คลังเก็บหมวดหมู่: บทความ

ประเภท ข้อควรระวัง และการสอบเทียบไมโครมิเตอร์วัดภายนอก (Outside micrometer)

ไมโครมิเตอร์วัดภายนอก (Outside micrometer)

Outside micrometer หรือ ไมโครมิเตอร์วัดภายนอก คือ เครื่องมือที่ใช้วัดด้านมิติ (Dimension) ภายนอกของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดขนาด วัดความยาว วัดความหนา ของชิ้นงาน หรืออุปกรณ์ต่างๆที่ต้องการนำมาวัดรอบนอก โดยเครื่องมือวัดไมโครมิเตอร์วัดภายนอกนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ด้วยความที่ใช้งานง่าย ราคาไม่สูงมาก และให้ความแม่นยำที่ค่อนข้างดี ไมโครมิเตอร์วัดภายนอกจึงมีใช้งานกันแทบจะทุกโรงงานในภาคอุตสาหกรรม

ลักษณะของไมโครมิเตอร์วัดนอก (ตามรูป)

การแบ่งประเภทของไมโครมิเตอร์วัดภายนอก

ในที่นี้ผู้เขียนขอแบ่งตามลักษณะของปากวัด โดยที่พบมากจะแบ่งได้ดังนี้

  1. Outside Micrometer แบบปากเรียบปรกติ
  2. Blade micrometer
  3. V-anvil Micrometer
  4. Screw micrometer
  5. Disk micrometer
  6. Point micrometer

แต่ทั้ง 6 ประเภทที่กล่าวมา คือใช้วัดภายนอกของชิ้นงานทั้งสิ้น

การใช้งานเครื่องมือวัดOutside micrometer

  1. ตรวจดูการหมุนของสเกลว่าไม่ติดขัด สามารถใช้งานได้ปรกติหรือไม่
  2. ปรับสเกลไปให้ปากวัดทั้ง 2 ด้านแนบสนิทกัน
  3. กด Set zero ก่อนนำชิ้นงานมาวัด
  4. ปรับสเกลให้มีช่องว่างและนำชิ้นงานหรืออุปกรณ์ที่ต้องการวัดเข้ามาวัด
  5. ปรับสเกลให้ด้านทั้ง 2 ชนกับชิ้นงานทั้ง2 ด้าน
  6. อ่านค่าที่หน้าจอ/สเกล
  7. ปรับสเกลให้มีระยะห่างจากชิ้นงานเล็กน้อย เพื่อนำชิ้นงานออก

 

ข้อควรระวังในการใช้งานไมโครมิเตอร์วัดภายนอก

  1. ควรเก็บเครื่องมือวัดใส่กล่องหลังจากจากใช้งานเสร็จ เพื่อป้องกันปากวัด แตก หัก หรือบิ่น
  2. ควรทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้งหลังการใช้งาน แต่ไม่ควรใช้น้ำในการทำความสะอาดเพราะอาจทำให้สนิมเกาะที่ปากวัดได้
  3. ควรวัดชิ้นงานหรืออุปกรณ์ที่หยุดนิ่ง ไม่เคลื่อนที่ เพื่อป้องกันปากวัดชำรุด
  4. ควรเลือกใช้ไมโครมิเตอร์วัดภายนอกที่เหมาะสมกับชิ้นงาน ให้มีขนาดที่พอดีใกล้เคียงกัน
  5. หากสามารถใช้งานร่วมกับขาตั้งจะดียิ่งขึ้น เพราะจะทำให้จับไมโครมิเตอร์วัดภายนอกให้นิ่ง ค่าที่ออกมาก็จะแม่นยำ

ทำไมถึงต้องสอบเทียบเครื่องมือวัดOutside micrometer

เพราะไมโครมิเตอร์วัดภายนอกก็เป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่นิยมใช้วัดชิ้นงานในภาคอุตสาหกรรม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการันตีหรือยืนยันว่าค่าที่แสดงผลของไมโครมิเตอร์วัดภายนอกนั้นเที่ยงตรงและให้ค่าที่ถูกต้องอยู่ การสอบเทียบเครื่องมือนี่เองที่จะเป็นตัวยืนยันผลได้

ทาง CLC สามารถสอบเทียบเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์วัดภายนอก ได้โดยได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 ทั้งของ TISI และต่างประเทศอย่าง ANAB (จากประเทศสหรัฐอเมริกา)

ทั้งนี้ Standard ที่ทาง CLC ใช้ในการสอบเทียบคือ Standard Gauge block set

ตัวอย่าง Standard Gauge block set ของบริษัทแคลิเบรชั่นแลบอราทอรี จำกัด

โดยทาง CLC จะสอบเทียบระยะ Move ของตัว Micrometer ซึ่งมีระยะ 25 mm

โดยแบ่งจุดสอบเทียบให้ 10 ตำแหน่งตามรูป

 

ตัวอย่างการรายงานผลของบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด

ทั้งนี้นอกจากเครื่องมือไมโครมิเตอร์วัดภายนอกแล้ว ทางCLC ยังสามารถสอบเทียบเครื่องมือ Standard Rod ที่อยู่ในกล่องของไมโครมิเตอร์วัดภายนอกได้ด้วยนะคะ และได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 เช่นกันค่ะ

ผู้เขียน จุ๊บจิ๊บ วีไอพี

 

 

วิธีเลือกซื้อเกจบล็อก (Gauge block) ชนิดของเกจบล็อกและเลือกซื้อเกจบล็อกยังไงให้ตรงกับงาน

บริการสอบเทียบด้านมิติ ดูสินค้าด้าน Dimension

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

Calibration Tester เครื่องมือวัดด้านมิติ (Dimension) ที่เป็น Standard ที่นิยมใช้กันมีชนิดไหนกันบ้าง

          วันนี้เรามาพูดถึงเรื่อง เครื่องมือวัด ด้านมิติ (Dimension) ที่เป็นระดับ Standard หรือเครื่องมือที่ใช้ สอบเทียบเครื่องมือวัด Calibration Tester ที่ใช้ในการสอบเทียบเครื่องมือวัดจำพวก Dial Gauge, Dial Test Indicator และ Digimatic Indicator นั่นก็คือ Calibration Tester นั่นเอง มาดูกันครับว่าที่นิยมใช้กันอยู่ตามห้องปฎิบัติการ หรือ โรงงานอุตสาหกรรมนั้น มีชนิดไหนกันบ้าง

  1. Calibration Tester หรือ Dial Gauge Tester

เครื่องมือวัด Calibration Tester หรือ  Dial Gauge Tester ลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะมี Range อยู่ที่ 0-25 mm. และมีความละเอียด (Resolution) อยูที่ 0.001 mm. หรือ 1 micron นั่นเอง และมี Accuracy ± 0.002 mm.(2 micron)  Calibration Tester ลักษณะนี้เหมาะในการใช้สอบเทียบเครื่องมือวัด Dial Gauge, Dial Test Indicator, Digimatic Indicator ที่มี Range ไม่เกิน 0-25 mm. และความละเอียดอยู่ที่ 0.01 mm. ( 10 micron)  ตามตัวอย่างรูปที่ 1

รูปที่ 1  

  1. Calibration Tester

    อีกแบบที่บางห้องปฎิบัติการสอบเทียบหรือบางโรงงานเรียกว่า “ลูกหมู” (ดูคล้ายลูกหมูเหมือนกันนะ)

Calibration Tester ลักษณะนี้ ก็เป็นอีกชนิดที่นิยมใช้กัน เท่าที่เจอมาจะแบ่งย่อยไปอีก 2 แบบ คือ

     2.1 Calibration Tester Range 0-5 mm.

มีค่าความละเอียด (Resolution) อยู่ที่ 0.0002 mm. (0.2 micron) และมี Accuracy± 0.0008 mm. (0.8 micron) ตามตัวอย่างรูปที่ 2

รูปที่ 2

  2.2 Calibration Tester Range 0-1 mm.

มีค่าความละเอียด (Resolution) อยู่ที่ 0.0002 mm.(0.2 micron) แต่มี Accuracy± 0.0002 mm.(0.2 micron) เลยทีเดียว  ตามตัวอย่างรูปที่ 3

รูปที่ 3

Note: แบบ 2.1 และ 2.2 หน้าตาเหมือนกัน ต่างกันที่ Range และ Accuracy

  1. Dial Gauge Testing Machine

    เครื่องมือชนิดสุดท้ายนี้จะไม่ค่อยเจอในภาคอุตสาหกรรมเท่าไหร่ แต่สำหรับห้องปฎิบัติการสอบเทียบถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดย CLC เองก็เลือกใช้เครื่องมือวัดชนิดนี้เป็น Standard โดยมี Range 0-100 mm. Resolution 0.1 micron (0.0001 mm.)และมี Accuracy±0.3 micron(0.0003 mm.) ใช้สอบเทียบเครื่องมือวัดที่มี Range สูงได้ถึง 100 mm. ตามตัวอย่างรูปที่ 4

รูปที่ 4 รูปเครื่องมือStandardของบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด

ข้อดี – ข้อเสียของ Calibration Tester ทั้ง 3 แบบ

แบบที่ 1

ข้อดี คือ

  • ราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับแบบที่ 2 และ 3
  • เคลื่อนย้ายสะดวก / น้ำหนักเบา
  • ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสีย คือ

  • Accuracy ไม่ดีเท่าแบบที่ 2 และ 3
  • สอบเทียบเครื่องมือที่มีความละเอียดสูงเช่น 1 หรือ 2 micron ไม่ได้

แบบที่ 2

ข้อดี คือ

  • Accuracy ดีกว่าแบบที่ 1 เยอะ
  • สอบเทียบเครื่องมือที่มีความละเอียดสูง1 หรือ 2 micron ได้
  • เคลื่อนย้ายสะดวก

ข้อเสีย คือ

  • ราคาสูงกว่าแบบที่ 1 พอสมควร
  • ใช้งานได้ไม่เกิน 5 mm.

 

แบบที่ 3

ข้อดี คือ

  • สามารถสอบเทียบได้ถึง 100 mm.
  • Accuracy ดีประมาณ ± 3 micron
  • Input data เข้าระบบ Computer ได้ทันที (ช่วยลด Human Error)

ข้อเสีย คือ

  • ราคาสูงกว่าแบบที่ 1 และ 2 มาก
  • ต้องใช้ร่วมกับโปรแกรมเฉพาะของรุ่น
  • เคลื่อนย้ายลำบาก

 

     ส่วนการบำรุงรักษาจะเหมือนกันทั้ง 3 แบบ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือ ก่อนและหลังใช้งาน ควรทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสกับ Probe ของ Dial Gauge ด้วยผ้าสะอาดชุบแอลกอฮอล์และเช็ดให้แห้ง และหลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรใช้สารเคลือบผิวเครื่องมือวัดบริเวณหน้าสัมผัสกับ Probe ของ Dial Gauge เพื่อเป็นการรักษาและป้องกันสนิม เพื่อยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องมือระดับ Standard ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    …ฝากไว้ให้คิด… การเลือกซื้อหาเจ้าเครื่อง Calibration Tester มาใช้งานนั้น ทางผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยคือ เรื่องราคาและความคุ้มค่า เพราะแน่นอนว่า Calibration Tester แต่ละแบบที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่มีราคาค่อนข้างสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ถ้าหากเครื่องมือ Dial Gauge, Dial Test Indicatorและ Digimatic Indicator ที่มีครอบครองอยู่มีจำนวนไม่มาก อาจจะไม่คุ้มค่าหากต้องมาเสียเงินซื้อเครื่องมือระดับ Standard มาใช้งาน เพราะนอกจากต้นทุนของเครื่องมือ Standard แล้ว ทุกๆปียังต้องส่งเครื่องมือ Standard ไปสอบเทียบกับห้องปฎิบัติการสอบเทียบภายนอกอีกด้วย..

     สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตอนนี้ทางบริษัท Calibration Laboratory Co.,Ltd. หรือ CLC ของเรา เป็นตัวแทนจำหน่าย Calibration Tester ทุกรุ่นที่ได้กล่าวมา และยังมีบริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด  Calibration Tester, Dial Gauge Tester, Dial Gauge Testing Machine ในรูปแบบการรับรอง Accredit 17025 ( ทั้ง สมอ. และ ANAB ท่านสามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาหรือขอรับบริการได้ตามทุกช่องทางการติดต่อ  ทาง CLC มีบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์สูงคอยให้คำปรึกษาทุกท่านเลยครับ

   สุดท้ายและท้ายสุด ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับท่าน และจะเป็นประโยชน์ยิ่งๆขึ้น หากท่านช่วยแชร์ให้ผู้ที่สนใจรอบข้างด้วย แล้วพบกันใหม่..ขอบคุณครับ

ผู้เขียน CHOK_AM

 

 

 

วิธีเลือกซื้อเกจบล็อก (Gauge block) ชนิดของเกจบล็อกและเลือกซื้อเกจบล็อกยังไงให้ตรงกับงาน

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

 

การหมุนปรับตั้งค่า และขั้นตอนการใช้งาน ประแจทอร์ค Torque Wrench TM-Series

ประแจปอนด์ ประแจทอร์ค TORQUE WRENCH, PRESET TYPE TM-SERIES ยี่ห้อ TONE

ประแจทอร์ค Torque Wrench TM-Series มีการใช้งานอย่างไรเหมาะกับงานแบบไหน

Torque Wrench TM-Series เป็น ประแจปอนด์ Torque Wrench ยี่ห้อ TONE จากประเทศญี่ปุ่น ลักษณะการทำงานเป็น Torque Wrench  ประเภทตั้งค่าไว้ล่วงหน้า (Preset type) ใช้สำหรับขันแน่น เช่น ขันโบลท์, นัทและชิ้นงานอื่นๆ เข้าด้วยกัน ตามค่าแรงบิดเป้าหมาย ซึ่งเราสามารถกำหนดและตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายได้เอง

ประแจปอนด์ Torque Wrench TM-Series โดยการใช้งานปกติแล้วสามารถใช้งานได้ 1 ด้าน คือ ขันไปด้านตามเข็มนาฬิกา (CW) และจะใช้ในการขันเข้าหรือขันแน่นเท่านั้น ซึ่งในที่นี้เครื่องมือจะมีค่าความแม่นยำ (Accuracy) เท่ากับ  ± 3% of Reading  และประแจทอร์ค Torque Wrench TM-Series นี้มีย่านการวัดเริ่มตั้งแต่ Range 1 N.m ไปจนถึง 300 N.m  และมีหน้าจอแสดงผลแบบตัวเลขที่ปลายด้ามจับสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเพื่อจะช่วยลดปัญหาการตั้งค่าแรงบิดที่ไม่ถูกต้อง

รูป 1.1 ประแจปอนด์ Torque Wrench TM-Series หน้าจอแสดงผลแบบตัวเลข

 

วิธีและขั้นตอนการใช้งาน ประแจทอร์ค Torque Wrench TM-Series

  1. ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง โดยการหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ
  2. เริ่มหมุนปรับตั้งค่าโดยใช้อุปกรณ์เสริม Hex Key (มีมาให้ในกล่อง) เสียบเข้าที่ปลายด้ามจับที่มีรูสำหรับให้เสียบตัวอุปกรณ์เสริม Hex Key
  3. เมื่อเสียบอุปกรณ์เสริม Hex Key แล้วให้ทำการหมุนปรับตั้งค่าให้ได้ค่าตามที่ต้องการ
  4. เวลาใช้งานให้ทำการขันให้แรงบิดไปเรื่อยๆ จนถึงค่าที่ตั้งไว้หากถึงค่าที่ตั้งไว้เครื่องมือจะส่งเสียงคลิก ก็ให้หยุดขันและจะมีแรงต้านเล็กน้อย (ประแจหัวฟรี) เพื่อเตือนให้ผู้ใช้งานทราบว่ามีการขันให้แรงถึงค่าแรงบิดเป้าหมายที่ตั้งไว้
รูป 1.2 แสดงการหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ Torque Wrench TM-Series โดยใช้ Hex Key

*** ข้อควรระวังการในใช้งาน ประแจทอร์ค  Torque Wrench TM-Series 

เนื่องจากใช้อุปกรณ์เสริม Hex Key ในการหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาปรับค่า  ผู้ใช้งานต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง ในการเสียบ Hex Key ต้องเสียบให้ตรงและตั้งฉากเพื่อให้ลงล็อคและแน่นก่อน จากนั้น ค่อยทำการหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ เพราะหากไม่ระวัง เมื่อใช้ไปนานแล้วรูเสียบ Hex Key จะมีการสึก เป็นผลให้หมุนปรับค่ายากขึ้น

ในการดูแลรักษาประแจปอนด์มีข้อควรปฏิบัติตามนี้

  1. เมื่อใช้งานเสร็จแล้วให้คืนค่าแรงบิด โดยปรับตั้งค่าแรงบิดให้อยู่ในค่าที่ต่ำสุด
  2. เช็ดทำความสะอาด โดยใช้ผ้าชุบน้ำมันเช็ดทำความสะอาด เพื่อป้องกันสนิม
  3. ห้ามทำ Torque Wrench ตกหล่น อาจเป็นผลทำให้ค่า Torque Wrench  คลาดเคลื่อนได้
  4. ควรมีการส่งสอบเทียบ เครื่องมือวัดประเภทนี้ควรส่งสอบเทียบอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเครื่องมือ ยังอยู่ใน Spec

ในส่วนของตัวประแจปอนด์ TONE Torque Wrench TM-Series จากประเทศญี่ปุ่นนี้ยังมีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้ รอบหน้าผู้เขียนจะมาแนะนำรุ่นอื่นๆ อีก ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ รอบรองว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันแน่นอนค่ะ รอบนี้ฝากไว้เท่านี้นะคะ หากมีข้อมูลตรงส่วนไหนตกหล่นผิดพลาดไปก็ขออภัยกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

 

 

 

รีวิวครบ! ประแจปอนด์ (Digital torque wrench) ละเอียดทุกจุด

สอบเทียบเครื่องมือด้าน Torque&Force    สินค้าด้าน Torque&Force

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

 

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้งาน Welding Force Gauge เครื่องวัดแรงกด

[ เครื่องวัดแรงกด ] ในโรงงานที่มีการเชื่อมต่อชิ้นงานในลักษณะใช้แรงกดทับและเชื่อมชิ้นงานติดกันโดยปล่อยกระแสไฟนั้นมีใช้กันอยู่มากมายหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีการใช้งานกันโดยทั่วไปนั้นจะต้องเข้มงวดในเรื่องคุณภาพของชิ้นงานที่ผลิตออกไปให้ได้ตามมาตราฐานที่กำหนดนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมคุณภาพไว้ โดยใช้เครื่องจักรที่มีคุณภาพในการควบคุมตั้งค่าแรงกดทับและเชื่อมชิ้นงานตามสเปกที่ลูกค้าได้กำหนดเอาไว้ เพื่อให้ชิ้นงานติดกันได้อย่างสม่ำเสมอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องจักรที่เราใช้งานในการผลิตชิ้นงานกันทุกๆวันนั้น มีแรงกดที่เที่ยงตรงตามที่ได้กำหนดไว้หรือไหม? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ?  แล้วมีเครื่องมือวัดชนิดไหนที่สามารถทดสอบเครื่องจักรเหล่านี้ได้บ้าง วันนี้เราจะได้มาทำความรู้จักกับเครื่องชนิดนี้กันมากขึ้น นั้นคือ !!

Welding Force Gauge เครื่องวัดแรงกด

เป็นครื่องมือวัดที่ใช้ทดสอบเครื่องจักรที่ใช้แรงกดเพื่อเชื่อมต่อชิ้นงานให้ติดกัน ตรวจเช็คค่าแรงกดของเครื่องจักรได้อย่างแม่นยำ และผู้เขียนแนะนำให้ส่งสอบเทียบเครื่องมือวัดทุกปี เพื่อตรวจสอบค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือ เครื่องวัดแรงกดมีขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ใช้งานง่ายไม่ซับซ่อนยุ่งยาก มีหลายขนาด Range ให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ 0-50 kN และใช้ขนาดพื้นที่ในการวางเก็บเครื่องมือน้อย

หน่วยการวัด ของเครื่องวัดแรงกด มีใช้เป็นหน่วยตั้งแต่ lbs, kg, N, kN

Welding Force Gauge มีกี่ประเภท?

เครื่องวัดแรงกดมีอยู่ 2 ประเภทคือ Analog และ Digital ดังนี้

1.Analog Type Welding Force Gauge

 

มีลักษณะหน้าปัดกระจกและมีเข็มวัดสองสี สีแดงเป็นเข็ม Peak จะค้างค่าสูงสุดไว้เมื่อใช้งานในขณะนั้น ส่วนเข็มดำเป็นเข็มวัดในขณะนั้น โดยจะดันเข็มแดง (Peak) ขึ้นไปที่ค่าสูงสุด มีหัวเซ็นเซอร์ตัวรับแรงกดที่ปลายด้าม มีหน่วยในการวัด kN หรือบางรุ่นจะเป็น N โดยจะมีหน่วยวัดให้แค่หน่วยเดียวให้เลือก ข้อดีคือ การใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ่อน โดยนำเครื่องวัดแรงกดดังกล่าวเข้าไปวางระหว่างแขนตัวเชื่อมด้านบนและล่าง (Electrode) จากนั้นควบคุมเครื่องจักรให้กดทับเกจวัดแรงกดตรงบริเวณเซ็นเซอร์ตัวรับแรงลงมาตามแรงที่กำหนดไว้ แล้วบันทึกค่าจากเข็มสีแดง (Peak) ที่ค้างไว้อยู่ ข้อเสีย ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการวัดได้ ตัวอย่างวิธีการใช้งานดังรูปที่ 1

รูปที่ 1 วิธีการใช้งานเครื่องวัดแรงกดแบบ Analog

2.Digital Type Welding Force Gauge

มีลักษณะเป็นหน้าจอแสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล มีเซ็นเซอร์ probe ตัวรับแรงกดแบบทั้งสายต่อแบบแท่นหรือแบบด้าม สามารถเปลี่ยนหน่วยในการวัดได้เช่น lbs, Kg, N, KN เซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง ส่วนวิธีการใช้งานตัวเครื่องวัดแรงกดแบบดิจิตอลจะคล้ายๆ แบบ Analog ตัวอย่างวิธีการใช้งาน ดังรูปที่ 2 สามารถใช้ฟังก์ชั่น Hold เพื่อจดจำค่าโหลดสูงสุดในระหว่างการวัดค่าจะแสดงผลขึ้นหลังการวัด ใช้ถ่านแบตเตอรี่ Alkaline เป็นแหล่งพลังงาน สามารถบันทึกค่าการทดสอบเครื่องจักรได้

รูปที่ 2 วิธีการใช้งานเครื่องวัดแรงกดแบบดิจิตอล

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้งาน เครื่องวัดแรงกด

  1. ระวังอย่าใช้ของแข็งกระทบหน้าปัดเครื่องมือแรงๆ จะทำให้หน้าจอแตกเสียหายได้
  2. อย่ากระแทกหัว Electrode ลงอย่างแรงไปที่เกจวัดแรงกด เพราะจะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้
  3. หลังจากใช้งานเครื่อง ควรทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้ง
  4. การใช้งานผิดวิธีจะทำให้เครื่องมือเสียหาย ควรใช้งานตามที่คู่มือระบุ
  5. ควรเก็บเกจวัดแรงกดในกล่องเก็บเครื่องมือหลังจากใช้งาน
  6. หลีกเลี่ยงการเก็บเครื่องมือในที่อับชื้น
  7. ควรส่งสอบเทียบประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวัดค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือ โดยบริษัทแคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบได้และได้รับการรับรอง Accredited 17025

CLC Scope lab (Accredited17025) เครื่องวัดแรงกด

ทางบริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบและได้รับการรับรอง Accredited ISO/IEC17025:2017 วิธีการสอบเทียบเครื่องมือ Welding Force Gauge ทั้งแบบ Analog และ Digital ของต่างประเทศ (ANAB จากประเทศสหรัฐอเมริกา)

Scope ที่ได้รับการรับรองตั้งแต่ Range 0.2 ถึง 220 kN โดยใช้วิธีการสอบเทียบแบบ Comparison with Force Transfer 

Credit By Timnorton

 

 

 

 

 

รีวิวครบ! ประแจปอนด์ (Digital torque wrench) ละเอียดทุกจุด

สอบเทียบเครื่องมือด้าน Torque&Force    สินค้าด้าน Torque&Force

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

เครื่องชั่งที่แม่นยำ ViBRA SJ-2200CEN

เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่องชั่งละเอียด ที่มีขนาดกะทัดรัดพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด เครื่องชั่งที่มีค่าความละเอียดสูง เราจะมาพูดถึงเครื่องชั่งละเอียดจาก ViBRA SJ-2200CEN ค่ะ

คุณสมบัติเครื่องชั่งละเอียด

  1. เป็นเครื่องชั่งที่มีประสิทธิภาพความละเอียดสูงและทนทาน
  2. สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้งานการชั่งต่างๆ อย่างกว้างขวาง
  3. ใช้ในงานห้องแลปได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ใช้งานง่าย สะดวก
  4. เหมาะกับอุตสาหกรรมทุกประเภทที่ต้องการใช้ชั่งน้ำหนัก

สเปคทั่วไปของเครื่องชั่งรุ่น SJ-2200CEN

  1. Capacity: 2200 g.
  2. Readability [d]: 0.1 g.
  3. Pan Size: 180×160 mm.
  4. Accuracy Class: II
  5. Tare: การตัดค่าน้ำหนักภาชนะเป็นศูนย์
  6. Over error: “o-Err” แสดงขึ้นเมื่อ Full Weight + 9 หลักเกิน
  7. ช่วงอุณหภูมิและความชื้น: 10 ~ 30 ℃ (ประเภทCEN), สูงสุดถึง 80% RH
  8. แหล่งพลังงาน: AC Adapter Input 100-240VAC / Output 12VDC
  9. สายสัญญาณ: RS232C

 

 

 

 

 

 

 

ข้อดีของ SJ-2200CEN

  1. ในเรื่องของการใช้งานซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมีขนาดกระทัดรัด
  2. สามารถใช้งานได้สะดวก แม้ในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
  3. มีความเที่ยงตรงและแม่นยำด้วยระบบ Stabilization ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องและแม่นยำ
  4. มีการตอบสนองรวดเร็ว ในส่วนของปุ่มกดการใช้งาน รูปแบบปุ่มเป็นแบบที่สามารถใช้งานดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
  5. มีหน้าจอเป็นแบบจอ LCD ที่มีขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน สะดวกในการใช้งาน

ในส่วนของการเตรียมใช้งานเครื่องชั่งละเอียดและการดูแลรักษานั้นเราก็มีวิธีการดีๆ มาแนะนำกันด้วยค่ะ

  1. โต๊ะสำหรับวางเครื่องชั่งจะต้องมั่นคงแข็งแรงไม่สั่น ไม่โก่งหรือแอ่นตัว
  2. เครื่องชั่งจะต้องถูกตั้งระดับน้ำ เพื่อให้เครื่องชั่งสมดุล
  3. ขาของเครื่องชั่งทุกขาจะต้องสัมผัสบนพื้นตลอดเวลา
  4. เปิดเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนใช้งาน เพื่อเป็นการ Warm เครื่อง
  5. การชั่งน้ำหนักต้องวางสิ่งที่ต้องการชั่งตรงกลางจานชั่ง
  6. ควรรีบนำสิ่งของที่ชั่งออกจากจานชั่งเมื่อชั่งเสร็จแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นภายในเครื่องชั่ง และเป็นการป้องกัด Load Cell ในตัวเครื่องชั่งล้า
  7. อุณหภูมิภายในห้องเครื่องชั่งควรคงที่ เนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป 1 องศาจะทำให้เครื่องชั่งอ่านค่าผิดไป 1-2 ส่วนในล้านส่วน และไม่ควรชั่งของที่ร้อน
  8. ความชื้นสัมพัทธ์ในห้องเครื่องชั่งควรอยู่ระหว่าง 45-60% ไม่อ่านค่าน้ำหนักถ้ามีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่า 20% และสูงกว่า 80%
  9. ป้องกันกระแสลมจากเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องมือที่ทำให้เกิดกระแสลม ซึ่งจะรบกวนการชั่ง
  10. การชั่งน้ำหนักควรชั่งในช่วง 1/3 -2/3 ของค่าพิกัดสูงสุดของเครื่องชั่ง
  11. ไม่ควรชั่งน้ำหนักเกินค่าพิกัดสูงสุดของเครื่องชั่ง
  12. ห้ามชั่งสารเคมีหรือวัสดุต่าง ๆ บนจานชั่งโดยตรง
  13. ห้ามชั่งสารหรือวัสดุในขณะร้อน ต้องรอให้เย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องเสียก่อน
  14. วางเครื่องชั่งให้ห่างจากหน้าต่าง เพราะแสงสว่างจากดวงอาทิตย์อาจทำให้ค่าน้ำหนักไม่แม่นยำ
  15. ทำความสะอาดเครื่องชั่งละเอียดหลังจากใช้งานเสร็จ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเรื่อง เครื่องชั่ง MODEL : SJ-2200CEN ยี่ห้อ VIBRA แบบดิจิตอล(Digital) หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่สนใจเครื่องชั่งดิจิตอล MODEL : SJ-2200CEN ยี่ห้อ VIBRA หากท่านกำลังมองหาเครื่องชั่งละเอียดสักเครื่องเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องชั่งละเอียด SJ-2200CEN ตอบโจทย์การใช้งานของท่านแน่นอน

นอกจากนี้ทางเราก็มีสินค้าจำหน่ายพร้อมสอบเทียบตามมาตราฐาน OIML-R76-1 หลากหลายแบบให้ท่านได้เลือกสรรค์ อีกทั้งให้ท่านเกิดความเชื่อมันในมาตราฐานระดับสากลของเราอีกด้วยค่ะ หากผิดพลาดหรือตกหล่นประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ 

ผู้เขียน BEW JJ.

 

 

 

 

ดีจริงมั้ย? Digital Balance จาก Vibra การดูแลรักษาทำอย่างไร

ซื้อเครื่องชั่ง ราคาพิเศษ คลิก     บริการสอบเทียบด้านมวลและเครื่องชั่ง

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

 

ไฟฟ้าสถิตมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทำความรู้จักกับเครื่องมือวัดไฟฟ้าสถิตกัน

เครื่องมือวัดไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Field Meters) 

เครื่องมือวัดไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Field Meters) เป็นเครื่องมือวัดที่ใช้ในการตรวจจับไฟฟ้าสถิต ซึ่งถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์เกิดความเสียหาย ไม่สามารถใช้ได้ เช่น อุปกรณ์จำพวก IC ที่ทำจากสารกึ่งตัวนำมักมีความไวต่อไฟฟ้าสถิตรวมถึงเครื่องมืออิเล็กทรอนิคส์ต่าง ๆ ที่มีแผงวงจรอิเล็กทรอนิคส์อยู่ภายใน เมื่อการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า เครื่องมือวัดไฟฟ้าสถิต Electrostatic Field เป็นเครื่องมือวัดชิ้นหนึ่ง ที่ใช้วัดไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นบริเวณใดบริเวณหนึ่งได้ สามารถแสดงค่าความต่างศักย์ออกมาเป็นแรงดัน (Volt) ใช้งานได้ง่าย

เครื่องวัดไฟฟ้าสถิต เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ที่ใช้วัดไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นได้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ได้ถูกออกแบบให้สามารถวัดไฟฟ้าสถิตของพื้นผิววัสดุ โดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับชิ้นงาน เครื่องสามารถตรวจวัดค่าไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นบนวัสดุต่างๆ เช่น พลาสติกเส้นใยเคมี ขนสัตว์ และร่างกายมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ง่ายและพกพาสะดวก เป็นเครื่องมือวัดที่จำเป็นต้องมีในกระบวนการการควบคุมและป้องกันปัญหาไฟฟ้าสถิตและ ESD ที่เกิดขึ้น โดยการใช้เครื่องมือวัดชี้ไปที่บริเวณที่ต้องการวัดห่างประมาณ 1 เมตร เพื่อให้ทราบว่าตรงนั้นมีไฟฟ้าสถิตอยู่เท่าใด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีประจุไฟฟ้าคงค้างอยู่ มีผลเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์หรือไม่ เพื่อจะได้หาวิธีทางแก้ไขต่อไปและอีกวิธีหนึ่งคือการวัดความต้านทานของพื้นผิว เพื่อให้ทราบว่าพื้นผิวนั้นสามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตหรือไม่ มีการวัดความเป็นฉนวนที่ไม่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ หรือใช้วัดพื้นที่การทำงาน รวมถึงถุงเท้า รองเท้า ที่ใช้ในการป้องการเกิดไฟฟ้าสถิตขณะทำงานด้วย

 

ไฟฟ้าสถิต (Static electricity หรือ Electrostatic Charges)

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไฟฟ้าสถิตคืออะไร มีผลอย่างไรกับอุปกรณ์ชนิดไหนบ้าง

ไฟฟ้าสถิต คือ การสะสมไฟฟ้าไว้ในตัวของวัตถุหรือปรากฎการณ์ที่เกิดจากประจุไฟฟ้าโดยที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากันปกติจะแสดงในรูปแบบของการดึงดูด การผลักกัน และการเกิดประกายไฟ

การเกิดไฟฟ้าสถิต

การที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากันทำให้เกิดแรงดึงดูดเมื่อวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุต่างชนิดกันหรือเกิดแรงผลักกัน  เมื่อวัสดุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุชนิดเดียวกันเราสามารถสร้างไฟฟ้าสถิตโดยการนำผิวสัมผัสของวัสดุ 2 ชิ้นมาขัดสีกัน  พลังงานที่เกิดจากการขัดสีกันทำให้ประจุไฟฟ้าบนผิววัสดุจะเกิดการแลกเปลี่ยนกัน  โดยจะเกิดกับวัสดุประเภทที่ไม่นำไฟฟ้าหรือที่เรียกว่าฉนวน มีการเข้าใจกันว่าไฟฟ้าสถิตมักจะเกิดในฤดูหนาว แต่ที่จริงแล้วไฟฟ้าสถิตเกิดได้ตลอดทั้งปีในอาคารที่ใช้แอร์หรือพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ในช่วงของฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูหนาว จะมีอากาศแห้งทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายจึงทำให้เราเห็นได้บ่อย และส่งผลให้เกิดปัญหามากมายในโรงงานผลิต เช่น เป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดเนื่องจากการปลดปล่อยประจุ มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ หรือว่าเป็นสาเหตุทำให้ฝุ่นหรือขยะมาจับเกาะภายในแผงวงจรต่างๆ

            ไฟฟ้าสถิตมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในกระบวนการผลิตอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิคส์นั้น มีทั้งปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิต และกระบวนการที่นำไฟฟ้าสถิตมาใช้ สำหรับโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ไฟฟ้าสถิตถือเป็นสิ่งที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆเสียหายและส่งผลให้อัตราการผลิตแย่ลง ในโรงงานผลิตจอภาพผลึกเหลวหรือที่เราเรียกกันว่าจอ LCD ในตอนที่ลอกฟิล์มออกจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต มีฝุ่นมาเกาะ และทำให้กลายเป็นของเสีย ไฟฟ้าสถิตยังเป็นสาเหตุที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ เช่น คอมพิวเตอร์ ทำงานผิดพลาดหรือชำรุดเสียหายได้ อีกทั้งการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าของไฟฟ้าสถิตก็ยังเป็นสาเหตุให้เกิดระเบิดได้อีกด้วย
            กระบวนการที่นำไฟฟ้าสถิตมาใช้ประโยชน์ก็ ได้แก่ เทคนิคการพ่นสีแบบไฟฟ้าสถิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร หรือรถยนต์ การทำให้ก๊าซไฮโดรเจนและน้ำมันเบนซินติดไฟได้โดยไม่ต้องจุดไฟ เครื่องดักจับฝุ่นแบบไฟฟ้า เป็นต้น ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าไฟฟ้าสถิตก็มีทั้งข้อดีละข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ประโยชน์อย่างไร

การป้องกันไฟฟ้าสถิต

ในความเป็นจริงแล้วคนเราไม่สามารถมองเห็นประจุไฟฟ้าบวกและลบได้ด้วยตาเปล่า สิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นในตัวเรา คือ การไม่สัมผัสกับวัตถุที่เกิดประจุไฟฟ้า ไม่สะสมไฟฟ้าสถิตเอาไว้ ปัจจุบันในโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ มีการใส่สายรัดข้อมือ (wrist strap) สวมใส่เสื้อและรองเท้าต้านไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดประจุไฟฟ้าในร่างกาย ซึ่งความดันไฟฟ้าที่เกิดจากประจุไฟฟ้าตอนเดินเมื่อใส่เสื้อและรองเท้าต้านไฟฟ้าสถิตจะต่ำกว่าตอนเดินใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้น ถ้ามีการใช้พื้นป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้า เพิ่มเติมจากการใช้เสื้อและรองเท้า

ต้านไฟฟ้าสถิตแล้วก็จะทำให้มีประสิทธิผลดียิ่งขึ้น จะเกิดไฟฟ้าสถิตที่แผ่นฉนวนไฟฟ้าอคริลิคตอนที่ลอกแผ่นออก หรือตอนยกกล่องโลหะที่วางไว้บนแผ่นอคริลิคขึ้นมา ไฟฟ้าสถิตที่เกิดบนแผ่นอะคริลิคจะลดลงและกำจัดออกไปตามเวลา ถ้าความชื้นสัมพัทธ์สูง การต้านการรั่วไหลของประจุไฟฟ้าจะเล็กลง ทำให้เวลาในการกำจัดไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากประจุไฟฟ้าของแผ่นอคริลิคสั้นลง ถ้าใช้สารลดแรงตึงผิวก็จะได้ผลเช่นกัน

การดูแลรักษาเครื่องมือ

1.จัดเก็บเครื่องมือไม่ให้อยู่ในที่ร้อนหรือชื้นเกินไป

2.หมั่นทำความสะอาดเครื่องมืออยู่เสมอไม่เก็บเครื่องมือไว้ในที่ที่มีฝุ่น

3.ตรวจเช็คสภาพเครื่องมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังจากใช้งานเสร็จ

4.ส่งสอบเทียบอย่างน้อย 1ปี/ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมืออ่านค่าได้แม่นยำ

การควบคุมไฟฟ้าสถิต มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้

1.ลดหรือขจัดเหตุในการเกิดไฟฟ้าสถิต มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น 

  • พื้น / วัสดุปูพื้น
  •  ความชื้นของอากาศในห้อง
  • เก้าอี้
  •  รองเท้า 
  • ชุดที่สวมใส่
  • วิธีทำความสะอาด 

2.สลายไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้น 

วิธีการนี้คือการต่อสายดิน (Grounding) เป็นการถ่ายเทประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นให้มีศักดิ์เป็นศูนย์ (0) เท่ากับพื้นดิน เราสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องไฟฟ้าสถิตได้โดยการให้พนักงานในสายการผลิตใช้ สายรัดข้อมือ (Wrist Strap) การใช้กระเบื้องยางปูพื้นชนิด Static Dissipative PVC หรือ Static Conductive PVC เป็นการป้องกันอีกวิธีหนึ่งที่ทำกันมาก

            ทั้งนี้ทาง บริษัทแคลิเบรชั่นแลบอราทอรี จำกัด  ของเรายังสามารถสอบเทียบเครื่องมือวัดไฟฟ้าสถิต และได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 (ANAB) อีกด้วยนะคะ หากลูกค้าท่านใดสนใจส่งเครื่องมือตรวจเช็คค่าสาใรถติดต่อได้ทุกช่องทางเลยนะคะ 

ผู้เขียน Katai

สอบเทียบเครื่องมือ Electrical

 2 เรื่องมักทำพลาด ในการใช้งาน Multimeter


ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

พูดคุยกับเรา

 

เครื่องมือที่ใช้สำหรับทวนสอบค่าประแจปอนด์ TORQUE WRENCH

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้เราจะมาพูดถึง TORQUE WRENCH CHECKER กันนะคะ หากพูดถึง TORQUE WRENCH CHECKER บางครั้งเพื่อนๆอาจจะเข้าใจได้หลากหลาย อาจจะหมายถึงเครื่องมือที่ใช้ในการสอบเทียบ (Calibration) ในห้อง LAB สอบเทียบ  หรือ เครื่องมือที่ใช้ทวนสอบค่า TORQUE WRENCH ในห้อง LAB เจ้าหน้าที่ QA, QC  ซึ่งมีหลายยี่ห้อ เช่น TONE, TOHNICHI, KANON เป็นต้น

โดย TORQUE WRENCH  CHECKER  นี้ที่เราจะกล่าวถึง จะเป็นเครื่องมือจาก TONE ประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้สำหรับทวนสอบค่าของ ประแจปอนด์ที่ใช้ทวนสอบค่าก่อนใช้งานและหลังใช้งานที่สามารถใช้เป็นประจำ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการทำงาน ว่าประแจปอนด์หรือ TORQUE WRENCH ที่เราขันใช้งานอยู่ในแต่ละวันมีค่าอยู่ใน Spec ที่ตั้งไว้

รูปที่ 1 Torque Wrench Checker รุ่น TTC-500

วันนี้เราจะมาพูดถึงคือประแจปอนด์ TORQUE WRENCH CHECKER, TTC-SERIES  ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-500 g เป็นสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ มีช่วงการใช้งานเริ่มที่ 20-500 N.m  สามารถขันใช้งานได้ในทิศทางตามเข็มนาฬิกาเท่านั้น (CW) มีค่า Accuracy ± 1%RD  ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก ใช้สำหรับทวนสอบค่า Torque Wrench ก่อนใช้งานและหลังใช้งาน ว่าเครื่องมือยังอยู่ใน Spec  หรือไม่ ซึ่งหากพบว่าไม่อยู่ใน Spec แล้วนะคะ ควรส่งเข้าสอบเทียบทันที เพื่อปรับค่าให้อยู่ใน Spec หรือส่งซ่อมกับผู้ผลิตค่ะ 

 ประแจทอร์ค Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-500 จะเหมาะกับการใช้งานกับ Torque Wrench ที่ใช้แรงไม่เกิน 500 N.m นะคะ ใช้งานได้กับ Torque Wrench แบบ Manual และแบบ Digital ค่ะ ที่มีขนาดแรงบิดปานกลาง อย่างรุ่น TTC-500 นี้ก็จะเช็คได้ในช่วง 20 – 500 N.m เท่านั้น หากแรงบิดมากว่านั้นต้องใช้ในรุ่นที่มีขนาดแรงบิดสูงกว่านี้ค่ะ

 

สำหรับวิธีการใช้งาน มีขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากค่ะ การใช้งานจะเหมือนกันกับรุ่น TTC-60 ตามที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้นะคะ
สามารถกดเข้าไปดูใน Link นี้ได้เลยค่

รูปที่ 2  Torque Wrench Checker รุ่น TTC-500 ขันใช้งานในทิศตามเข็มนาฬิกา

ข้อควรระวังประแจปอนด์

Torque Wrench Checker TTC-Series ยี่ห้อ TONE รุ่น TTC-500 นี้ จะเป็นเครื่องมือใช้สำหรับเช็คค่าแรงบิด Torque Wrench ที่เป็นแบบ Manual และแบบ Digital  เท่านั้นค่ะ   ห้ามนำ Torque ไฟฟ้ามาขันเช็คค่าแรงบิดโดยเด็ดขาด  เพราะจะทำให้เครื่องมือ Torque Wrench Checker เสียหายได้ค่ะ

ควรศึกษาคู่มือการใช้งานโดยละเอียดก่อนการใช้งาน เนื่องจาก  Torque Wrench Checker เป็นเครื่องมือระดับ Standard  มีราคาค่อนข้างสูงค่ะ จะต้องทำความรู้เพื่อให้ใช้งานได้ถูกวิธีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

การเก็บรักษาประแจทอร์ค

ไม่ควรเก็บประแจปอนด์ในที่ชื้นหรืออากาศร้อนนะคะ เพราะอาจจะทำให้เครื่องมือเสื่อมสภาพได้ง่ายค่ะ ควรมีกล่องเก็บอุปกรณ์ ในการจัดเก็บ  และส่งเทียบอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเครื่องมือ Torque Wrench Checker  ยังอยู่ใน Spec ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตามที่ข้อมูลได้กล่าวมาข้างต้น เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆทุกคนมากมายเลยทีเดียวค่ะ ในครั้งหน้าหากผู้เขียนมีสิ่งที่หน้าสนใจมาเพิ่มอีก จะมาเล่าสู่กันฟังกันอีกครั้งค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะกับบทความต่อไป แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

รีวิวครบ! ประแจปอนด์ (Digital torque wrench) ละเอียดทุกจุด

สอบเทียบเครื่องมือด้าน Torque&Force    สินค้าด้าน Torque&Force

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา 

 

 

 

 

Pi Tape คืออะไร? สำคัญอย่างไร

      ถ้าจะให้พูดถึง Pi Tape คงมีน้อยคนนักที่จะรู้จักถ้าไม่อยู่ในแวดวงของการวัดที่เกี่ยวข้องกับการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางหรือถ้าไม่ได้จำเป็นต้องใช้ก็จะรู้จักน้อยมาก ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงตัว Pi Tape กัน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเทปวัดตัวนี้กัน  เทปวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง สำหรับการวัดท่อหรือวัตถุทรงกลม สำหรับการใช้งานนั้นเพียงแค่นำเทปมาวัดรอบวัตถุทรงกลมที่ต้องการวัด และสามารถอ่านค่าเส้นผ่านศูนย์กลางได้ทันที

รูป Pi Tape

          เมื่อกล่าวถึงPi Tapeได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย  Norman Collins, Leo Cochran และ Harold Phillips เป็นบุคคลที่คิดค้นและพัฒนาระบบอุปกรณ์วัดของPi Tape Texasในปี 1944 ขณะทำงานในซานดิเอโก Norman Collins ได้พัฒนาวิธีการวัดด้วยเทปที่สามารถวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้อย่างแม่นยำโดยใช้การวัดเส้นรอบวง นอกจากนี้  Norman Collins เขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Harold Phillips, Sr. ซึ่งเป็นช่างเทคนิคการสอบเทียบและในปี 1966 Harold และ Norman ได้ร่วมมือกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของPi Tape Texas  ที่มีความหมายเหมือนกันกับการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางที่แม่นยำในระดับโลก ซึ่งในวงการงอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของอเมริกา เช่น Gemini, Apollo และ Saturn ของช่วงเวลานั้นก็ได้นำผลิตภัณฑ์ของPi Tapeเข้าไปใช้ในระบบการวัดด้วยเหมือนกัน และแม้กระทั่งบริษัทต่างๆ เช่น General Atomic, NASA, Lockheed, Rocketdyne, Ryan, Solar, Rohr, Convair, General Dynamics, Boeing และ Martin Marietta ต่างก็พึ่งพาเครื่องมือ Pi Tape เพื่อพัฒนาโครงการของตนตั้งแต่ท่อส่งก๊าซอะแลสกาไปจนถึงแท่นพิมพ์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เครื่องอัดรีดพีวีซี อุตสาหกรรมอวกาศและเครื่องบิน ไปจนถึงล้อรถยนต์Pi Tape Texas ได้ร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ มากว่า 71 ปี ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์เทปวัดที่มีนวัตกรรมและมีความแม่นยำที่สุดที่มีในระดับโลกเลยทีเดียว

           มาถึงตรงนี้เราคงพอจะรู้ที่มาที่ไปของกันบ้างแล้ว ปัจจุบันได้ถูกนำไปช่วยในระบบการวัดในส่วนของอุตสาหกรรมต่างๆ แพร่หลายมากขึ้น เช่น ในระบบอุตสาหกรรมท่อ, ยางรถยนต์, ขวด, อุตสาหกรรมพลาสติก หรืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในท้องตลาดก็มีอยู่หลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อ WINTAPE , Lufkin , KDS , INSIZE , Nihon Doki , BA-Metrologie หรือจะเป็นของยี่ห้อ Pi Tape เองโดยตรงก็มีจำหน่ายเช่นกัน   Pi Tapeเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของชิ้นงานที่มีรูปทรงเป็นทรงกลม ทรงกระบอกซึ่งวิธีการวัดก็นำมาวัดรอบๆชิ้นงานที่ต้องการวัดบนตัวของPi Tapeจะมีตัวเลขบอกขนาดอยู่ซึ่งจะมองเห็นง่ายชัดเจน

หลักการและวิธีการวัดPi Tape

ตัวอย่างการใช้Pi Tapeในการวัดงานและการอ่านค่าจากการวัด (ขนาด 15-50 mm)

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเทปและวัตถุที่จะวัดนั้นสะอาดทั้งคู่
  2. พันเทปไว้รอบๆ วัตถุที่จะวัด โดยควรให้สเกล Vernier อยู่ต่ำกว่าสเกล Gauge Member ดึงเทปที่พันรอบวัตถุให้แน่น
  3. การอ่านค่าจากการวัดตามตัวอย่างดูได้ตามรายละเอียดดังนี้
  • สเกลบน Gauge Member 1 เส้นจะมีค่าเท่ากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.25 mm ในขณะที่สเกล บน Vernier 1 เส้นจะแบ่งละเอียดได้ถึง 0.01 mm
  • ดูตำแหน่งเส้น “0” บนสเกล Vernier กับค่าที่มากที่สุดบนสเกล Gauge Member ที่ด้านซ้ายของเส้น “0” บนสเกล Vernier (จากตัวอย่างในรูปจะเป็นค่าที่ 27 mm บวกกับ 3 เส้นสเกล ดังนั้นจะได้ค่า = (27+3×0.25) mm = 27.75 mm
  • ต่อไปให้สังเกตุที่เส้นที่สเกล Vernier เรียงตรงกันกับสเกล Gauge Member (จากตัวอย่างจะเป็นเส้นที่ 15 ดังนั้นจะได้ค่าบนสเกล Vernier = 15×0.01 mm = 0.15 mm)
  • สุดท้ายเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุจะเท่ากับ ค่าที่อ่านบนสเกล Gauge Member รวมกับค่าที่อ่านได้บน สเกล Vernier (จากตัวอย่างจะได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุที่วัดคือ 25 mm + 0.15 mm = 27.90 mm)

การดูแลรักษาPi Tape

  1. เทปมีความละเอียดอ่อนควรใช้งานอย่างระมัดระวัง รักษาเทปให้สะอาดและแห้ง
  2. หลังการใช้งานแต่ละครั้ง เช็ดทำความสะอาด ทาน้ำมันป้องกันสนิมเล็กน้อย ม้วนใส่ในภาชนะเทปและเก็บในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นต่ำ
  3. เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือยังอยู่ใน Spec ควรส่งสอบเทียบห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025 อย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรระวังการใช้งานPi Tape

  1. สำหรับรุ่น White Easy to Read Tape Stainless หรือ 1095 Spring Steel ห้ามใช้น้ำมันหรือใช้ตัวทำละลายในการทำความสะอาดโดยเด็ดขาด
  2. ระวังไม่ให้เทปถูกเหยียบ หรือทำให้หัก

บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และมีสินค้าPi Tapeพร้อมจำหน่ายแล้ว ตอนนี้หากสนใจสั่งซื้อสามารถติดต่อขอรายละเอียดสินค้าได้ที่ฝ่ายขายของเราได้เลยค่ะ เราจำหน่ายพร้อม สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 จาก ANAB ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ    

ผู้เขียน Gamtui @^-^@

 

 

 

วิธีเลือกซื้อเกจบล็อก (Gauge block) ชนิดของเกจบล็อกและเลือกซื้อเกจบล็อกยังไงให้ตรงกับงาน

 

ขอใบเสนอราคา    ติดต่อเรา

บริการสอบเทียบด้านมิติ

 

หลักการทำงานของบารอมิเตอร์ เครื่องวัดความดันบรรยากาศ

Barometer (บารอมิเตอร์) เครื่องวัดความดันบรรยากาศ

ในปัจจุบันนั้น มีการนำเครื่องมือวัดความดันบรรยากาศมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตรวจสอบค่าความดันในห้องทดสอบซึ่งมีผลกับการใช้งานเครื่องมือวัด หรือชิ้นงานกว่าที่จะทราบหลักการทำงานของ บารอมิเตอร์ และประดิษฐ์มันขึ้นมาใช้งานนั้น ได้ใช้เวลานานหลายร้อยปี

Barometer  เป็นเครื่องมือตรวจวัดความดันบรรยากาศ เพื่อที่จะทราบและตรวจวัดหาค่าความกดดันที่เกิดจากแรงดันของมวลอากาศรอบๆ โดยใช้ของเหลวหรือวัสดุที่แข็งสัมผัสโดยตรงกับอากาศ ซึ่งแนวโน้นมการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศนั้นจะสามารถนำไปประมวลผลคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพของอากาศได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆได้นั้นเอง

ความดันบรรยากาศ (Atmospheric pressure) หมายถึงความดันอากาศโดยรอบ และจะมีค่าที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับความสูงของจุดที่เราวัด ซึ่งค่าความดันบรรยากาศ 1 atm. คือ ค่าความดันบรรยากาศโดยเฉลี่ยที่วัดที่ระดับน้ำทะเล โดยทั่วไปความกดอากาศต่ำ จะมีมวลอากาศต่ำกว่าข้างบน ด้วยเหตุผลแบบเดียวกันนี้ ความกดอากาศจะต่ำลงเมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้น ความกดอากาศที่ความสูงระดับน้ำทะเล จะเท่ากับ 1 atm (หนึ่งหน่วยบรรยากาศ) หรือ 101.325 kPa (กิโลปาสคาล) หรือ 760 mmHg (มิลลิเมตรปรอท) 

หน่วยที่ใช้ในการวัดความกดของอากาศนั้น อาจจะเป็นความสูงของปรอทเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ปาสคาล (Pascal) หรือกิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือมิลลิเมตรปรอทก็ได้ แต่ในปัจจุบัน ส่วนมากนิยมใช้หน่วยเป็น มิลลิบาร์ (mbar) เพราะเป็นหน่วยที่สะดวกกว่า

หลักการทำงานเครื่องมือวัดความกดอากาศ

  • อากาศมีความดันในทุกทิศทาง ความดันอากาศจะทำให้เกิดแรงดันที่สามารถผลักวัตถุต่างๆ เช่นน้ำ ปรอท หรือ สปริง ทำให้ระดับของเหลวหรือเข็มชี้เคลื่อนที่ ทำให้สามารถอ่านค่าได้โดยเปรียบเทียบกับสเกล
  • โดยการวัดความดันอากาศ ในแต่ละช่วงวัน จะพบว่า แต่ละช่วงวัน ความดันอากาศไม่เท่ากัน
  • โดยการวัดความดันอากาศ ในแต่ละระดับความสูงต่างๆกัน จะพบว่า ยิ่งสูงจากพื้นโลก ความดันอากาศยิ่งน้อยลง (ระดับปรอทในแท่งแก้วต่ำลง)

โดยในปัจจุบัน บารอมิเตอร์มีใช้งานตั้งแต่แบบเป็นเข็ม เป็นกราฟ และ แบบดิจิตอล รวมถึงมีฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆหลากหลาย เช่น วัดอุณหภูมิได้ บันทึกข้อมูลได้ แจ้งเตือนได้ เป้นต้น บารอมิเตอร์มีหลายชนิด เช่น บารอมิเตอร์ปรอท แอนิรอยด์บารอมิเตอร์ อัลติมิเตอร์ บารอกราฟ เป็นต้น โดยแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ บารอเมิเตอร์แบบแอนิรอยด์

แผนภูมิภาพชนิดของ บารอมิเตอร์ และหลักการทำงาน ขอบคุณภาพอ้างอิงจาก https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33789

ในภาคอุตสาหกรรมนั้น ได้มีการนำเครื่องวัดความดันบรรยากาศ (Barometer) มาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ประเภทของ Barometer มีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท

1.บารอมิเตอร์ แบบปรอท (Mercury Barometer) ประกอบไปด้วยแท่งหลอดแก้วใสขนาดเล็ก มีความยาวประมาณ 85 เซนติเมตร ปลายข้างหนึ่งเป็นปลายปิด ข้างในหลอดแก้วบรรจุสารปรอท มีอ่างปรอทไว้สำหรับพักสารปรอท การใช้งานแค่เติมปรอทเข้าไปในหลอดแก้วให้เต็ม แล้วคว่ำลงในอ่างปรอทโดยไม่ให้อากาศเข้าไปได้ เมื่อตั้งหลอดแก้วให้อยู่ในแนวดิ่งแล้ว ระดับปรอทในหลอดแก้วจะลดต่ำลงมาเล็กน้อย เกิดช่องว่างเหนือปลายปรอทด้านบน ภายในช่องว่างนั้นเป็นสุญญากาศ เมื่อความดันอากาศเปลี่ยนไป ความสูงของระดับขีดปรอทจะเปลี่ยนไปด้วย โดยเมื่อความดันอากาศภายนอกสูง จะทำให้ขีดระดับปรอทสูงขึ้น เมื่อความดันอากาศภายนอกลดลง ทำให้ความสูงของขีดระดับปรอทลดลง ที่ระดับน้ำทะเลความสูงของปรอทเท่ากับ 76 เซนติเมตร หรือ 760 มิลลิเมตร ความดันอากาศที่ระดับน้ำทะเลจึงมีค่า 760 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) หรือ 1,013 มิลลิบาร์ (mbar) ข้อดีคือมีความแม่นยำกว่าแบบแอนนิรอยด์บารอมิเตอร์ ข้อเสียคือพกพาไม่สะดวก

2.แอนนิรอยด์ บารอมิเตอร์ (Aneroid Barometer) ลักษณะคล้ายๆหน้าปัดนาฬิกา มีเข็มวัดชี้บอกค่าที่วัดได้ มีสเกลเป็นขีดวัด บารอมิเตอร์ชนิดนี้เป็นตลับโลหะแล้วนำเอาอากาศออกจนเหลือน้อย (คล้ายจะทำให้เป็นสุญญากาศ) การทำงานของบารอมิเตอร์ชนิดนี้อาศัยการอัดตัวของความดันจากภายนอก ทำให้แคปซูลซึ่งประกอบด้วยแผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm plate) สองแผ่นประกบกันเกิดการยุบตัวส่งแรงผ่านแผ่นสปริงบางๆ โดยเข็มจะหมุนชี้วัดค่าตามตำแหน่งความดันบรรยากาศที่วัดได้จริง ณ ขณะนั้น ภายในแคปซูลเป็นสุญญากาศที่่มีค่าต่ำกว่าความดันบรรยากาศมาก จึงมีค่าความไว (Sensitivity) ต่อการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศสูง อย่างไรก็ตาม โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนทางกล จึงให้ค่าความแม่นยำ (Accuracy) ต่ำกว่าการวัดด้วยของบารอมิเตอร์ชนิดปรอท (Mercury barometer) ข้อดีคือตัวเครื่องของแอนิรอยด์บารอมิเตอร์ มีขนาดเล็กพกพาไปได้สะดวก

3.อัลติมิเตอร์ (Altimeter) คือ แอนิรอยด์บารอมิเตอร์ที่ดัดแปลงมาเพื่อใช้สำหรับวัดความสูง หลักการทำงานใช้ทรานสดิวเซอร์วัดตำแหน่งและระยะทางชนิดเปลี่ยนแปลงค่าความจุไฟฟ้า สำหรับการตรวจจับการเคลื่อนที่ของแผ่นไดอะแฟรมได้ ซึ่งสัมพันธ์กับค่าความดันที่กระทำกับเครื่องมือวัดโดยแปลงค่าความดันเป็นความสูงจากพื้นโลก ใช้ในเครื่องบินหรือติดตัวนักกระโดดร่ม เพื่อบอกความสูง

4.บารอกราฟ (barograph) ใช้หลักการเดียวกันกับแอนนิรอยด์บอรอมิเตอร์ที่ถูกดัดแปลงมาบันทึกการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศเป็นชั่วโมง วัน หรือตลอดเดือนก็ได้ หลักการคือใช้แขนโลหะที่เป็นปากกาต่อเข้ากับกล่องที่ถูกดูดอากาศออกบางส่วน ปากกาจะเคลื่อนที่ตามการเปลี่ยนแปลงของตลับโลหะให้ไปขีดบนกระดาษกราฟที่หุ้มกระบอกหมุนที่หมุนด้วยนาฬิกา จึงบันทึกความกดอากาศ ซึ่งเคลื่อนที่ตลอดเวลาด้วยลานนาฬิกา

หน่วยวัดบรรยากาศ

  • 1 บรรยากาศ (atm) =013 25 บาร์ (bar)
  • 1 บรรยากาศ (atm) = 101325 ปาสกาล (Pa)
  • 1 บรรยากาศ (atm) =25 มิลลิบาร์ (mbar)
  • 1 บรรยากาศ (atm) = 760 ทอร์ (Torr)
  • 1 บรรยากาศ (atm) ≈ 760 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ที่ 0 °C
  • 1 บรรยากาศ (atm) ≈ 76 เซนติเมตรปรอท (cmHg) ที่ 0 °C

ข้อควรระวังในการใช้งาน บารอมิเตอร์ 

  1. ไม่ควรวางหรือกระแทกเครื่องบารอมิเตอร์แรงๆ จะทำให้กลไกด้านในเครื่องแตกหักเสียหายได้
  2. เช็ดหรือล้างทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้งหลังใช้งาน
  3. เก็บเครื่องมือไว้ในที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงสถานที่เก็บเครื่องมือใกล้มือเด็ก
  4. ควรศึกษาคู่มือก่อนใช้งานเครื่องมือทุกครั้ง
  5. ควรส่งเครื่องมือสอบเทียบทุกครั้งเพื่อเช็คค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือวัด

CLC Scope Lab (Accredited ISO/IEC 17025:2017)

ทางห้องปฏิบัติการ บริษัท แคลิเบรชั่น แลบอราทอรี จำกัด สามารถสอบเทียบ เครื่องมือ Barometer ได้และได้รับการรับรอง Accredited ISO/IEC 17025:2017 ของต่างประเทศ (ANAB จากประเทศสหรัฐอเมริกา) และ สมอ. (จากประเทศไทย)

 

 

Credited by Timnorton

บริการสอบเทียบความดันและสุญญากาศ

ขอใบเสนอราคา  ติดต่อเรา

พูดคุยกับเรา

Torque Wrench แบบตั้งค่าล่วงหน้า มีการใช้งานอย่างไร

Torque Wrench TMN-Series ยี่ห้อ TONE

ประแจปอนด์ Torque Wrench TMN-Series เป็น Torque Wrench ยี่ห้อ TONE จากประเทศญี่ปุ่นค่ะ เป็นประเภทตั้งค่าไว้ล่วงหน้า
(Preset type) ที่มีจอแสดงผลแบบตัวเลข สามารถมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดที่ต้องการการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ใช้สำหรับการขันแน่นหรือยึดน็อตกับชิ้นงานเข้าด้วยกัน โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายได้เอง ตามที่ผู้ใช้งานต้องการค่ะ มีวิธีการไม่ยุ่งยากค่ะ  Torque Wrench TMN-Series นี้  สามารถใช้งานได้ 1 ทิศทางนะคะ คือได้เฉพาะการขันเข้า (ขันแน่น) ทิศทางตามเข็มนาฬิเท่านั้นนะคะ (CW)  ซึ่งมีค่าความแม่นยำ (Accuracy)  ± 3% of Reading .,  มีย่านการวัดเริ่มตั้งแต่ Range 1 N.m ไปจนถึง 300 N.m  ค่ะ

รูป Torque Wrench TMN-Series

Torque Wrench TMN-Series  นี้โดยส่วนใหญ่แล้วทางผู้ใช้งานจะใช้นำมาขันชิ้นงาน ใช้ในการขันแน่นนะคะ เช่น งานที่ทางผู้ใช้งานนำมาใช้ได้แก่ งานประเภท  Automotive (ยานยนต์)  , Construction (การก่อสร้าง), ท่อก๊าซอุตสาหกรรม, ทางรถไฟ, แผงโซล่าเซลล์, Condensing unit ( คอมแอร์ ) และงานอื่นๆ ที่มีการขันให้แรงบิด เป็นต้น

 

รูปแสดง จอแสดงผลตัวเลขที่ด้าม Torque Wrench TMN-Series

สำหรับขั้นตอนการใช้งานประแจปอนด์ Torque Wrench TMN-Series นี้ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากเลยค่ะ  เนื่องจากมีหน้าจอแสดงผลแบบตัวเลขที่ปลายด้ามจับประแจทอร์ค  ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายโดยหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับได้เองโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมค่ะ  เมื่อผู้ใช้งานทำการให้แรงบิดถึงค่าที่ตั้งไว้เครื่องจะส่งเสียงคลิกและมีแรงต้านเล็กน้อยค่ะ

รูปแสดง การหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับ Torque Wrench TMN-Series

 

ข้อควรระวังการใช้งาน  Torque Wrench TMN-Series

เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าแรงบิดเป้าหมายโดยหมุนปรับตั้งค่าที่ปลายด้ามจับได้เอง หากไม่มีการทำความรู้ความเข้าใจในวิธีการใช้งานเบื้องต้นก่อน อาจเป็นผลทำให้เครื่องมือเสียหายได้ค่ะ เช่น เกิดการเสียหายที่ก้นหมุน เนื่องจากผู้ใช้งานอาจปรับตั้งค่าที่ก้นหมุนเกินย่านที่ใช้งานของเครื่อง อาจจะทำให้ก้นหมุนค้าง ไม่ขยับ ไม่สามารถหมุนปรับค่าได้ หากมีอาการแบบนี้นะคะ ให้ทำการส่งซ่อมทันที เพราะหากฝืนเครื่องมืออาจจะมีการแตกหักด้านในได้ค่ะ

ในการดูแลรักษาประแจปอนด์มีข้อควรปฏิบัติตามนี้

  1. ก่อนทำการใช้งานให้ทำความสะอาดน็อต และโบล์ทที่ต้องการขันก่อนการใช้งานเสมอ
  2. ในการขันใช้งานให้คำนึงถึงแรงของ Torque Wrench ก่อนเสมอ โดยปรับขนาดแรงให้เพมาะสมของขนาดน็อต และโบล์ท
  3. ในการเก็บประแจทอร์​คหลังใช้งาน ให้ทำการปรับแรงบิดกลับมาที่ค่าต่ำสุดเสมอ เพื่อคลายสปริงด้านในออก เนื่องจากอาจมีผลกับกลไกภายใน
  4. ห้ามนำประแจปอนด์ไปขันคลายน็อต (CCW) เนื่องจากใช้สำหรับขันแน่น (CW) ใช้ได้ทิศทางเดียวคือตามเข็มนาฬิกาเท่านั้น
  5. ห้ามทำ Torque Wrench  ตกหล่น ซึ่งอาจเป็นผลทำให้ค่า Torque Wrench  คลาดเคลื่อนได้
  6. ควรมีการส่งสอบเทียบ เครื่องมือวัดประเภทนี้ควรส่งสอบเทียบอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี โดยส่งสอบเทียบกับห้องปฏิบัติการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ที่ได้รับการรับรอง ACCREDIT ISO/IEC 17025:2017 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเครื่องมือ ยังอยู่ใน Spec สามารถใช้งานได้อยู่ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับเรื่องประแจปอนด์ Torque Wrench TMN-Series  TONE จากญี่ปุ่นพอจะหายสงสัยกันบ้างไหมคะ  ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆได้อ่านและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ให้กับเพื่อนๆอยู่บ้างนะคะ ฝากติดตามกันอีกครั้งกับบทความครั้งต่อไปค่ะ หากมีอะไรที่น่าสนใจจะมาเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกันอีกนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

ผู้เขียน Suphanun BDS

รีวิวครบ! ประแจปอนด์ (Digital torque wrench) ละเอียดทุกจุด

สอบเทียบเครื่องมือด้าน Torque&Force    สินค้าด้าน Torque&Force

ขอใบเสนอราคา   ติดต่อเรา