Slide block) แยกชิ้นกันได้

ข้อดี 

  • สามารถเปลี่ยนชิ้นอุปกรณ์ที่เกิดความเสียหายได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด 
  • สะดวกต่อการประกอบและซ่อมบำรุง

ข้อเสีย 

  • มีค่าความแม่นยำให้เลือกค่อนข้างจำกัด

ส่วนประกอบของ Linear Gauge

  1. ราง (Rail) : ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่ของสไลด์บล๊อค (Slide Block)
  2. สไลด์บล๊อค (Slide Block) : ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดการเคลื่อนที่ของของส่วนประกอบที่ติดตั้งอยู่บนสไลด์บล๊อค ให้เคลื่อนที่ไปตามแนวราง
  3. เม็ดลูกปืน (Ball bearing) :  ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเคลื่อนที่ระหว่างสไลด์บล็อคและราง โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานความเสียดทานต่ำ มีให้เลือกทั้งแบบเม็ดลูกปืนทรงกลม (Ball) และ เม็ดลูกปืนทรงกระบอก (Roller)
  4. ร่องลูกปืน (Ball groove) :  ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้เม็ดลูกปืนไหลเวียนไปได้ตลอดการเคลื่อนที่
  5. ซีล (Seal) : เป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอม เข้าไปยังสไลด์บล๊อค (Slide Block) และยังสามารถป้องกันการรั่วไหลของสารหล่อลื่น เช่น จารบีออกจากสไลด์
  6. หัวอัดจารบี (Grease nipple) : เปรียบเสมือนเป็นประตูทางผ่านของสารหล่อลื่น เพื่อลดการเสียดสี และการสึกกร่อนของลูกปืนภายใน

ข้อแนะนำในการเลือกใช้งาน ลิเนียร์สเกล
     • เครื่องมือวัด Linear Gauge ควรเลือกใช้ตามย่านการวัดชิ้นงาน  (Measurement Stroke) และระยะการเคลื่อนที่ (Stroke)
     • สัญญาณเอาต์พุตของ Linear Scale มีหลายแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน เช่น แบบอนาล็อก, แบบดิจิตอล โดยส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้แบบอนาล็อกเนื่องจากเป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง สามารถเดินสายได้ไกลและลดสัญญาณรบกวนในระบบได้
     • ความแม่นยำในการวัด (Accuracy) ผู้ใช้งานควรทราบว่าอุปกรณ์ที่เราเลือกใช้นั้นมีค่าความละเอียดในการวัด (Resolution) และความเที่ยงตรง (Accuracy)ในการวัดมากน้อยเพียงใด
     • ขนาดของอุปกรณ์ (Dimension) และพื้นที่ในการติดตั้ง (Installation) ควรทราบขนาดของอุปกรณ์และพื้นที่ในการติดตั้ง เนื่องจากต้องทำการเลือกรุ่นของ Linear Scale ขนาดที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะทำการติดตั้ง

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบ Linear Gauge และได้รับการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI) และจาก  ANSI National Accreditation Board (ANAB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งแบบนำกลับมาสอบเทียบที่ห้องปฏิบัติการและแบบ Onsite หน้างานเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม โดยขอบข่ายการวัดสามารถสอบเทียบได้ถึง 12000 mm. ด้วยวิธีการ Direct Measurement with Laser Interferometer

ISO/IEC 17025:2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศไทย (TISI)

ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 1จาก ANSI National Accredit Board (ANAB)

 

ผู้เขียน Keaw VIP

 

 

เครื่อง CMM คืออะไร มีประเภทใดบ้าง

 บริการสอบเทียบด้านมิติ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา